คำคม..ข้อคิด

 

คำคม..ข้อคิด ๓๒
31 ม.ค. 2562

 

เรามีความกลัว ความอึดอัด ความหวาดระแวง ความตึงเครียดจากงาน การเงิน ความทุกข์ทรมานที่คนที่รักที่สุด ใกล้ตัวที่สุด ทรยศ หลอกลวง และยากมากที่จะเดินออกจากความรู้สึกนั้น อาจมีคำแนะนำให้ไปวัด ซึ่งถึงไปนั่งที่วัดเป็นวันเราก็ไม่หายจากความรู้สึกแบบนี้ใช่ไหมคะ เพราะทุกข์มันอยู่ที่ใจ 
 
เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมเราตกนรกที่ใจ ด้วยความเร่าร้อนกระวนกระวาย ถูกเผาผลาญด้วยไฟเย็น ถามตัวเองก่อนอย่างตั้งใจว่า ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิด ไฉนจึงสร้างนรกให้ตนเองลงไปก่อน บุญของเราที่ยังมีอยู่ มีอะไรบ้าง เช่น บุญที่มีเพื่อน บุญที่มีลูก บุญที่มีคนที่รักและอุปถัมภ์ บุญที่ยังได้มีชีวิตเห็นสิ่งดีๆ กรรมดีๆ ที่รอให้ผลกับเรา บุญที่ยังมีสิ่งที่เราชอบให้ทำโดยไม่มีใครบังคับ อย่าพยายามไปแก้ปมที่เรารู้อยู่แก่ใจว่าแก้ไม่ได้ 
 
เวลาเราจัดฮวงจุ้ย เราจะจัด ลบ สิ่งที่เสียด้วยการให้สิ่งที่ดีเด่นกว่า กลบให้สิ่งที่ไม่ดีลบจากสายตา ฉันใดฉันนั้น พยายามมองสิ่งที่ดี ทำสิ่งที่ดี ให้มากที่สุด กลบ ลบ สิ่งที่อยู่ในใจของเราให้หมดไปนะคะ เอาใจช่วยทุกคนที่กำลังเผชิญอยู่ค่ะ
 
 
การมองในมุมเดียว คือการมองโดยเอาความคิดของเราเพียงคนเดียวเป็นบันทัดฐาน ไม่เคยมองวิธีคิดของคนอื่น คือการไม่ให้เกียรติคนอื่น และมักทำให้มีเรื่องไม่เข้าใจกัน ผิดใจกัน เพราะรู้จักแต่ตัวเองไม่รู้จักคนอื่นเลย
การมองว่าสิ่งที่เราคิดต้องถูกเสมอ จะคิดได้อย่างนี้ต้องมีองค์ประกอบ เช่น ความเป็นผู้มากประสบการณ์ ความเป็นผู้มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ความเป็นผู้รู้ จนสามารถกล่าวได้ว่าไม่มีผู้รู้เกินกว่าโดยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ถ้าได้พบบุคคลเช่นนี้ จะมอบหมายงานใดให้ ต้องวางใจ ไม่ตรวจสอบ เพราะคือการไม่ให้เกียรติและหลบหลู่ สติปัญญาตนเองและผู้ที่เรามอบหมาย อย่างนี้เรียกว่า ก้าวก่าย นำมาซึ่งปัญหาในการทำงาน
 
อยากมีคนดีช่วย อยากมีบริวาร ต้องเก่งจัดการอยู่เบื้องหลัง อยากเอาหน้า มีผลงานก็ต้องทำเอง บริวารหรือคนดีไม่มีใครมา จงถอยหนึ่งก้าวจะเห็นโลกกว้างขึ้น 
 
ทบทวนและเตือนสติสำหรับศิษย์ของอาจารย์ทุกคนค่ะ
 
 
ครูบาอาจารย์ คือผู้ทรงความรู้มากมายแล้วให้วิชา ถ่ายทอด เผยแพร่ โดยไม่ปิดบัง 
 
"ครู" คือ ผู้เดินนำหน้า อบรมสั่งสอน ให้ความเมตตาเปรียบประดุจ "แม่" คนที่สอง ที่พยายามประคับประคองให้ลูกศิษย์ได้ดี ทั้งเฝ้าอบรมสั่งสอนดูแลไปถึงทุกข์สุขของศิษย์ ครูเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์นำมาให้กับศิษย์ ไม่เคยคิดร้ายต่อ หรือเอาประโยชน์จากศิษย์ คือความหมายอันสมบูรณ์ ของคำว่า "ครูบาอาจารย์"
 
