- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
4 พ.ค. 2558
พฤกษาชะตา โดย อาจารย์แอน
ถ้าเราเปรียบเทียบดวงดาวเป็นต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น
ดาวอาทิตย์ (๑) เหมือนรากแก้ว ถ้าดาวอาทิตย์เสีย เหมือนชีวิตเสียศูนย์ ลังเลไม่แน่นอน เหมือนรากแก้วไม่หยั่งราก ดาวอาทิตย์ เปรียบเสมือนรากแก้วของชีวิตเพราะฉะนั้น คนที่มีอาทิตย์เด่นในดวง คนนั้นจะเป็นคนที่มีรากแก้วแข็งแรง จะมีหลักปฏิบัติของชีวิต แต่ถ้าอาทิตย์เด่นในดวงมาก คือเด่นนักมักเป็นภัย คนที่ดาวอาทิตย์เด่น จะหยุดทำงานไม่ได้ เหมือนพระอาทิตย์ต้องชักรถตลอดเวลา
ดาวจันทร์ (๒) เปรียบเสมือนตัวแก่นของต้นไม้ ที่ทำให้ต้นไม้ยืนต้นขึ้นมาได้ สมมุติว่ารากเสียแต่ยังมีแก่น ก็ยังเป็นต้นไม้เล็กๆ เท่าที่รากมันจะหยั่งไปถึง แต่รากดีแต่แกนไม่ดี อาจเป็นได้แค่ไม้เลื้อยหรือไม้พุ่ม ซึ่งดาวจันทร์ หมายถึงแก่นของชีวิต เพราะดาวจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด มีอิทธิพลต่อเราเยอะมาก ตั้งแต่น้ำขึ้นน้ำลง อารมณ์ ความคลั่งไคล้ เพราะดวงจันทร์จะมีอิทธิพลของความละเอียดอ่อน ละมุนละไม ความเคลิ้มฝัน ความลังเล
ดาวจันทร์ เป็นแกนท่อลำเลียงอาหารสู่ใบสู่กิ่ง ดาวจันทร์ดีจึงเป็นนักจัดการที่ดี องค์กรที่อยู่ได้จะต้องมีนักจัดการที่มีดาวจันทร์ที่ดี
ดาวอังคาร (๓) คือ ใบ พุ่ม ถ้าหากว่าใบน้อย ต้นไม้มันไม่สวย เรานึกถึงต้นไม้ที่มีแต่กิ่งก้าน ไม่มีใบ ต้นไม้จะตายหรือเปล่า ตัวใบ คือ ความกระตือรือล้น ความขยันขันแข็งในชีวิตของคนๆ นั้น มีความอุดมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความขยัน ความกระตือรือล้น ความตั้งใจ ความไม่เฉื่อยชา แต่ถ้าต้นไม้ไร้ใบ ไม่สนใจ ร่วงก็ร่วงไป น้ำไม่ดี ดินไม่ดี มันก็เลยเฉื่อย บุคคลที่เฉื่อยชา ต้องดูดาวอังคาร ดาวอังคาร เป็นใบ ต้องขยัน เพราะต้องสังเคราะห์แสง ถ้าดาวอังคารดีจะเป็นคนที่มีความขยัน สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับตัวเองได้ หยิ่งในศักดิ์ศรี
ดาวพุธ (๔) หมายถึง ตัวดอก การออกดอก พุธ คือ สติปัญญา การงอกงามของสติปัญญา ที่เขาห้ามตัดผมวันพุธ ที่จริงแล้วห้ามตัดทุกอย่าง เพราะมันหมายถึงการตัดสติปัญญา
พุธ คือสติปัญญา คือ ตัวดอก ความรู้คืออาภรณ์ ดอกไม้ทำให้ต้นไม้นั้นสวยงาม บุคคลที่ดาวพุธไม่ดี แสดงว่าคนนั้นขาดเสน่ห์ ไหวพริบ ปฏิญาณ ดาวพุธ คือสิ่งที่ดึงดูให้คนดูดี ดูงดงาม บางคนไม่สวยไม่หล่อเลยแต่เวลาพูดแล้วต้องนั่งฟังด้วยตลอด เพราะต้นไม้ต้นนี้ถึงจะเป็นต้นที่ไม่สวยแต่ดอกงดงามมาก
ดาวพฤหัส (๕) หมายถึง ผล การออกดอกออกผล หมายถึง การประสบผลสำเร็จ ต้นไม้ 1 ต้นมีใบหนา มีดอกไม้ แล้วยังมีผลขึ้นอีกด้วย จะสมบูรณ์มาก ออกดอกออกผล คือประสบความสำเร็จจากไหวพริบ ปัญญา ความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นมันก็จะเกิดผลอีกคู่หนึ่ง คือ พุธกับพฤหัสอยู่ด้วยกันคือความอุดมสมบูรณ์ สติปัญญา ความเป็นนักปราชญ์ การค้าขาย ใครก็ตามมาถามเราว่า จะค้าขายดีไหม ให้ดูดาวพุธกับพฤหัสก่อน ให้ดูดอกและผลในดวงชะตา