บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕๕/๑ - ซุนกวนยึดเกงจิ๋ว
19 พ.ย. 2561

 

ย้อนมาถึงเล่าปี่ยึดเมืองฮันต๋ง ตั้งตนเป็นอ๋อง ยึดเสฉวนได้ทั้งหมด แล้วตั้ง ๕ ทหาร เสือ โจโฉเมื่อกลับมาถึงฮูโต๋ ก็แต่งทูตไปเจรจากับซุนกวนเพื่อทําพันธมิตรอย่างลับๆ ร่วมมือกันปราบเล่าปี่ ทําสัญญากันว่าให้ซุนกวนเข้าตีเกงจิ๋ว ส่วนโจโฉจะตีฮั่นต๋งกับเสฉวน เล่าปี่ถูกตี ๒ด้านคงต้านไม่ได้

 

ตอนนั้น ซุนกวนก็หารือกับที่ปรึกษา ตกลงกันว่าให้ใช้สันติวิธีก่อนเพื่อสงวนกําลังและสงวนท่าที จูกัดกิ๋นเสนอว่า เล่าปี่แต่งเมียให้กวนอูคนหนึ่ง จนเกิดบุตร ๒ คน เป็นหญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง บุตรหญิงยังไม่ได้แต่งงาน ข้าพเจ้าก็เห็นว่าควรขอบุตรหญิงให้แก่บุตรชายของท่าน โดยจูกัดกิ๋นยอมเป็นพ่อสื่อให้ ถ้าหากท่านกับกวนอูได้เป็นทองแผ่นเดียวกันได้ เกงจิ๋วก็เท่ากับเป็นของท่าน คือไม่ต้องไปแย่งให้เสียเวลา ท่านจะได้ปรึกษาหารือกับกวนอูปราบโจโฉ แต่ถ้ากวนอูไม่ยอมยกบุตรหญิงให้กับบุตรชายของท่าน ค่อยร่วมมือกับโจโฉปราบกวนอู

 

ข้อเสนอของจูกัดกิ๋นเป็นที่พอใจของซุนกวน จูกัดกิ๋นจึงรีบเดินทางไปหากวนอูที่เมืองเกงจิ๋ว กวนอูต้อนรับเป็นอันดี ถามว่า ท่านมาพบข้าพเจ้ามีธุระอันใด จูกัดกิ๋นตอบว่า ข้าพเจ้ามาเจริญสัมพันธไมตรี อยากจะให้ท่านกับซุนกวนเป็นทองแผ่นเดียวกัน ซุนกวนมีบุตรชายคนหนึ่ง เป็นเด็กฉลาดและเป็นทายาทของสกุล ทราบว่าท่านมีบุตรหญิงคนหนึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ซุนกวนใคร่จะขอบุตรหญิงของท่านให้แต่งกับบุตรชาย กังตั๋งกับเกงจิ๋วจะได้ร่วมกันปราบโจโฉต่อไป ซึ่งข้าพเจ้ามาครั้งนี้เป็นการมงคล ขอให้ท่านได้โปรดพิเคราะห์ดูโดยควรเถิด

 

กวนอูได้ฟังก็โกรธแล้วตวาดว่า ลูกหมาหรือจะมาแต่งกับลูกเสือ นี่หากท่านไม่ใช่พี่ชายของอาจารย์ขงเบ้งแล้ว คอต้องหลุดออกจากบ่าเป็นแน่ ขอท่านอย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อไปเป็นอันขาด ว่าแล้วกวนอูก็เรียกทหารรับใช้ เข้ามาขับไล่จูกัดกิ๋นออกไป จูกัดกิ๋นตกใจวิ่งหนี เอามือบังหน้าด้วยความละอาย พอกลับไปถึงกังตั๋งก็เล่าเรื่องให้ซุนกวนฟังทุกถ้อยกระทงความ

 

จริงๆ แล้ว ขงเบ้งดําเนินนโยบายผิดพลาดไปข้อหนึ่งตามความคิดเห็นของนักวิชาการ ผิดพลาดตรงเกงจิ๋วเป็นจุดยุทธศาสตร์ ทั้งในเรื่องของการเมืองที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุด นักปราชญ์ก็มีเยอะ เป็นที่ชุมชนทั้งมังกร พยัคฆ์ อยู่ที่นี่ทั้งหมด ใครๆ ก็อยากได้เกงจิ๋ว คนที่จะมาปกครองเกงจิ๋ว ต้องเก่งทั้งด้านการเมือง การปกครองและการทหาร แต่กวนอูเก่งในด้านการทหารอย่างเดียว การปกครองก็พอจะไปได้เพราะมีที่ปรึกษา แต่ด้านการเมือง นโยบายระหว่างประเทศ กวนอูไม่เก่งเลย ถือว่าดําเนินนโยบายผิดพลาดไป

 

ตอนนั้น ซุนกวนโกรธจนตาลาย ร้องตะโกนว่า อ้ายกวนอูกับกู ไม่ต้องอยู่ร่วมแผ่นดินกันอีกต่อไป จึงสั่งให้เรียกประชุมคณะที่ปรึกษาเป็นการด่วน ขอความเห็นชอบที่จะยกทัพไปตีเกงจิ๋ว เป็นอันว่ากวนอูทําเสียเรื่อง

 

เปาจิต ที่ปรึกษา ลุกขึ้นค้านว่า อันโจโฉนั้นคิดแย่งราชสมบัติพระเจ้าเหี้ยนเต้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เกรงด้วยเล่าปื่ เป็นก้างขวางคออยู่ ถ้าเราร่วมมือกับโจโฉปราบเล่าปี่ ก็เท่ากับเราร่วมมือช่วยโจโฉแย่งราชสมบัตินั่นเอง

 

ซุนกวนว่า เล่าปี่ล่อลวงเรามาหลายครั้ง เราจะปล่อยให้เล่าปี่เล่นกลอยู่เช่นนี้เรื่อยไปได้อย่างไร บอกว่าจะคืนเกงจิ๋วให้แต่กลับบิดพลิ้ว เปาจิตก็กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านควรให้โจโฉส่งกําลังเข้าตีกวนอูทางบก กวนอูคงยกกําลังออกจากเกงจิ๋วไปป้องกันโจโฉ เราจึงส่งกําลังเข้ายึดเกงจิ๋วเห็นจะได้โดยง่ายกว่าการที่จะเข้าไปตีเอาซึ่งๆ หน้า

 

ซุนกวนเห็นด้วย จึงส่งจดหมายขอความร่วมมือโจโฉ ให้โจโฉเข้าตีเกงจิ๋วทางด้านเมืองอ้วนเซีย อุบายของซุนกวนใช้ได้ กวนอูต่างหากที่พลาดไป

 

ถ้าเราจะวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ตอนนี้ ความสามารถในการใช้คนของขงเบ้ง ยังเป็นรองโจโฉ เพราะว่าโจโฉมีดาว ๑ ๔ ๖อยู่ในราศีชั้นที่สองทําให้มีคุณสมบัติที่จะเลือกใช้คน รวมถึงมีทั้งพระเดชและพระคุณ