ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

โหราศาสตร์แนะแนว ตอนที่ ๑๒ - ราศีต่างๆ ๑
31 มี.ค. 2560

 

เมษ, พฤษก, เมถุน, กรกฎ, สิงห์, กันย์, ตุลย์, พิจิก, ธนู, มังกร, กุมภ์, มีน

 

เราพอจะรู้จักเรื่องราวของดวงดาวพอเป็นสังเขป รวมถึงดาวเคราะห์เจ้าเรือนหรือเจ้าของราศีไปเรียบร้อย เช่น สำหรับราศีเมษมีดาวพลูโตเป็นดาวเจ้าเรือน หรือราศีสิงห์มีดาว ๑ เป็นดาวเจ้าเรือน เป็นต้น

 

เรียกได้ว่า เอ่ยถึงราศีใด ก็จะนึกถึงดาวเจ้าแห่งราศีนั้นๆ ได้ และต้องจดจำไว้จนขึ้นใจ

 

เราต้องมาทำความเข้าใจก่อน ถึงความสำคัญระหว่างราศีทั้ง ๑๒ กับดาวเจ้าเรือนแต่ละเรือน เพื่อเป็นพื้นฐานของการทำนาย รวมทั้งการจัดทำเลที่บังเกิดผลที่สุด

 

ดังที่เราได้ทำความเข้าใจกันอยู่แล้วว่า เรื่องราวของมนุษย์ที่เกิดขึ้นนั้น สัมพันธ์กับกระแสและวิถีทางโคจรของดวงดาว และเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนั้น ก็จะมีทั้งเรื่องที่มีตัวตน เห็นได้ จับต้องได้ และเรื่องที่ไม่มีตัวตน ไม่อาจจับต้อง แต่รู้สึกได้ ได้แก่ ความรู้สึกนึกคิด จิตใจ

 

การเรียนโหราศาสตร์ เป็นการเรียนเรื่องราวของมนุษย์ ซึ่งรวมไปถึงสังคมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา สังคมของโลก อันรวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา การสมาคม การอยู่ร่วมกันของสังคมในลักษณะของคณะ รวมถึงครอบครัวด้วย เปรียบเทียบทางพุทธศาสนาของเรา เราสามารถแจกแจงออกเป็นรูปธรรม คือฝ่ายวัตถุ และนามธรรม ซึ่งก็คือ ด้านจิตใจ ด้านความรู้สึกนั่นเอง

 

เพราะฉะนั้น สามารถแยกแยะให้ชัดเจนในทางโหราศาสตร์ได้ว่า มนุษย์ในแง่จิตใจ ก็คือราศีทั้ง ๑๒ และในด้านวัตถุ คืออิทธิพลของดวงดาวที่เข้ามากระทบในลักษณะต่างๆ  ที่จะได้กล่าวถึงต่อไป

 

อันราศีทั้ง ๑๒ ก็คือ นับตั้งแต่ราศี เมษ เป็นต้นไปจนถึงราศี มีน

 

ผู้ที่มีลัคนาอยู่ราศีเมษ ก็จะมีชีวิตจิตใจหรือพื้นนิสัยไปตามลักษณะราศีเมษ ที่มีแกะเป็นสัญลักษณ์ และเนื่องจากเป็นต้นราศีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสองข้าง จึงมีความหมายในทางความสมดุล ที่โลกนี้ต้องมีอะไรที่เป็นสองด้านเสมอ เช่น ความมืดคู่กับความสว่าง ผู้หญิงคู่กับผู้ชาย มีเหนือกับใต้ เป็นต้น

 

ราศีเมษ มีความหมายของการริเริ่ม เป็นพลังที่ไม่หยุดนิ่ง มีการเคลื่อนไหว และเป็นลักษณะของการช่วยผู้อื่นก่อสร้าง หรือริเริ่ม มากกว่าจะทำให้กับตัวเอง

 

ต้องบอกว่า ชอบริเริ่ม แต่ไม่ค่อยจะสานต่อ อย่างนี้เป็นนิสัยใจคอ แต่เมื่อมีดาวมากระทบ ก็เปรียบเสมือนเป็นสภาพแวดล้อมทางวัตถุ เช่น มีดาวศุภเคราะห์มาร่วมด้วย ก็เท่ากับเป็นคนจับจด แต่ถ้าเป็นดาวบาปเคราะห์ ก็ต้องเหนื่อยที่จะสร้าง หรือต้องคอยแก้ปัญหาให้คนอื่น เป็นต้น

 

บุคคลที่ลัคนาสถิตในราศีนี้ จะเป็นคนที่รักอิสระ รักที่จะเดินทาง ชอบการลงทุน ทำการค้า ริเริ่มโครงการต่างๆ จิตใจอ่อนโยน ชอบอยู่โดดเดี่ยว เป็นอิสระ ไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับใครมากนัก

 