วันครู นี้ ขอให้ศิษย์ทั้งหลายระลึกถึง คำสอนของครู ความเหนื่อยยากของครู ความอดทนของครู แม้จะลำบากยากแค้น เผชิญเรื่องราวที่ไม่แตกต่างกับคนทั่วไป แต่ครูก็ฝ่าฟันเป็นแบบอย่างแห่งความดี คิดดี ทำความดีตลอดมา ขออานิสงค์ของความดีของ "ครู" ทั้งหลายในสากลโลก ดลให้ศิษย์ทุกคน ตั้งมั่นอยู่ในความดี และมีความสุขตลอดไปค่ะ
 
 
ปีนี้กำลังผ่านพ้นไป เข้าสู่ปีใหม่ เราก็คาดหวังว่าปีใหม่นี้ ทุกอย่างของเราจะดีขึ้นกว่าเดิม
 
มาใคร่ครวญ ให้ทุกวันดีขึ้นตลอดไปดีไหมคะ
 
ทุกวันที่เราดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่ทำงาน ในหมู่เพื่อนๆ สังเกตว่ามี วันดี วันร้าย และเรามักจะไม่มองที่เหตุ เพียงแต่รำพึงรำพัน เมื่อวันร้าย และดีใจเมื่อวันดี
 
ลองมาใคร่ครวญใหม่ว่าเมื่อวันดี ทำไมถึงดี ดีเพราะคุยดี วาจาดี มีน้ำใจต่อกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย ดีเพราะผลแห่งกรรมดีของเราในอดีต ดีเพราะเรามีน้ำใจกับเขาตลอดมา ดีเพราะความอ่อนน้อมถ่อมตนของเรา
 
ในทางกลับกัน ที่ว่าวันร้ายนั้นเหตุและองค์ประกอบอะไรบ้าง ควรใคร่ครวญเหตุที่เกิด เพราะอะไร โดยต้องไม่ลืมองค์ประกอบสำคัญคือตัวเราว่า ตัวเรามีเหตุอะไร เรื่องจึงมาที่เรา เราละเลยอะไรไปบ้าง อย่าไปคิดผิดๆว่า เราถูก เราดี เราอยู่ดีๆ ทำไมถึงเกิดสิ่งไม่ดี การยึดในสิ่งที่เราเป็น เรามี ด้วยวัย ด้วย คุณวุฒิ เหล่านี้ ทางธรรมเรียกว่า มีมิจฉาทิฐิ ซึ่งสามารถนำเรื่องต่างๆมาสู่เราโดยง่าย ยิ่งมีวาจาไม่เป็นมงคล ทั้งเป็นคนเจ้าโทสะ มีอคติ ฉันทาคติ เช่นนี้ ย่อมมีแต่หนทางลง
 
หากเราหมั่นพิจารณาอย่างนี้เสมอๆสังเกตได้เลยว่า วันร้ายคืนร้ายจะลดลง เราจะค่อยๆสงบลงทั้งกาย วาจา และใจเพราะองค์ประกอบภายนอกสงบ เราจะพบว่า แท้จริงแล้ว ความสงบนั้นมาจากใจและการกระทำของเราเอง ทั้งเราเองจะพบว่า เราดีขึ้น ทุกด้าน โดยไม่ต้องนั่งรอว่าจะดีขึ้นหลังปีใหม่ ..มันนานไป..
ขออำนวยพรให้ ศิษย์ และทุกท่านที่ติดตามกันมา มีความสุข พบแต่สิ่งดีๆทุกวันตลอดปี 2562 นี้นะคะ..
 
 
มีผู้ถามว่าทำไมให้ความสำคัญกับเสื้อผ้า ทำไมต้องใส่ผ้าซิ่น ใส่อะไรก็เหมือนกัน เป็นผู้ปฏิบัติทำไมต้องยึดติด
 
ขออนุญาติยกสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธองค์ทรงมอบหมายให้พระอานนท์ออกแบบเครื่องแต่งกายของพระสงฆ์ เป็นการกำหนดความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน ทั้งลดวรรณะที่แตกต่าง รวมถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยที่ก่อให้เกิดความศรัทธา
 
ลัทธิอื่น โดยเฉพาะลัทธิเชน นิกายทิฆัมพร ต่างพากันติเตียน ว่าศาสนาของพระพุทธเจ้ายังยึดติดในเสื้อผ้า นิกายของตนในถือเคร่งกว่าละทิ้งหมดยึดความว่างไม่มีอะไร แต่ก็คือยึดใช่ไหมคะ
 
ถ้าเรามีคำว่า "อะไรก็ได้" ไม่ได้แปลว่า ไม่ยึดติด แต่เป็นการขาดความปราณีต และระเบียบวินัย แล้วจะมีจิตไปสัมผัสธรรมะอันละเอียดอ่อนของพระพุทธองค์ได้อย่างไร
 
