ฮวงจุ้ยพื้นฐาน

 

ปัญหาของเด็กๆ และความเข้าใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ตอนที่ ๒
21 ม.ค. 2561

 

สรุปตรงนี้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความกังวลใจกับลูกๆ กับทิศทางของเขา ก็ขอให้สบายใจก็เหมือนกันทุกบ้าน โดยเราทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อม สิ่งที่ลูกมีพฤติกรรมอย่างนี้ เหตุมาจากอะไร เราแก้ที่เหตุในทุกเรื่องกับสภาพแวดล้อมในสังคมเพราะถ้าเราเปรียบเทียบทางฮวงจุ้ย เด็กจะเปรียบเหมือนต้นกำเนิดของธาตุ คือธาตุน้ำ เพราะว่ากำเนิดของ ๕ ธาตุในวิชาฮวงจุ้ย จะเริ่มต้นด้วยน้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง หมายความว่าน้ำทำให้ไม้เจริญเติบโต งอกงาม
 
เพราะฉะนั้นในทางฮวงจุ้ย ทิศเหนือ ธาตุน้ำ คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ทิศตะวันออก ธาตุไม้ หมายถึงการมีประสบการณ์ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ธาตุไม้งอกงามหมายถึงการเริ่มต้น พื้นฐานทุกอย่างจะอยู่ที่ ๓ ทิศนี้ ทีนี้ทำไมเขาถึงเปรียบเทียบว่า ธาตุน้ำ เป็นจุดเริ่มต้นของเด็กทุกวัย เนื่องจากน้ำอยู่ในภาชนะไหนก็เป็นอย่างนั้น ถ้าหากว่าอยู่ในภาชนะที่ใสสะอาด มีคนดูแล น้ำนั้นก็จะเป็นไปตามนั้น น้ำนั้นก็จะใสสะอาดอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเกิดขาดการเอาใจใส่ดูแล น้ำก็จะขุ่น มีฝุ่นผง เด็กๆ ก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นในการที่เราจะเป็นภาชนะ เราไม่ได้ครอบงำให้เด็กเป็นเรา แต่เราต้องการให้เด็กมีวิธีคิด เพราะเขามีบุญและกรรมที่ต่างจากเรา เขาจะมีวิถีของเขา ความคิดของเขา เรามีหน้าที่ที่จะให้ความคิดที่ถูกต้อง และการอยู่ร่วมกับสังคมอย่างมีระเบียบและวินัย แต่ไม่ได้ให้เขาเป็นเรา 
 
ต่อไปเมื่อเราโมโหลูก ต้องมีสติคิดว่าเราต้องการจะให้เขาเป็นเรา หรือเราต้องการให้เขาอยู่ในสังคมที่ดี มันต่างกัน สมมติว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นแพทย์รับราชการ ก็อยากจะให้ลูกรับราชการ เพราะเห็นว่ารับราชการนั้นดี แต่ว่าลูกเขาเป็นคนมีศิลปะ เขาอาจจะรุ่งโรจน์ในทางเป็นพ่อค้า เพราะเขาทำบุญมาตรงนั้น เขาอาจจะเป็นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีในอนาคตก็ได้ โตไปคนละทาง แต่สิ่งที่เราจะให้กับเขา ไม่ใช่ความเป็นข้าราชการที่ดีเด่น ไม่ใช่ความเป็นนายแพทย์ที่เก่งกล้าสามารถ แต่วิธีคิดที่จะอยู่ร่วมกับสังคมด้วยดีต่างหาก ถ้าหากว่าเราแยกแยะตรงนี้ เราจะรู้ทันทีว่าเราเลี้ยงลูกอย่างมีสติอย่างมีเหตุมีผล และเราก็สามารถที่จะมีความเข้าใจว่า สภาพแวดล้อมหล่อหลอมเขาอยู่ เหตุมาจากตรงไหนก็แก้ที่เหตุ
 
การปรับบ้านจะทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น เช่น ห้องนอนของลูกควรมีอากาศหมุนเวียนถ่ายเทดี เข้าลักษณะของกระแสหมุนเวียนของธาตุน้ำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นเด็ก มีธาตุไม้ที่แสดงถึงสติปัญญา ก็คืออาจจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องหนังสือ หลักวิชาการ ต้นไม้ไม้ดอก มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นความโล่งตาสบายตา มีพืช มีดอกไม้ มีพรรณไม้ ไม้แขวนไม้ประดับ นี่คือ ธาตุน้ำ ธาตุไม้ มีไฟที่สว่างหรือแสงสว่างเข้ามาอย่างเพียงพอที่ห้องนอน อันนี้ก็จะเป็นการปรับฮวงจุ้ยกับธาตุที่จะทำให้เรียนเก่ง คือน้ำ ไม้ ไฟ ซึ่งจะสอดคล้องกับความเป็นจริง เป็นเหตุและเป็นผลมาก 
 