สำหรับราศีพฤษกสัญลักษณ์เป็นวัว มีนิสัยไปทางวัว หมายถึงการรับคำสั่ง หรือหมายถึงผู้เก็บรักษา ราศีนี้จึงมักหนักแน่น เป็นนักปฎิบัติตามกฎเกณฑ์ มากกว่าจะนอกคอก ไม่ใช่ผู้ริเริ่มอย่างราศีเมษ แต่ความตั้งใจของราศีนี้เปลี่ยนค่อนข้างยาก เพราะเป็นราศีที่ดื้อเหมือนวัว แต่หากมอบหมายอะไรไปจะทำให้สำเร็จ ข้อดีคือ ทนทาน มีคุณสมบัติในทางมั่นคงและความร่ำรวย และเช่นเดียวกัน หากมีกระแสสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ ก็จะดื้อแบบมิจฉาทิฐิ แต่ถ้าเป็นศุภเคราะห์ ก็จะมีคุณสมบัติที่ดี มีระเบียบแบบแผน และตรงไปตรงมา

 

การทำความเข้าใจลักษณะการทำนาย และแยกแยะให้เห็นอย่างชัดเจนอย่างนี้ นอกจากจะทำให้ผู้พยากรณ์เกิดความเข้าใจในปกรณ์ของการทำนายแล้ว ยังทำให้สามารถจัด ปรับประยุกต์ ให้เข้ากับการปรับสภาพแวดล้อมทางวัตถุแทนดวงดาว โดยการจัดทำเลแวดล้อมตัวเองเพื่อหวังผลในสิ่งที่เราต้องการ

 

สำหรับราศีเมถุน ลักษณะของราศีนี้ แม้จะเป็นราศีคนคู่ อันหมายถึงคนสองคน แต่ก็ยังหมายถึง เงาของสิ่งหนึ่งกับตัวจริงของมันด้วย มีความหมายถึง ความจริงหรือสิ่งลวงตา ก่อให้เกิดความลังเล ทำอะไรก็ต้องทำ 2 ครั้ง ทำอะไรก็ต้องถามอีกคนว่าดีหรือเปล่า ต้องมีคู่คิดตลอด ราศีเมถุน เป็นราศีแห่งสติปัญญาของโลก จึงมีผลทำให้อิทธิพลของราศีนี้เป็นไปในทาง ลังเล คิดทบทวน มองอะไรก็ต้องมองสองแง่ ให้เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถ้าได้รับกระแสของดวงดาวที่มีธาตุอ่อน จะส่งผลให้เป็นคนลังเล อาจเรียกได้ว่าเป็นคนสองใจ แต่ถ้าได้รับกระแสอิทธิพลจากดาวบาปเคราะห์ หรือดาวที่มีธาตุแรงๆ ก็ส่งผลให้เป็นคนคิดอะไร ก็คิดสองแง่ และเป็นคนรอบคอบ ไม่รับปากอะไรใครง่ายๆ

 

ราศีเมถุนยังหมายถึงการริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอะไรได้มากกว่าคนอื่น มีความรู้สึกสัมผัสพิเศษ มีพลังสูง เหมือนมีพลังสองคนในตัว

 

ราศีกรกฎ เป็นราศีของปู เป็นราศีของความเก็บซ่อนตัว ชอบสังคม แต่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับตัวเอง เก็บซ่อนตัวเองเหมือนปู หนีไว้ก่อนมีเรื่องอะไรเอาตัวรอดไว้ก่อน มีอิสระเหมือนกับราศีเมษ เป็นราศีที่ต้องวิ่งเต้นตลอดเวลา หวาดระแวงนิดๆ มีอิสระตัวเอง มีความคิดของตัวเอง ทำอะไรก็ไม่ให้คนรู้เรื่องของตนเอง รู้เขาดีกว่ารู้เรา โดดเดี่ยว อ่อนโยน อ่อนน้อม ฉลาด ชอบอยู่ในที่อุดมสมบูรณ์ จัดบ้านเก่ง

 

ราศีกรกฎ เป็นราศีที่อ่อนไหวต่อความรู้สึก เป็นราศีของเพศแม่ และมีความหมายของการสร้างครอบครัว มักระมัดระวัง เอาใจใส่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน ถ้าเกี่ยวข้องกับดาวศุภเคราะห์ จะให้ความหมายในทางที่ดี ตรงกันข้าม ถ้าเกี่ยวข้องกับดาวบาปเคราะห์  ให้ความหมายไปในทางลบ คืออาจตระหนี่ หรือรักษาผลประโยชน์ของตนเองมากเกินไป

 

ราศีสิงห์ เป็นราศีของดวงอาทิตย์ จึงเป็นราศีที่ได้รับพลังจากแสงอาทิตย์ เป็นราศีที่มีพละกำลังที่เคลื่อนไหว สามารถชักจูงผู้คนไปสู่วัตถุประสงค์ หรือมีกำลังพอที่จะหันเหความคิดคนไปในทางเดียวกัน มักมีเสน่ห์ประจำในอันที่จะดึงดูดผู้อื่น ได้รับกระแสสัมพันธ์จากดาวที่มีตำแหน่งดี ก็เป็นการส่งเสริมคุณสมบัตินี้ให้ดียิ่งขึ้น หากเป็นดาวที่ร้าย ก็จะส่งผลให้เป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ

 

ราศีสิงห์เป็นราศีแห่งอำนาจ กล้าหาญ โดดเด่น ผู้นำ เด็ดเดี่ยว ไม่กลัวคน ไม่มีเมตตา ดื้อเหมือนสิงโต เชื่อคนง่าย ใครที่มีลัคนาราศีสิงห์จะต้องระวังเพราะจะเสียคนเพราะความเย่อหยิ่ง และความอวดดีของตัวเอง