คำคม..ข้อคิด

 

คำคม..ข้อคิด ๓๖
25 ม.ค. 2563

 

แม้วันครู จะผ่านไปแล้วหนึ่งวัน คงไม่สาย ที่จะส่งผ่านข้อความถึงเหล่าศิษย์ ด้วยครูบาอาจารย์ คือผู้ทรงความรู้มากมาย แล้วให้วิชา ถ่ายทอด เผยแพร่ โดยไม่ปิดบัง
 
"ครู" คือ ผู้เดินนำหน้า อบรมสั่งสอน ให้ความเมตตาเปรียบประดุจ "แม่" คนที่สอง ที่พยายามประคับประคองให้ลูกศิษย์ได้ดี ทั้งเฝ้าอบรมสั่งสอนดูแลไปถึงทุกข์สุขของศิษย์ ครูเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์นำมาให้กับศิษย์ ไม่เคยคิดร้ายต่อ หรือเอาประโยชน์จากศิษย์ คือความหมายอันสมบูรณ์ ของคำว่า "ครูบาอาจารย์"
 
ขอให้ศิษย์ทั้งหลายระลึกถึง คำสอนของครู ความเหนื่อยยากของครู ความอดทนของครู แม้จะลำบากยากแค้น เผชิญเรื่องราวที่ไม่แตกต่างกับคนทั่วไป แต่ครูก็ฝ่าฟันเป็นแบบอย่างแห่งความดี คิดดี ทำความดีตลอดมา ขออานิสงค์ของความดีของ "ครู" ทั้งหลายในสากลโลก ดลให้ศิษย์ทุกคน ตั้งมั่นอยู่ในความดี และมีความสุขตลอดไปค่ะ
 
 
สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามและนำมาใคร่ครวญ มีสองเรื่อง คือเราต้องไม่ติดค้างใคร พยายามใช้คืนให้ได้ ไม่ว่าเป็นการกระทำหรือวัตถุ การกระทำ คือ เขาดีกับเรา เราต้องดีกว่าเขาให้มากกว่า เขาให้เรา เราต้องให้มากกว่า เป็นหนี้เงินใช้เงิน ถ้ายังไม่มี ก็เอาตัวเข้ารับใช้ดูแล ก่อนที่จะเป็นวัวเป็นควายให้เขาใช้ในชาติหน้า เป็นหนี้บุญคุณ ต้องเอาใจใส่ดูแลเขา ข้าวหนึ่งเม็ดน้ำหนึ่งหยดที่หล่นใส่ปากโจร ยังถือเป็นบุญคุณไม่ปล้นบ้าน เราต้องดูแลใส่ใจคนที่มีคุณ จะเป็นมงคลกับชีวิต มีลูกหลานบริวารดี
 
อีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ คือปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างมีปัญญา หมายถึงร่วมทุกกิจกรรมที่ดี ส่งเสริมและเป็นมิตร หลีกเลี่ยงอย่างบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นเมื่อไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ 
คือสัมมาทิฐิแล้วค่ะ...ตั้งตนไว้ชอบ
 
 

เช้าวันแรกของสัปดาห์ที่ต้องสดใส ตั้งใจดี เป็นสัมมาทิฐิ โดยไล่เรียงทบทวนสิ่งที่ผิดพลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา และคิดใหม่ที่ดีกว่าเดิม รวมถึงแผนงานที่วางไว้ว่ารอบคอบหรือยัง ยังมีอะไรที่บกพร่องบ้าง เพื่อแก้ไขให้ดีกว่าเดิม

อย่างนี้เรียกว่า เรามีอิทธิบาทสี่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งถ้าเริ่มอย่างนี้ทุกเช้า จัดว่าเรามีสัมมาทิฐิในการงาน

เราคล่องกับการมีอิทธิบาทสี่และสัมมาทิฐิอย่างนี้ก็นำมาปฏิบัติในการสร้างศีล สมาธิ และปัญญา จึงเรียกว่า สว่างทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ

 

 

เราอาจมีเรื่องคิดหนัก ปัญหารุมเร้า เพราะสิ่งหนึ่งที่เราเรียกว่า ความหวาดระแวง สิ่งใดที่เราคิดว่าเป็นของเรา สิ่งใดที่เป็นของรัก สิ่งใดที่เรายึดว่าต้องเป็นอย่างที่เราคิด เราจะมีเจ้าหวาดระแวงนี่แหละติดเป็นเงาตามตัว
 
จงเป็นก่อนที่มันจะเป็น
 
คือเมื่อเราห้ามความระแวงไม่ได้ ก็ลองคิดสมมติว่าเป็นอย่างที่เราระแวง เราจะทำอย่างไร หาทางออกอย่างไร ซึ่งแนะนำได้อย่างสั้นๆ ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตัวเราต้องรักตัวเรา ถนอมความรู้สึกตัวเรา เก็บความรู้สึกที่ออกนอกตัวมาไว้กับตัวเอง เพิ่มทางเลือกให้ตัวเอง มีสิ่งที่รักที่ชอบให้มาก หรือมีกิจกรรมให้ตัวเองทำไม่มีเวลาว่าง เป็นต้น
 
ความระแวงเป็นหนึ่งในสิบหกประการของความเศร้าหมองจิต จงขจัดมันออกไปด้วยสติและปัญญา

 

คือวิธีรักษาใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ
 
 
คิดอะไรได้ ใจเราก็ผ่องใส คิดอะไรไม่ออก หน้าตาเราก็บอกถึงอารมณ์ ไม่ได้ดังใจคิด เราก็หงุดหงิดรำคาญใจ บางครั้งอยากได้อะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน บางครั้งเราก็ฟุ้งซ่าน คิดไม่ตกเสียที ช่วงเวลาอย่างนี้ ไม่ต้องคิดมาก เราต่างเป็นเหมือนกันทุกคน เราควรหาเวลาทบทวนในสิ่งที่เรากำลังสับสน ทบทวนการกระทำตลอดวัน แทนที่จะปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านหาความสงบไม่ได้
 
ทำใจให้นิ่ง บังคับใจให้หยุด แล้วแยกแยะว่า พรุ่งนี้จะทำในสิ่งที่ตนชำนาญก่อน อย่าขอพรพระให้สำเร็จ โดยที่เรายังไม่รู้จักตนเอง
 
จงอย่าทำในสิ่งที่เราไม่ชำนาญ และควบคุมไม่ได้ หากเริ่มต้นไปแล้วถึง 80 เปอร์เซนต์ เพิ่งเห็นว่าไปไม่ไหว ก็ควรหยุดคิดสักนิด เพราะยังมีเหลืออีก 20 แต่ถ้าดันทุรัง คราวนี้ติดลบ
 
ทำอะไรก็ได้ที่เราควบคุมได้ทั้งหมด ทำใจให้นิ่ง รอคอยให้กาลเวลาเป็นตัวตัดสินเมื่อยังไม่แน่ใจ
 
พิจารณาอย่างนี้เมื่อจิตเริ่มสงบ จึงไหว้พระ สวดมนต์ ทำสมาธิ ปิติเกิดปัญญาเกิด จะเห็นทางทุกสิ่งทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ
 
 
ความสุข ความสำเร็จ ความสมหวัง ตัวของเราเป็นผู้จัด ผู้หา ผู้กระทำ ผู้เลือกทั้งสิ้น เป็นอิสระแก่ตน ไม่มีผู้ใดบีบบังคับ โชคชะตา ณ ปัจจุบัน เป็นผลมาจากตัวเราในอดีต
 
ทุกงาน สำเร็จด้วยความตั้งใจ ตั้งแต่เตรียมงาน
 
งานบุญ งานรื่นเริง ต่างสำเร็จ ด้วยความตั้งใจ เตรียมงาน และร่วมแรงร่วมใจ ไม่ต่างกัน
 
รู้ได้อย่างนี้ จะทำเรื่องใด อย่างไร ใหญ่น้อย ต่างสำเร็จด้วยวิธีคิดวิธีทำอย่างเดียวกัน คือหนึ่งสิ่งในหลายสิ่ง
 
ปีใหม่จีน ปีใหม่สากลก็จัดเป็นเดือนแรกของปี เราก็กำหนดผลที่จะได้ปลายปี ด้วยความตั้งใจ เตรียมงานวางแผน ตั้งแต่ต้น ก็จะผ่านพ้นอย่างมีความสุขไปตลอดปี
 
ตลอดปีที่ผ่านมา เราประเมินผลตัวเองว่า นำสิ่งดี ก้าวหน้า มาสู่ชีวิตได้ผลเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ ถ้ายัง จะแก้ไขปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ดีขึ้นในปีต่อไป คิดให้เป็น ทำให้เป็น เราจะก้าวหน้าประสพความสำเร็จในทุกปีที่ผ่านไป
 
ผ่านไปหนึ่งเดือนของปีนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุข กับทุกสิ่งทุกอย่างทีเข้ามาในชีวิต อุปสรรคคือครู ความสำเร็จคือรางวัล ความลำบากสอนให้ประมาณตน ความสบายคือผลแห่งความเพียร
 
โรคระบาดจะมา เดี๋ยวมันก็ไป แม้จะมีผลกระทบต่อเราหรือไม่ก็ตาม จงมีกำลังใจ
และขอให้มีความสุขไปตลอดปีค่ะ
 
 
ในการทำงาน เราอยากได้คนมีฝีมือ เราต้องเป็นคนมีฝีมือ
 
เราอยากได้คนขยัน เราต้องขยัน
 
เราอยากได้ลูกน้องบริวารดี เราต้องเป็นลูกน้องบริวารที่ดี
 
เราอยากได้ลูกดีเราก็ต้องเป็นลูกที่ดี
 
เราไม่อยากได้คนมีปัญหา เราก็ต้องเป็นคนไม่มีปัญหา
 
สรุปคือ อยากได้อะไร เราก็ต้องเป็นแบบนั้นให้ได้ เพราะเราจะเป็นคนที่เดาใจ เดาทาง และมองการณ์ออก รวมถึงการดูคนเป็น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำการค้า ธุรกิจ
 
ที่แน่ๆ อยากรวย ต้องเพียรทำงาน ลองคิด ลองผิด ลองถูก ข้อมูลครบถ้วน เผื่อทางถอย รู้จังหวะรุก ใครที่สามารถเก็งการณ์ได้แม่นยำที่สุด คือคนที่พลาดยาก ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลแล้ว