ถ้าดอกไม่ดี ดาวพุธไม่ดี ดาวพุธถือเป็นดาวพาณิชย์ สติปัญญาไหวพริบปฏิญาณในการดำเนินการค้า ถ้าดาวพุธไม่ดีอย่าทำการค้า หรือถ้าจะเข้าหุ้นส่วนถ้าดาวพุธเราไม่ดีพอ เราก็เอาดาวพุธของอีกคนมาช่วยก็ได้ คือการรวมดวงของคนสองก็คือหุ้นส่วน หรือคู่ครอง ดาวพุธดีแต่ดาวพฤหัสเสีย คือทำการค้าเท่าไรผลก็ไม่ออกสักที พอเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัว ไม่มีเงินเก็บ เพราะฉะนั้นพุธกับพฤหัสคือ ดอก ผล คือความอุดมสมบูรณ์ทั้งสติปัญญาและทางการค้าและวิชาการทุกอย่าง จึงเรียกว่าดาวคู่อุดมสมบูรณ์ ดาวคู่นักปรากฏหรือดาวคู่วิชาการ ที่จะก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในชีวิต
ดาวศุกร์(๖) คือ เปลือกไม้ที่หุ้ม ทำให้ต้นไม้นั้นดูแก่หรืออ่อน ต้นไม้ที่สวยงามหรือดูแล้วพอดี คือตัวผิวพรรณของมันคือดาวศุกร์ หากว่าใครดาวศุกร์ไม่ดี ดูภายนอกดูไม่ดีเลย คนนี้อาจจะรวยเพราะพุธและพฤหัสเขาดี เขามีความสามารถมีความเป็นผู้นำสูง ดูหนักแน่นมั่นคง เพราะอาทิตย์เขาดี แก่นดีทำอย่างไงก็ไม่ล้ม ไม่สวยช่างมัน เสียอย่างเดียวคือดาวศุกร์ บางที่เปลือกดีมากแต่แก่นข้างในเสียหมดแล้ว รากก็ไม่มี ออกดอกออกผลก็ยังมีกระท่อนกระแท่น เหมือนเจออุปสรรค เพราะว่าถ้ารากแก้วเสียแล้ว แก่นไม่ดี ชีวิตจะเจออุปสรรคมากมาย เพราะฉะนั้นดาวอาทิตย์กับดาวจันทร์มีความสำคัญมาก สมมุติว่าดาวอาทิตย์เสียเราจะต้องปฏิบัติและประพฤติตัวให้เป็นดาวอาทิตย์แทนดวงชะตา คือการฝืนดวง ดาวอาทิตย์ไม่ดี เราก็เป็นดาวอาทิตย์ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในทางที่ดี ให้ทาน พอให้ทานคนก็ต้องวิ่งมาหาเราเพราะเราให้ทาน ไปไหนมีแต่ให้ก็เป็นดาวอาทิตย์ ไปไหนมีแต่ความอ่อนโยน เยือกเย็น มีแต่ความดีงามให้เขา มีสิ่งดีๆ มีความหวังให้ แก่นก็ดีคือดาวจันทร์ ถึงแม้ดาวจันทร์เราเสีย เรามีแต่ให้เราก็สร้างดาวจันทร์ในดวงเหมือนกัน ดาวอังคารมันเสียอย่างไรมันก็ไม่ดี ก็ฝืนจากเคยตื่นสายก็เป็นตื่นเช้า ท้อก็อย่าท้อ ท่องเอาไว้ว่าเราทำกรรมมาอย่างนี้ มันท้อ มันขี้เกียจ ถ้าจะเจริญได้ก็ฝืนดวง ฝืนดวงไม่ใช่เรื่องยาก ฝืนให้ถูกจังหวะ เวลาด้วย
ดาวเสาร์ (๗) คือ กิ่ง ก้านที่แผ่ออกไป เขาเรียกขยายสาขา บุคคลที่มีระเบียบวินัยอันดี จะสร้างชีวิตที่เป็นปึกแผ่นได้ ดาวเสาร์หมายถึงความเป็นปึกแผ่น ได้แก่ต้นไม้ที่ออกดอกออกผลและแผ่กิ่งก้านสาขา ยังคุ้มครองปกปักรักษาพวกนกกาที่มาอาศัยได้อีกด้วย ตัวดาวเสาร์คือกิ่งก้านสาขา บุคคลที่ทำอาชีพและต้องการขยายสาขาจะต้องดูดาวเสาร์ว่าดีหรือไม่ จะขยายสาขาทำงานใหญ่จะต้องเช็คดาวเสาร์ทุกครั้ง คือรากฐานคือตัวที่หนักแน่นที่สุด ถ้าดาวเสาร์ไม่เข้มแข็งก็ต้องทำตัวให้เข้มแข็ง บึกบึน ขยันทำงาน เพราะว่าดาวเสาร์คือตัวทำงานหนัก คือตัวระบบ ระเบียบแบบแผน ทุกอย่างต้องมีวินัยในตนเอง ตรวจสอบ เปลี่ยนความหวาดระแวงเป็นความรอบคอบ ถึงจะแผ่กระจายขยายสาขากิ่งก้านควบคุมได้ทั่วถึง และดาวเสาร์ตัวนี้ต้องสัมพันธ์กับรากแก้วด้วย รากต้องดีหมายถึงอาทิตย์กับเสาร์ต้องสัมพันธ์กันดี ถึงจะทำงานใหญ่ขยายออกไปได้ ถ้าเกิดอาทิตย์ เสาร์ ไม่ดี ก็ต้องสร้างจากทานบารมี มาจากสิ่งที่เราให้คนอื่น สั่งสมมาโดยตลอดคือสร้างอาทิตย์สร้างราก และต้องมีระบบ ระเบียบ วินัยในตัวเองในการวางแผนเอาประสบการณ์มาให้เกิดประโยชน์ สร้างดาวเสาร์ขึ้นมาในดวงซึ่งต้องอาศัยความเหนื่อยยาก
