บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕๖/๒ - กวนอูเสียชีวิต
20 พ.ย. 2561

 

ลิบองกล่าวว่า จริงอยู่ ครั้งที่จิวยี่เป็นแม่ทัพ ท่านตั้งให้เทียเภาไปอํานวยการรบ รบร่วมกัน แต่แท้ที่จริง อํานาจสิทธิ์ขาดยังเป็นของจิวยี่แต่ผู้เดียว และเทียเภาก็เคารพนับถือสติปัญญาความสามารถของจิวยี่ อันสติปัญญาความสามารถของข้าพเจ้า ไม่เทียบเท่าจิวยี่ การอํานวยการรบด้วยกันสองคน อาจเกิดขัดแย้งกันขึ้นได้ เกรงว่าซุนเกียวจะไม่ยอมลงให้ข้าพเจ้าเป็นแน่

 

ซุนกวนเห็นด้วย จึงตั้งให้ลิบองเป็นแม่ทัพใหญ่ มีอํานาจอาญาสิทธิ์แต่ผู้เดียว ซุนเกียวนั้นให้อยู่ในคณะเสนาธิการ ใต้บังคับบัญชาของลิบอง แล้วซุนกวนมีจดหมายถึงโจโฉ ขอให้ยกกองทัพเข้าตีกวนอูซึ่งตั้งค่ายประชิดเมืองอ้วนเซีย โดยซุนกวนจะยกกองทัพเข้าตีเมืองเกงจิ๋ว และให้ทหารถือหนังสือฉบับหนึ่งไปถึงลกซุนที่ด่านลกเค้า ให้จักแจงการทั้งปวงให้พร้อม

 

ลิบองได้จัดทหารแต่งตัวเป็นพ่อค้าลงเรือสำเภาสำหรับค้าขาย ซ่อนตัวอยู่ในเรือนั้นแล้วแล่นเข้าไปใกล้หอไฟของเกงจิ๋วในเวลากลางคืน ยามรักษาการณ์บนหอไฟถามว่าเป็นเรือใคร ทหารของลิบองก็ตอบว่า เป็นเรือสินค้า ถูกลมตีมา แล้วก็ทอดสมอเรือประชิดฝังไว้ พอตกตอนดึก ลิบองก็ยกพลขึ้นบก จับยามรักษาการณ์บนหอไฟได้หมดทุกหอไฟ  จึงบังคับให้เข้าเมืองเกงจิ๋ว เรียกทหารยามให้เปิดประตู ยามประตูก็นึกว่าพวกเดียวกันก็เปิดประตูเมืองให้เข้ามา ลิบองก็ยึดเมืองเกงจิ๋วได้โดยง่าย ลิบองออกคําสั่งให้ทหารรักษาความสงบอย่างเคร่งครัดห้ามมิให้ผู้ใดฆ่าฟันหรือกดขี่ข่มเหงพลเมือง ส่วนขุนนางในเมืองเกงจิ๋วให้คงอยู่ตามตําแหน่ง และบุตรภรรยาของกวนอูก็ให้ความคุ้มครองเป็นอันดี

 

รุ่งขึ้นลิบองก็ออกตรวจตรงตามท้องถนน ฝนตกหยิมๆ ทหารลิบองคนหนึ่งเข้าไปแย่งหมวกกุยเล้ยจากชาวบ้านมาสวมกันฝน ลิบองเห็นเข้าก็ให้จับตัวทหารผู้นั้นมา จําได้ว่าเป็นคนเมืองเดียวกัน บ้านเดียวกับตัวเอง ก็ถามว่าทําไมจึงฝ่าฝืนคําสั่ง ทหารตอบว่า ข้าพเจ้าเกรงว่าเครื่องแบบจะเปียกฝน จะเสียรูป จึงเอาหมวกนั้นมากันฝนเท่านั้น ไม่ได้ช่วงชิงเอามาเป็นประโยชน์แต่อย่างใด ก็ขอให้ท่านแม่ทัพให้อภัยแก่ข้าพเจ้า ผู้เป็นชาวเมืองเดียวกับท่านสักครั้งหนึ่งเถิด

