ถ้ามีดาวพฤหัสอยู่ในภพที่ ๙ และได้แสงจากดาว ๑ เจ้าชาตามีวาสนาสูง ถ้าได้รับแสงจากดาว ๓ จะได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่หรือรัฐมนตรี แต่ถ้าได้แสงจากดาว ๔ จะมั่งคั่งเป็นมหาเศรษฐีใหญ่

ถ้าดาวพฤหัส อยู่ในภพที่ ๙ ได้รับแสงจากดาว ๖ จะได้เป็นนายทหาร

ได้รับแสงจากดาว ๒ จะมีความผาสุกร่มเย็น

และถ้าได้รับแสงจากดาว ๗ จะมียวดยานพาหนะมากมาย งานการมีทำไม่ขาด

โดยมาก ถ้าในภพที่ ๙ จากลัคนา มีดาวเคราะห์ตั้งแต่สามดวงขึ้นไป เจ้าชาตาจะมีความเจริญรุ่งเรือง

แต่มีข้อแม้ว่า ต้องมีดาว ๔ หรือดาว ๕ ร่วมด้วย

ถึงไม่ร่วม ก็ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ให้คุณต่อเจ้าชาตา มิฉะนั้น เจ้าชาตาต้องเผชิญอุปสรรคนานัปการ แถมความเจริญที่ได้มาก็มักทำให้รุ่มร้อน หรือไม่ก็มีอันต้องเจ็บป่วย ขี้โรค ผิดหวังในความรัก หรืออาจมีความผิดถึงคุกถึงตาราง

เพราะดาว ๕ คือดาวจากภพศุภะของโลก และดาว ๔ เป็นดาวส่งเสริมชาตาคนในด้านทุนทรัพย์ และดาวแห่งความเมตตา โบราณถึงกล่าวว่า ชาตาใครก็ตาม ถ้าดาว ๔ ดี จะมีคนเมตตา มีทรัพย์สิน มีปัญญา ไม่มีวันตกต่ำ

ดังนั้น ในชาตาใครก็ตาม ถ้าดาวศุภะส่งผล ก็ต้องมีองค์ประกอบของดาว ๕ และดาว ๔ ที่ส่งผล หรือให้คุณกับเจ้าชาตาด้วย

ถ้าดาวเกษตรเจ้าเรือนภพที่ ๙ มีความเข้มแข็ง และอยู่ในภพที่เป็นเกณฑ์ หรือตรีโกณกับลัคนา ลัคนาอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็ง มีดาวศุภเคราะห์ หรือดาวที่มีตำแหน่งอุจจ์ เกษตร มหาจักร กุม เจ้าชาตาจะเป็นคนที่มีโชคมหาศาล มีจังหวะในการดำเนินชีวิตที่ดี เช่น

ถ้าเจ้าเรือนเกษตรภพที่ ๙ ไปสถิตอยู่ในจรราศี เจ้าชาตาอยู่ไม่เป็นที่ ต้องท่องเที่ยวหรือย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ

ถ้าอยู่ในอุภัยราศี มักไม่ไกลจากถิ่นเดิม แต่ถ้าอยู่ในสถิรราศี ก็จะไม่ไปจากถิ่นเดิม ไม่ชอบย้ายจากถิ่นเดิม

ทั้งนี้ ให้ตรวจสอบภพพันธุ หรือภพที่ ๔ จากลัคนา เป็นองค์ประกอบด้วย

สรุปแล้ว ดวงดาวที่สถิตอยู่ในภพที่ ๙ ถ้าได้ตำแหน่งอุจจ์ เกษตร จะทำให้เจ้าชาตามีความผาสุกในชีวิตและร่ำรวย

และถ้ามีดาวศุภเคราะห์ที่ให้แสงถึงภพที่ ๙ จะทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้ จะมีชัยชนะต่อศัตรู มีรูปร่างสวยงาม และพรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศ เหมือนมี ฮก ลก ซิ่ว อยู่ในตัวนั่นแล