ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

ปฏิจจสมุปบาท กับโหราศาสตร์ (๑) โดย อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อ.แอน)
29 ก.ย. 2554

 

 

ปฏิจจสมุปบาท กับโหราศาสตร์ (๑) 

โดย อาจารย์แอน

 

        การจัดราศีตามกฏปฏิจจสมุปบาทของพระพุทธองค์ ผู้ที่จะเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ไทยโบราณ ส่วนใหญ่จะบวชเรียนมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งสมัยก่อนวัดเป็นศูนย์กลางทางด้านศึกษา เจ้าอาวาสที่มีความรู้ทางด้านนี้ ได้ใช้วิชานี้ดูโชคชาตาราศีว่าเด็กคนนี้ไปได้ดีขนาดไหน หรือช่วยชาวบ้านให้ผ่อนคลายในสิ่งที่เกิดขึ้น

 

หลักธรรมทางศาสนากับโหราศาสตร์ไทยแยกกันแทบไม่ออก  เพราะพระอาจารย์หลายท่านใช้โหราศาสตร์เป็นอุบายที่จะทำให้คนละวางได้  อย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น  หรือการสะเดาะเคราะห์ก็เป็นการดึงคนให้ปฏิบัติพอเข้าถึงรสพระธรรมแล้ว คงไม่ต้องรอให้มีเคราะห์ก็ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
 

 

การจัดราศีตามกฏปกิจจสมุปบาทของพระพุทธองค์นี้ ปรากฏตีพิมพ์เป็นหลักฐานแรกสุด ในตำราโลกธาตุ ในตำราได้เริ่มต้นจุดอวิชชา ที่ราศีมังกรในสมัยนั้น โดยถือตามหลักเกษตรแบบเก่าและต้องการให้ราศีมีนครองวิญญาณ ต่อมาได้มีการค้นพบดวงดาวมากขึ้น เมื่อวางดาวเกษตรแล้วมีดาวเกตุ ตามสภาพความเป็นจริงในธรรมชาติและตามหลักวิทยาศาสตร์ เรียงจากดาวอาทิตย์ที่ราศีสิงห์และในระบบสุริยะตามลำดับ  เมื่อมีการวางรูปปกิจจสมุปบาทใหม่  ครั้งนี้เริ่มจุดอวิชชาที่ราศีเมษ ซึ่งถือว่าเป็นสรีระวิทยาตามจักราศี เป็นของสากลนิยมทั่วโลกว่าส่วนราศีเมษ คือส่วนหน้า ส่วนความคิด ส่วนสมอง ทั้งโหราศาสตร์ฝ่ายนิรายาน  กับไสยน ก็นับถือตรงกัน การวางแกนโดยที่นำราศีเมษ จะลงตัวกับข้อเท็จจริงในราศี อันมีดาวพระเคราะห์เกษตรเจ้าเรือน  ครองตามลักษณะนั้นทุกประการ 

 

เมื่อเราเริ่มต้นที่ราศีเมษอันเป็นราศีหลัก เป็นราศีของสรีระ ที่ใบหน้าของทุกคน  จะเห็นว่าพลูโตเป็นเจ้าเกษตรราศีเมษ  คนเราที่จะเป็นตัวตนได้ต้องเริ่มต้นที่อวิชชาก่อน  เพราะจุดกำเนิดของความเป็นมนุษย์ทุกวันนี้อยู่ที่อวิชชา และเมื่อเริ่มต้นที่ราศีเมษ เมื่อมาพิเคราะห์ดาวพลูโต เจ้าเกษตรราศีเมษ เห็นที่ว่าเหมาะมาก เพราะว่าดาวพลูโตโดยปกติเป็นดาวพระเคราะห์ที่มีอำนาจ ครอบงำเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับต่าง ๆ เช่นพลานุภาพทางจิต ศาสตร์อันเร้นลับของธรรมชาติ  พลูโตเป็นดาวที่มีอำนาจ ในทางที่ปลีกตนออกไปให้ห่าง ตามตำนานกรีกบอกว่าพลูโตเป็นเทพเจ้าแห่งนรก ปลีกตัวอยู่ใต้สุดคลองนรก  คลองแร่ธาตุ
 

พลูโต หมายถึงกำเนิด จะหมายถึงทารกวัยต้น ขณะเดียวกันก็หมายถึงคนชราด้วย  นอกจากนี้พลูโตยังหมายถึงวิชาการ ของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือการฝึกกรรมฐาน  วิชาไสยศาสตร์ ขณะเดียวกันก็หมายถึงการคิดค้นสิ่งแปลก ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ด้วยการคิดค้นพลังงานของปรมาณู ก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวพลูโตเหมือนกัน เพราะฉะนั้นพลูโตเป็นความพร้อม เป็นอัจฉริยะเป็นตัวที่คิดใหม่ เกิด ยึดสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาให้เป็นตัวเป็นตน  เป็นอวิชา
 

จุดแรกของการกำเนิดของการเป็นมนุษย์  จิตนั้นจะบริสุทธิ์ ดังนั้นดาวพลูโตจะมีความหมายถึง จิตบริสุทธิ์ ในการค้นคว้าของครูบาอาจารย์  บางท่านกล่าวว่าเหนือกว่าดาวพฤหัสอีก  เพราะฉะนั้นท่านได้แปลในทางพระพุทธศาสนาว่า เป็นทั้งพระนิพพานและตัวอาตมัน ซึ่งจะสังเกตได้ว่าบุคคลที่ดาวพลูโตกุมลัคน์ มักจะมีอุปนิสัยสุขุม ขรึม  หมกมุ่น ในการแสวงหาวิชาแปลก ๆ ถ้าหากพลูโตถูกเบียนจากดาวร้าย ๆ อาจทำให้เลื่อมใสทางด้านจิตวิญญาณหรือไสยศาสตร์ได้  ในขณะเดียวกัน ถ้าหากพลูโตได้รับกระแสจากดาวดี ๆ อาจจะสนใจเรื่องของจิตวิญญาณต่าง ๆ แต่ก็เป็นไปในแนวของวิทยาศาสตร์  คือต้องมีเหตุมีผล
 

โดยทั่วไปดาวพลูโตจะไม่มีนิสัยสามหาว ทะลุกลางปล้องแบบดาวอังคาร แต่จะมีนิสัยของความขยัน อดทน หมั่นเพียรมากกว่า นอกจากนี้ผู้ที่มีดาวพลูโตกุมลัคน์ จะเลื่อมใสในพระศาสนา จิตเป็นกุศล ชอบเกื้อกูลผู้อื่น เพราะว่าดาวพลูโตมีอิทธิพลในการน้อมนำให้สนใจเรื่องของจิต เอาใจเขามาใส่ใจเรา และชอบท่องเที่ยวพเนจรเมื่อเป็นตัวจุดกำเนิด จึงเหมาะกับคำว่าอวิชชามากที่สุด แล้วเมื่อเจ้าราศีไปอยู่ที่ไหน สถิตที่ราศีใด  จะให้อิทธิพลในด้านนั้น  


โปรดติดตามตอนต่อไป