ข้อต่อมาในบ้านของเรา ตำแหน่งครอบครัวและบุตรธิดาจะอยู่กลางบ้าน คือห้องรับแขกหรือพื้นที่ครอบครัว สำหรับทำการบ้าน ไม่ว่าบ้านจะแคบหรือกว้าง ต้องมีที่สำหรับเด็กๆ มีความสบายที่จะอ่านหนังสือ หรือว่าทำการบ้าน ดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ แล้วก็อยู่ใกล้พ่อแม่ ซึ่งควรจะทำงานให้ลูกเห็นตรงนั้นด้วย คือความขยัน ขันแข็ง มีแบบอย่างให้เห็นทุกวันว่าพ่อกับแม่นั่งทำงาน ลูกอยู่ไม่ห่างนัก หรือว่าเขาอาจจะต้องการความสงบอยากไปห้องเขา ก็จงไว้ใจเขา 
 
อย่าให้บ้านมีซอกมุมมากเกินไปเพราะว่าซอกมุมทางโหราศาสตร์คือภพวินาศ ทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นจุดอับ การที่มีจุดอับหรือภพวินาศในบ้านมากๆ ทำให้เด็กๆ มีเรื่องราวที่จะปิดบังเรา คือทุกซอกทุกมุมควรจะเป็นมุมที่ดูสวยทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นมุมห้องเก็บของ ก็ต้องเป็นมุมที่เด็กไม่กลัวความมืด ไม่มีคติใดๆ แฝงอยู่ในใจเด็ก ไม่ว่าจะเป็นโทสะคติ ซึ่งอาจจะได้รับจากพ่อแม่ที่มีโทสะมากเกินไป โมหะคติ ที่เกิดจากคุณพ่อคุณแม่หลงใหลในวัตถุมากเกินไป เกิดจากความกลัว เราอาจจะทำบ้านของเราน่ากลัวเกินไป โรแมนติกสำหรับเรา แต่มันน่ากลัวสำหรับลูก หรือว่าคติที่เกี่ยวกับ หรือว่าคติที่เกี่ยวกับฉันทาในอคติ อย่าลำเอียง อย่ารักลูกคนนี้มากหรือน้อยกว่ากัน ก็คือการปรับบ้านให้เกิดความสมดุล สว่างโล่งโปร่งในทุกที่ ไม่มีความลึกลับใด ๆ เด็กก็จะเกิดความรู้สึกเป็นคนเปิดเผย แล้วก็ปลอดโปร่ง
 
สังเกตบ้านใดที่มีความมืดทึม มีซอกเยอะ เด็กก็ดูเหมือนจะติดบุหรี่ อาจจะคบเพื่อนไม่ดี ที่จะนำเรื่องผิดกฎหมายมาสู่ หรือเกี่ยวกับยาเสพติด มีน้ำเน่า น้ำเสียอยู่ ถ้าเราทำบ้านให้โปร่งทุกที่ สว่างทุกที่ คำถามนี้ไม่ต้องมี เพราะเด็กจะมีการเปิดเผย ปลอดโปร่ง เพราะว่าพ่อแม่เห็นพฤติกรรมเขาทั้งหมด ห้องนอนต้องนอนสบาย โล่งโปร่งทุกที่ ห้องเรียนก็ควรมีให้เขาด้วย ความสำคัญสำหรับเด็กๆ คือโต๊ะเรียนกับห้องนอน คุณมีให้เขาหรือไม่ ถ้าเขาอยากนอนกับพ่อแม่ ที่นอนนั้นหรือห้องนั้นจะต้องกว้าง โปร่งสบายไม่อับไม่ชื้น มีโต๊ะหนังสือให้เขาที่เขาสามารถมองไปเห็นสนามหญ้าหรือที่โล่งโปร่งกับสายตาตรงหน้า ไม่ใช่ที่อับซอกมุมทึบใต้บันไดเป็นโต๊ะหนังสือของเขา เพดานต่ำ แอร์เย็นเฉียบ ถ้าเราคิดว่าชีวิตของเด็กสำคัญกว่า ต้องจัด ต้องไม่สะสมของเราต้องมีมุมที่โปร่ง อะไรที่รกเอาออก เฟอร์นิเจอร์บางอย่างข่มเด็ก มันจะกลายเป็นไฟ ดินและทอง เด็กจะเกิดสภาวะกดดันตั้งแต่เล็กๆ และก้าวร้าว บ้านของเราที่มีเด็กจะต้องมีน้ำ-ไม้-ไฟ ๓ ประการนี้ต้องโดดเด่น
 
ธาตุ ไฟ ดิน ทอง ก็คือช่วงที่ประกอบอาชีพ บ้านต้องดูหนักแน่นเป็นหลักเป็นฐาน เพราะฉะนั้น สำหรับบ้านเด็กๆ วัยเรียน ไม่ควรจะมีวัตถุหรือสิ่งต่างๆ ที่ข่มเขา เป็นซอกเป็นมุม  หากที่นั่งของเขาไม่มีเลย ที่นอนของเขาก็นอนแทรก นอนซอกอยู่อย่างนี้ เราก็จะคาดหวังให้เขามีความสุขกายสบายใจในบ้าน รักบ้าน รักพ่อแม่ เปิดเผยทุกซอกทุกมุมไม่ได้ เพราะว่าบ้านเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น