- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
28 ต.ค. 2560
การตรวจเช็คดวงชะตาโดยทั่วไป มักไม่ค่อยจะละเอียดถี่ถ้วนเท่าใดนัก วงจรชีวิตของเราเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด แต่การตรวจเช็คดวงชะตาเพื่อเป็นตัวบอกความประพฤติของเราว่าโน้มเอียงไปทางด้านไหน ด้านบุญคือดาวศุภเคราะห์ หรือด้านบาปคือเป็นดาวบาปเคราะห์ เมื่อเราปฏิบัติตัวไปในทางบุญทางกุศล ดาวศุภเคราะห์ก็จะส่งกระแสมาหาเรา แต่ถ้าเราปฏิบัติไม่ดี ดาวบาปเคราะห์ก็ส่งกระแสมาหาเราแทน นี่เพียงพูดถึงความประพฤติและดวงดาว ตัวบ้านที่อยู่อาศัยยังไม่ได้กล่าวถึง
ความละเอียดอ่อนตรงจุดนี้ยังขยายไปถึงเรื่องของคู่ครอง หมายความว่า หากคุณดีกับคู่ครองของคุณเท่ากับหุ้นส่วนของคุณก็ดีด้วย อย่างคุณสุภาพบุรุษที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ต่อคู่ครอง มัวแต่ทำงานอย่างเดียว ทิ้งคู่ครองของคุณแถมในบางครั้งก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง ลักษณะนี้ต่อไปหุ้นส่วนก็จะมีปัญหากัน เพราะว่าคุณได้ละทิ้งภพปัตนิ หลักทางโหราศาสตร์ ภพปัตนิกับหุ้นส่วนคือภพเดียวกัน ซึ่งก็ไปสอดคล้องกันในเรื่องของความประพฤติด้วย
หรือในบางคนก็ไม่เอาใจใส่ต่อบุตรเท่ากับเขาได้ละทิ้งภพปุตตะ ละทิ้งลาภ บุตรและบริวารของเขาก็จะมีปัญหา หมายถึงไม่เคยดูแลเลย กลับจากทำงานก็ไปงานสังคมต่อ ทอดทิ้งภรรยาและยังไม่ใส่ใจลูกอีก จึงกลายเป็นว่าเขาละเลยบุตรและบริวาร ละเลยลาภ ละเลยสิ่งที่เป็นความเจริญ เพราะภพปุตตะตรีโกณถึงลัคนา จึงมีความหมายถึง ความเจริญของชีวิตด้วย เมื่อคุณละเลยต่อมารดาบิดา เท่ากับละเลยละทิ้งภพศุภะ ความเจริญ ความรุ่งเรืองของชีวิต
คนที่มักทำให้บ้านรกอยู่เสมอ นั่นคือคุณได้สร้างภพอริ ภพวินาศขึ้นมา แล้วยังไปทำให้มันโดดเด่นอีกด้วยการไม่ค่อยอยู่บ้าน ออกเที่ยวเตร่ กลายเป็นการสร้างภพมรณะให้มันโดดเด่นขึ้นมาในดวงชะตา
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เกี่ยวพันกับดวงชะตาในเรื่องของความประพฤติ กลายเป็นวงจรที่เกี่ยวพันกัน ยังไม่ได้ดูบ้านเลยเพราะมันซับซ้อนตรงที่ว่า เราสามารถเช็คดวงชะตา เพื่อดูความประพฤติของเขาว่าเป็นไปในทางไหน ทางบุญหรือว่าทางบาป เมื่อตรวจดูแล้วปรากฏว่าความประพฤติก็ดี การปฏิบัติตนดี ดวงชะตาก็ดี โหงวเฮ้งก็ดี แต่ว่าที่อยู่อาศัยกลับถูกทำลายด้วยสภาพแวดล้อม เช่นมีการตัดถนนผ่าน หรือตัดผ่านหน้าบ้านเรา แล้วถมถนนสูงจนดูเหมือนว่าบ้านเราจมลงไป เหมือนจมอยู่ใต้ดิน น้ำท่วมเสมอ ๆ หรือ บ้านที่เราอยู่อาศัยเป็นที่โล่งดีอยู่ก่อน อยู่มาทางเทศบาลนำเอาขยะมากองทิ้งบริเวณแถวๆ บ้านของเรา ทำให้บ้านที่อยู่ในละแวกนี้ มีการเปลี่ยนแปลสภาพแวดล้อมเดิมของพวกเขา ให้ไปตรงกับดาวที่ไม่ดีในดวงชาตา
เช่น ในชะตามีดาวเสาร์ (๗) ไม่ดี อาจอยู่ในอริ มรณะ หรือวินาศ แต่ตัวเราไม่ได้ทำตัวของเราให้เป็นดาว (๗) เลย เราไม่เคยไปทำตัวเป็นนักเลง ไม่เคยโกงใคร เราเป็นคนมีระบบระเบียบเรียบร้อย ไม่ทำอะไรให้สกปรกเลอะเทอะ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เราไม่เคยทำตัวให้เข้าไปข้องกับ อริ มรณะ และวินาศเลย แต่กลับมีกองขยะมากองอยู่หน้าบ้านนั่นหมายความว่า หน้าบ้านของเราเข้าดาวเสาร์ (๗) แล้ว และหาก (๗) ในดวงเป็นอริ มรณะ วินาศ เท่ากับเราเอา (๗) ที่เสียมากองอยู่หน้าเรา ทั้ง ๆ ที่ตัวเราไม่ได้ทำเองเลย นี่คือสภาพแวดล้อมภายนอกบ้าน
หรือในบางครั้ง ตำแหน่งหน้าบ้านของเรา ไปตรงกับตำแหน่งทิศทางดวงดาวที่ตรงกับความเจริญรุ่งเรือง แล้วมันทรุดลงเพราะถนนที่ตัดผ่าน ความเจริญของเราก็พลอยทรุดลงตามไปด้วย ก็เท่ากับดาวดวงนั้นก็เสียไปด้วย เพราะว่าดวงดาวไปสัมพันธ์กับพื้นที่ ไม่ใช่สัมพันธ์แค่ตัวบุคคล จึงต้องดูประกอบกัน เช่น เมื่อตรวจดวงชะตาแล้ว ไม่ว่าไปดูที่ไหน ใครๆ ก็บอกว่าดี จะได้เลื่อนขั้น แต่ก็ไม่ได้สักที นั่นเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมหรือความประพฤติของเขามีส่วนเกี่ยวข้อง วงจรชีวิตของเขา เราจะดูแต่เพียงดวงชะตาว่าเป็นอย่างไรไม่ได้ ต้องสังเกตทำเลรอบ ๆ ด้วย ว่ารอบบ้านเรามีอะไรที่มันเสียมันไม่ดี แล้วพยายามปรับปรุงแก้ไขอาจจะไปเข้ากับดาวในดวงชะตาของเราก็ได้
ฉะนั้นในเรื่องของดวงชะตากับบ้าน จึงต้องสอดคล้องกับพฤติกรรม สภาพแวดล้อม และดวงดาว ทั้ง ๓ อย่างนี้ไม่ใช่ว่าเราจะทำให้เป็นไปตามดวงชะตา ตัวเราต้องเป็นหลักของทุกอย่าง เพราะตัวเราเป็นผู้สร้างกรรม การกระทำที่ดีหรือไม่ดี เราเป็นผู้คิดเอง เรามีจิต มีวิญญาณ ทุกสิ่งเราล้วนเป็นผู้สร้างเองทั้งสิ้น หากเราปล่อยให้ชีวิตของเราล่องลอยไปตามดวงชะตา เราก็จะไม่เป็นตัวของตัวเอง ตัวเราเองเท่านั้นที่จะเป็นคนกำหนดว่าเราจะเลือกเดินไปในทางไหน ไม่ใช่ให้ดวงดาว หรือดวงชะตามากำหนด
สิ่งเหล่านี้เป็นวิชาของคนโบราณ ที่นำมาเป็นเพียงเครื่องประกอบการตัดสินใจเท่านั้นเอง วงจรชีวิตของเราช่วงที่ดีที่สุด เราอยู่บ้านแบบไหน เราทำตัวอย่างไร แล้วเราก็นำไปเปรียบเทียบกับดวงดาว แล้วช่วงไหนที่เราแย่ที่สุด เรามีความประพฤติอย่างไร มีสิ่งแวดล้อมอย่างไร นำไปเปรียบเทียบกับดวงดาวเช่นกัน ดูอีกว่าเมื่อขณะที่เราเจริญรุ่งเรืองนั้นเราทำอะไร แล้วที่ปัจจุบันนี้เราตกลงมาเราอยู่บ้านแบบไหน ดังนั้นทุกอย่างเราจึงต้องนำมาดูประกอบกันหมด