ดาวราหู (๘) คือมอด คือตัวเบียนบ่อน หนอน ถ้าช่วงไหนหนอน แมลงวัน ออกมาบินว่อนเต็มเมืองไปหมด แสดงว่าดาวราหูมีอิทธิพลกับดวงเมืองในช่วงนั้น
ราหูกับอาทิตย์ คือสุริยะคราส ฉะนั้นถ้าช่วงไหน ราหูมีกำลัง แล้วเรามีดวงอาทิตย์เด่นให้ระวัง ดีเด่นจะเป็นภัย จะขยายกิจการอะไรก็ต้องหยุดไว้ก่อ
ดาวเกตุ (๙)หมายถึง ลม พายุที่อาจจะพัดมาเป็นบางเวลา ฟ้าที่จะผ่ามาได้ อุกาบาต ลูกเห็บตกลงมา มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน หรือแม้แต่ผลไม้ที่สุกแล้วหล่นลงมาก็ตกอยู่ในดาวเกตุ คือเหตุการณ์เกิดขึ้นโดย ไม่คาดฝัน ในทางโหราศาสตร์ ดาวเกตุคือตัวผีพุ่งใต้ ตัวสับสน วุ่นวาย ตัวที่คาดการณ์ไม่ได้ ตัวพลิกล็อค ถ้าในทางวัตถุหมายถึงอะไหล่
ดาวมฤตยู (๐) คือตัวทำลาย ตัวเปลี่ยนแปลง อายุไข ต้นไม้แต่ละต้นมีอายุไข มีตัวกำหนด มีการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่สิ่งใหม่ๆ เช่น การสิ้นสุดจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จากเล็กที่สุดคือการย้ายบ้านจากที่หนึ่งก็ไปเติบโตอีกที่หนึ่ง การเปลี่ยนงานจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง การเปลี่ยนชีวิตหรือเรียกว่าความตายไปจุติใหม่ ก็เป็นดาวมฤตยู คือการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งหนึ่งสู่อีกสิ่งหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงค่านิยม การปฎิวัติ ก็เป็นอิทธิพลของดาวมฤตยู
ดาวเนปจูน คือ ความแออัด ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถขยายแผ่ไปได้ ดาวเนปจูนคือตัวแทรกซึม คือตัวแปร ที่จะทำให้เกิดการดีหรือร้ายหรือการชุมนุมหลายสิ่งหลายอย่างเข้าด้วยกันจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวเนปจูน เช่นถ้าบ้านของเราอยู่ทามกลางความจอแจ หน้าก็ตลาด หลังก็ตลาด ซ้ายก็ถนน ขวาก็ถนน มีตึกสูงมากมายเยอะแยะ มีแต่ผู้คน จะอยู่ในอิทธิพลของเนปจูน เช่นแถวประตูน้ำ พาหุรัด หรือตรงที่มีถนนหลายสายตัดผ่าน หรือตัวเราต้องติดต่อกับคนหมู่มากอยู่เสมอ ต้องแสดงปาฐกถา สัมมนา ถ้าเปรียบเทียบกับต้นไม้ คือองค์ประกอบของต้นไม้ต้นนั้นที่จะทำให้ต้นไม้ต้นนั้นโดดเด่น หรือเตี้ยต่ำลงคือดาวเนปจูน
ดาวพลูโต (e หรือ พ)หมายถึง สมบัติใต้ดิน คือสภาพแวดล้อม สมมุติต้นไม้ต้นนี้เกิดมาในที่ดินดี ข้างใต้ดี รากแก้วดี สมบัติกินไม่หมด เขาเรียกว่าบุญเก่า เพราะฉะนั้น ดาวพลูโต หมายถึงบุญเก่า กรรมบันดาล สมบัติเดิม ของเก่า อารยะธรรมเก่าๆ วัฒนธรรมดั้งเดิม ปราสาทราชวัง ดาวพลูโตคือสภาพแวดล้อม ของเก่า บุคคลที่มีดาวพลูโตสัมพันธ์กับดวงชะตาคือบุคคลที่มีบุญเก่ามา แต่ถ้าไปสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ด้วย แสดงว่าของเก่านั้นเป็นกรรม