 

ลิบองตอบว่า กูรู้ดีว่ามึงเอาหมวกนั้นมากันฝน แต่ได้ขัดคําสั่งแม่ทัพ ช่วยไม่ได้แล้ว สั่งให้เอาตัวทหารผู้นั้นไปตัดศีรษะเสียบประจาน มิให้ผู้ใดเอาเยี่ยงอย่าง ส่วนศพนั้นเอาฝังไว้อย่างมีเกียรติ แต่ลิบองร้องไห้อาลัยรักทหารร่วมสมรภูมิอยู่ที่ฮวงซุ้ยเป็น เวลานาน นับแต่นั้นมา ไม่มีทหารคนใดทําให้ชาวเมืองเกงจิ๋วได้รับความเดือดร้อนรําคาญแม้แต่น้อย

 

ดาว ๓ กับดาว ๘ คือดาวแห่งความเด็ดขาด แต่ต้องได้รับกระแสสัมพันธ์กับดาว ๕ ด้วย หมายถึงความเด็ดขาด ไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด

 

ฝ่ายซุนกวนทราบข่าวว่าลิบองยึดเมืองเกงจิ๋วได้แล้ว ก็มีความยินดีมาก จึงยกทัพเข้าสู่เมืองเกงจิ๋ว ปูบําเหน็จรางวัลแก่ทหาร แล้วตั้งให้พัวโยยเป็นผู้รักษาเมือง

 

ฝ่ายอ๋องโจโฉพอได้รับจดหมายของซุนกวนแล้ว ก็ยกทัพไปตีกวนอูที่ชายแดนเมืองอ้วนเซีย กวนอูสู้ไม่ได้ แตกถอยไปทางเมืองซงหยง ครั้นทราบข่าวว่าลิบองยึดเมืองเกงจิ๋วไว้ได้ก็ตกใจ ยกทหารต่อไปยังเมืองกังอั๋น พอทราบข่าวว่าเมืองกังอั๋นยอมสวามิภักดิ์ต่อซุนกวนแล้ว กวนอูตัดสินใจนําทหารเข้าตีเมืองเกงจิ๋ว กลับถูกลิบองตีแตก ต้องถอยร่นไปตั้งอยู่ที่เมืองเป๊กเต้ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทัพซุนกวนตามไปล้อมเมืองไว้ทั้งสี่ด้าน ซุนกวนให้จูกัดกิ๋นเข้าไปเกลี้ยกล่อมกวนอูให้ยอมจํานนแต่โดยดี  แต่กวนอูไม่ยอม ซุนกวนจึงสั่งให้โจมตีพร้อมกันทุกด้าน กวนอูหนีออกจากเมืองถูกทหารซุนกวนจับตัวได้ เอาเชือกมัดมือไพล่หลังมาส่งให้ซุนกวนพร้อมกับกวนเป๋งบุตรชาย

 

ซุนกวนพูดกับกวนอูว่า ข้าพเจ้ามีใจรักท่านมาช้านาน บูชาในคุณธรรมความดีของท่านเป็นอย่างยิ่ง บัดนี้ท่านตกเป็นเชลยของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าใคร่ขอร้องให้ท่านร่วมมือกับข้าพเจ้าสืบไป จะเห็นเป็นประการใด กวนอูไม่ยอม ตวาดใส่อีกว่า อ้ายเด็กตาเขียว อ้ายหนูหนวดแดง กูสาบานกับเล่าปี่จะกู้ราชวงศ์นั้น ยังมีหน้าคิดว่าคนอย่างกูจะเข้าด้วยกับอ้ายขบถหรืออย่างไร เมื่อแพ้อุบายแล้วถูกจับตัวได้ อย่ามาพูดเกลี้ยกล่อมให้เมื่อยปาก ตายหนเดียว แต่จะไม่เป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย