บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕๖/๓ - กวนอูเสียชีวิต
20 พ.ย. 2561

 

ซุนกวนก็หันไปพูดกับนายทหารว่า คนอย่างนี้เป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง ข้าพเจ้ารักนัก  จะขอเอาชนะด้วยความดี ท่านทั้งหลายมีความเห็นประการใด

 

โจหอมนายทหารบอกว่า เมื่อครั้งโจโฉจับกวนอูได้นั้น เคยทําความดีจะเอาชนะกวนอู แล้วอุตส่าห์เลี้ยงดูสารพัดอย่าง ทั้งยศถาบรรดาศักดิ์และความสุข ทั้งหมดยังเอาชนะไม่ได้ กวนอูกลับหนีตีหักด่าน ฆ่านายทหารโจโฉเสียหลายคน แม้ทุกวันนี้ โจโฉยังครั่นคร้ามต่อกวนอูอยู่ ข้าพเจ้าเห็นว่าท่านจับกวนอูได้แล้ว ควรฆ่าเสีย ขืนเลี้ยงไว้ภายหน้าจะเป็นภัย

 

ซุนกวนก็เสียดาย นิ่งคิดเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเอากวนอูกับกวนเป๋งไปประหาร กวนอูตายเมื่ออายุ ๕๘ ปี ความแค้นยังมีอยู่ ก็กลับไปเป็นเปรตอยู่ที่เขาจวนหยกสันหรือเขาสันน้ําพุหยก แขวงเมืองตองเอี๋ยง คืนหนึ่ง เปรตร้องทวงศีรษะให้หลวงจีนเภาเจ๋งได้ยิน หลวงจีนเภาเจ๋งจึงบอกว่า กงกรรมกงเกวียน ท่านฆ่าเขา เขาก็ฆ่าท่าน ท่านฆ่าเขา ไม่มีใครมาทวงศีรษะคืน เขาฆ่าท่าน ท่านจะมาร้องทวงศีรษะจากใครเล่า หลวงจีนก็สวดมนต์แผ่ส่วนกุศลไปให้ กวนอูเลยต้องกลับไปสิงสถิตอยู่บนยอดเขา ส่วนม้าเซกเธาว์ที่กวนอูขี่นั้น ซุนกวนให้เอามาเลี้ยงไว้เป็นอย่างดี แต่ม้าเซกเธาว์ไม่ยอมกินหญ้ากินน้ํา เลยตายตามกวนอูไปด้วย

 

ฝ่ายซุนกวน ครั้นฆ่ากวนอูแล้ว ก็จัดเลี้ยงฉลองชัยชนะเป็นการใหญ่ ซุนกวนกล่าวสรรเสริญคุณความดีความชอบของลิบองอย่างยืดยาว แล้วก็ชวนนายทหารทั้งหมดดื่มให้แก่ลิบอง ลิบองรับจอกสุราจากมือซุนกวน ทันใดนั้น กิริยาของลิบองก็ผิดไป กลับจ้องตามองซุนกวนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ขว้างจอกสุราลงจากพื้น แล้วเอามือบีบคอซุนกวน ด่าว่า อ้ายเด็กตาเขียว อ้ายหนูหนวดแดง มึงรู้จักกูไหม แล้วก็เหวี่ยงซุนกวนลงไปนอนกับพื้น บรรดานายทหารพากันตกตะลึง พอได้สติ รีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองซุนกวน

 

ลิบองก็เดินตึงๆ ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ของซุนกวน ตาจ้องเขม็งไม่กระพริบ แล้วพูดด้วยเสียงอันดังว่า เมื่อครั้งที่กูปราบโจรโพกผ้าเหลือง แล้วตะเวนไปที่โน่นที่นี่ ๓๐ กว่าปี บัดนี้กูแพ้กลอุบายของมึง มึงฆ่ากูเสียก็ดีเหมือนกัน ตอนที่กูมีชีวิตอยู่ กินเนื้อพวกมึงไม่ได้ กูตายไปแล้ว จึงมาหักคออ้ายโจรลิบอง ไม่รู้จักกูหรือไง กูชื่อกวนอู

 

ทุกคนตกใจแทบเป็นบ้า ซุนกวนนอนลงกราบกับพื้นก่อนคนอื่น ทุกคนต้องกราบตามกัน ตอนนั้น ลิบองก็ล้มคว่ําลงมาจากเก้าอี้ เลือดออกทางปากทางจมูก ขาดใจตาย ซุนกวนก็ให้เอาศพลิบองไปฝังอย่างมีเกียรติ ตั้งแต่นั้นมา ซุนกวนก็กลัวเปรตกวนอูไม่เป็นอันหลับอันนอน

 

วันหนึ่ง เตียวเจียว หัวหน้าคณะที่ปรึกษา มาเยี่ยมซุนกวน ณ ที่พัก เตียวเจียวบอกแก่ซุนกวนว่า ท่านได้ฆ่ากวนอู เท่ากับท่านหาเคราะห์มาให้กับกังตั๋ง เพราะเล่าปี่คงนิ่งอยู่ไม่ได้แน่นอน ต้องยกทัพใหญ่มาฆ่าท่านเพื่อแก้แค้นให้กวนอู กําลังเราที่ไหนจะสู้เล่าปี่ได้ ซุนกวนก็ตกใจ กล่าวว่า ข้าพเจ้าก็ผิดไปแล้ว ช่วยคิดอ่านแก้ไขให้ด้วยก็แล้วกัน

 

เตียวเจียวบอกไม่ต้องกลัว ข้าพเจ้าเตรียมแผนป้องกันให้ท่านไว้แล้ว ซุนกวนถามว่าแผนของท่านเป็นอย่างไร เตียวเจียวตอบว่า ต้องรีบส่งศีรษะกวนอูไปให้โจโฉ เล่าปี่จะได้เข้าใจว่า โจโฉใช้เราฆ่ากวนอู เล่าปี่ก็จะโกรธโจโฉ ยกทัพไปตีโจโฉ ไม่มาตีเรา  ซุนกวนได้ฟังก็ดีใจ สั่งให้เอาศีรษะกวนอูใส่หีบไม้หอมส่งไปให้โจโฉ

 

ตอนนั้นอ๋องโจโฉอยู่ที่ลกเอี๋ยง พอทราบข่าวว่าซุนกวนส่งศีรษะกวนอูมาให้ก็ดีใจ อุทานว่า ต่อไปนี้กูนอนตาหลับแล้ว สุมาอี้รีบเข้าไปเตือนว่า นี่เป็นกลอุบายของซุนกวนที่จะให้ร้ายเรา ทําให้เล่าปี่ยกทัพมาตีเรา พอเพลียลงด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซุนกวนจะเข้ามาขย้ําเราเสียทั้งคู่ โจโฉก็นึกขึ้นมาได้ แล้วกูจะทําอย่างไรดี

 

สุมาอี้แนะนําว่า ง่ายนิดเดียว ท่านจงให้แกะไม้เป็นกายของกวนอู เอาศีรษะต่อเข้าไว้ แล้วจัดพิธีฝังศพอย่างมีเกียรติ เพียงเท่านี้ เล่าปี่ก็จะไม่โกรธท่าน จะหันไปโกรธซุนกวนและยกทัพไปตีกังตั๋ง เมื่อเล่าปี่กับซุนกวนรบพุ่งกันยับเยินแล้ว เราจึงขย้ําเสียทั้งสองฝ่ายภายหลัง

 

โจโฉก็เห็นด้วย พอเปิดหีบบรรจุศีรษะกวนอูออกมาดู เห็นหน้ากวนอูยังปกติอยู่เหมือนยังมีชีวิต ก็เลยล้อกวนอูว่า กวนอูเอ๋ยสบายดีหรือ ทันใดนั้น ศีรษะกวนอูอ้าปาก แลบลิ้นปลิ้นตาหลอก หนวดเครากระดุกกระดิก อ๋องโจโฉตกใจเป็นลมพับลงกับที่ ต้องแก้ไขกันอยู่เป็นนานจึงฟื้น ก็เลยสั่งจัดพิธีศพกวนอูอย่างใหญ่โต และประกาศสถาปนากวนอูเป็นอ๋อง ให้มีพนักงานเฝ้าฮวงซุ้ยเช่นเดียวกับศพเจ้านาย

 

หลังจากฝังศีรษะกวนอูแล้ว อ๋องโจโฉกลายเป็นโรคเส้นประสาทอย่างหนัก หลับตาครั้งใด ก็เห็นกวนอูทุกครั้ง ก็เลยสั่งให้สร้างวังขึ้นใหม่ที่เมืองลกเอี๋ยงเพื่อย้ายที่อยู่ แล้วให้นายช่างใหญ่ไปตัดต้นสาลี่สูงยี่สิบวา ขนาดใหญ่หลายคนโอบ เอามาทําเป็นเสาเอกของวังใหม่ แต่ถึงจะเอาขวานฟัน เอาเลื่อยชัก ก็ไม่เข้า ไม่สามารถโค่นได้ อ๋องโจโฉเข้าไปดูที่ต้นสาลี่นั้นแล้วจะเอาขวานฟัน ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านห้ามว่า ต้นไม้อายุ ๓ – ๔๐๐ ปีแล้ว มีเทพารักษ์สิงสถิตย์อยู่ อย่าฟันเลย จะเป็นอันตราย

 

โจโฉโกรธมาก บอกว่า ข้าไปไหนๆ ทั่วโลกเป็นเวลา ๔๐ ปี ไม่เคยกลัวเลย ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไหนก็ตาม ต่อให้เป็นท้าวพญามหากษัตริย์ ข้าก็ไม่กลัว ขี้ข้าม้าคอกแค่เทพารักษ์ จะขัดความประสงค์ของข้าได้อย่างไร ก็ชักกระบี่ฟันลงไป กลับปรากฏมีเสียงร้องโหยหวนอื้ออึงในต้นสาลี่ แล้วมีเลือดพุ่งกระเด็นออกมาถูกเสื้อผ้า โจโฉตกใจจนหน้าถอดสี ทิ้งกระบี่หนีขึ้นม้าขี่กลับวังด้วยความกลัว โจโฉจึงป่วยหนักตั้งแต่นั้นมา