โดยปกติ บูรพโหราจารย์ ท่านยกดวงเกษตรเป็นดวงหลัก เป็นดวงมาตรฐาน และเป็นดวงโลก และยังถือว่า ลัคนาของโลกอยู่ที่ราศีเมษอีกด้วย ซึ่งบทต่อไป คงต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับลัคนาเพิ่มเติมแน่นอน

คำว่า “เกษตร” มีความหมายถึง ที่ดิน ทุ่งนา ไร่ ซึ่งดาวเกษตรนี้ ทางโหราศาตร์ถือว่าสำคัญ เป็นหลักมาตรฐาน นำมาทำนาย เรียกได้ว่าตลอดกาล

คือถือว่า ดาวเกษตรทั้งหมดนี้ เป็นเจ้าของเรือน แม้ดาวดวงอื่นโคจรมา ก็ถือเป็นผู้อาศัยเท่านั้น

และดวงชะตาใด หากมีดาวเกษตรอยู่ ก็ถือว่ามีความโดดเด่นในด้านนั้น สามารถตั้งหลักตั้งฐานเป็นปึกแผ่นได้ แม้ดวงชะตาจะส่งผลให้ทุกข์ยากลำบากอย่างไร ก็ต้องตั้งตัวได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังแสดงผลถึงความมีมานะอดทนอีกด้วย

ทีนี้ ถ้าหากดาวพระเคราะห์ที่เป็นเกษตรเหล่านี้โคจรสลับตำแหน่งกันดังนี้

ดาวพระเคราะห์ที่อยู่ในตำแหน่ง “ประเกษตร” ถือว่าไม่ให้คุณทางด้านเป็นเกษตร เพราะถ้าอยู่ตรงข้ามอย่างนี้ ความหมายของมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป ประเกษตร มีความหมายเป็นเคล็ดในการทำนายว่า “ทำให้คนอื่น” หรือทายในความหมายที่ตรงกันข้ามกับ “ดาวเกษตร”

เช่น ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นประ มักใจอ่อน ขี้เกรงใจ ปฏิเสธคนไม่เป็น จึงมักถูกเอาเปรียบ ตำราอาจารย์โบราณบอกว่า อาทิตย์เป็นประ จะโง่ ที่จริงคือความหมายว่า มักทำอะไรให้คนอื่นด้วยความเกรงใจ เพราะอาทิตย์นั้น สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป ไม่เป็นอาทิตย์ผู้ยิ่งยงอีกต่อไป

หรือดาว ๔ เป็นประ พูดอะไรมักเสียประโยชน์ของตนเอง พูดจาอะไร คนก็จะแสวงหาประโยชน์จากเราได้ หรือพูดจาให้คนอื่นสบายใจ แม้ตัวเองจะทุกข์แค่ไหนไม่คำนึง หรือบางคนพูดจาให้ตนเองไม่เป็น ไม่พูดเสียดีกว่า กลายเป็นคนพูดน้อยไป เป็นต้น

อีกซักตัวอย่างนะคะ ดาว ๖ เป็นประ มีความรักมักเสียสละ กล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ แล้วแต่เขา ตามใจเขา ก็คือยังคงมีความหมายของ “ขี้เกรงใจ และทำให้คนอื่น” อย่างครบถ้วน

หลักการทายดาวประเกษตรอย่างนี้ ใช้ได้ทุกดวง แล้วแต่ว่าดาวดวงนั้นเด่นในความหมายทางไหน