ชาวฟ้าชาวสวรรค์แต่งกายงดงามด้วยผลแห่งบุญของตนฉันใด เราพึงแต่งกายเยี่ยงนั้นด้วยผลแห่งบุญของตนฉันนั้น ค่ะ
 
 
พ่อแม่ไม่รัก คือลูกดื้อ ผลาญวงศ์ ขาดวินัย ชอบเถียง
 
ลูกไม่รัก คือไม่ทำตนเป็นแบบอย่าง ขาดเมตตา เห็นแก่ตัวเอา ตัวเองเป็นหลัก ไม่ฟังความคิดเห็น
 
อาจารย์ไม่รัก คือศิษย์ดื้อ ไม่ฟังคำ ชอบจำผิด ชอบเปรียบเทียบ
 
ศิษย์ไม่รัก คือครูหวงวิชา เป็นแบบอย่างไม่ได้ ไม่เมตตา นำพาไปทางที่ผิด
 
นายไม่รัก เพราะไม่อ่อนน้อม ขาดวินัย ไม่ขยัน การงานคั่งค้าง ชอบเถียง ตีเสมอ น้อยใจ ขี้อิจฉา เปรียบเทียบ
 
ลูกน้องไม่รัก เพราะนายขาดเมตตา เอาตัวรับชอบคนเดียว โทษลูกน้องรับผิด ไม่มีรางวัลเมื่อทำชอบ ทิ้งงานให้ผู้อื่น ไม่ใส่ใจ เอาแต่ด่า
 
พี่ไม่รัก เพราะน้องเกเร ขาดความเคารพ ชอบเปรียบเทียบ แย่งชิง
 
น้องไม่รัก เพราะพี่เอาเปรียบ อิจฉาหาเรื่อง ชิงดีชิงเด่น ไม่ดูแล
 
เพื่อนไม่รัก เพราะขี้อิจฉา ช่างนินทา คอยจับผิด ชักสีหน้า เห็นแก่ตัว ไม่ใส่ใจ เอาดีประโยชน์เข้าตัวเห็นคนอื่นชั่วเสมอ มีวาจาแดกดันเป็นนิจ ขี้งอน ขี้น้อยใจ พึ่งไม่ได้ ชักพาไปทางที่ผิด ไม่เอื้อเฟื้อ
 
เราอยู่ตรงไหนไม่เป็นที่รักในทุกหมู่ เพราะเราหรือเพราะเขา ถ้ามีคำว่า เพราะเขา มากกว่า คือคำตอบว่า เราไม่เคยเป็นที่รักของใครเลย เพราะเอาแต่โทษคนรอบข้าง ตัวตนหนาแน่นต้องแก้ไขตนเองโดยด่วนแล้วค่ะ
 
 
ข้อคิดสำหรับศิษย์ทุกคนนะคะ
 
คำขอบคุณ ขอโทษ เสียใจ พูดเป็นทุกคน แต่จะให้ผู้รับฟังรู้สึกดีและและรักเราเป็นมิตรกับเรามากขึ้นนั้น เราเคยคำนึงถึงหรือไม่
 
ขอบคุณ ด้วยความเคยชิน หรือ เอาไว้จบบทสนทนา หรือ ขอบคุณจริงๆ ด้วยความซาบซึ้งเพราะเราเป็นผู้ได้รับ จะมากจะน้อยก็ได้
 
ขอโทษก็เช่นเดียวกัน ด้วยความเคยชินแต่ไม่รู้สึกว่าตนผิดต้องแก้ไข หรือขอโทษพร้อมเหตุผลและคำแก้ตัว อย่างนี้ ความขุ่นใจย่อมค้างคาอยู่ทั้งสองฝ่าย แม้เขาจะเข้าใจผิด เราทำอย่างไรล่ะเขาจึงเข้าใจอย่างนั้น แม้คิดดีทำดี แต่สามารถทำให้ผู้อื่นมองผิดไป อันนี้เราผิดไม่ใช่เขาผิด ขอโทษแล้วคิดหาวิธีที่จะทำใหม่เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น แล้วลงมือทำจริง อย่างนี้ไม่มีอะไรค้างคาใจ
 
วันหนึ่งๆ เรากล่าวคำขอบคุณมากไปกว่ารับคำขอบคุณ อย่างนี้เราเอามากไปแล้ว ต้องให้คนอื่นบ้าง
 
วันหนึ่งๆ เรากล่าวคำขอโทษมากมายโดยไม่คิดแก้ไข ก็ยากจะเป็นที่รักของใคร หาคนร่วมงานด้วยยาก
 
ถ้าเราเป็นคนต้องให้อภัยคนตลอดจนมากไป เราจุกจิกไปหรือเปล่า
 
เรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ ก็ไม่ควรมองข้าม บอกได้ถึงความเป็นสายกลางและความจริงใจของตัวเราได้เหมือนกันค่ะ