บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๔/๓ - อิทธิพลดาวพฤหัสกับดาวเสาร์เดินคู่กัน
20 ก.พ. 2561

 

ตอนนั้นเล่าปี่อยู่กับอ้วนเสี้ยว ข่าวแพร่หลายมาก โจโฉก็พยายามปิดอยู่ตลอดเวลา แต่ว่ากวนอูพอระแคะระคายอยู่แล้ว ครั้งทหารลับของเล่าปี่นำจดหมายมายื่นให้ กวนอูก็เลยไปลา โจโฉก็ให้ปิดประตูทำเนียบ แล้วเขียนหนังสือประกาศที่ประตูว่า สมุหนายกไม่สบาย งดพบปะปรึกษาราชการทั้งปวง
 
จริงๆ แล้ว เป็นอิทธิพลของดาว ๕ กับดาว ๗ อีก หากมีการเจรจาไปขอความช่วยเหลือ ไม่มีทางได้ในครั้งเดียว อย่างน้อยต้อง ๒–๓ ครั้ง แล้วต้องมีเงื่อนไข จะต้องมีเหตุ มีอุปสรรค ในการช่วยเหลือ ในครั้งนั้นการเจรจาก็เปรียบเสมือนคู่พระคู่โจร สุดแต่ใครจะทำตัวเป็นดาวอะไร
 
กวนอูก็ขึ้นไปลาแต่ประตูทำเนียบก็ปิดอยู่เหมือนวันก่อนๆ ก็ไปลาเตียวเลี้ยว นายประตูก็ไม่ให้เข้า บอกว่าเตียวเลี้ยวยังป่วยอยู่ กวนอูก็รู้ว่าโจโจ กับเตียวเลี้ยวป่วยการเมือง สองคนไม่ยอมให้ตัวเองเข้าพบ ถ้าคอยลาก็ไม่ได้ไปหาเล่าปี่เป็นแน่ ก็เลยเขียนจดหมายลา เชิญภรรยาทั้งสองของเล่าปี่ขึ้นรถ แล้วขี่ม้าเซ็กเทาว์ออกไปประตูทางด้านทิศเหนือ
 
โจโฉทราบว่ากวนอูนี้ไปแล้วก็ห้ามมิให้ใครไปติดตามจับ บอกเตียวเลี้ยวว่า ให้ไปบอกกวนอูว่าให้รอ ข้าพเจ้าจะไปส่ง โจโฉมีความฉลาด กวนอูทราบข่าวจึงรอกลางทาง ครั้นโจโฉตามไปถึงก็กล่าวสรรเสริญกวนอูว่า ตัวท่านมีความกตัญญูต่อเล่าปี่ ข้าพเจ้ามีความยินดีด้วย ซึ่งข้าพเจ้าได้รับเงื่อนไขของท่านไว้สามข้อ ก็จะรักษาวาจาไว้มิใช่เป็นคำสอง ท่านจะไปข้าพเจ้าไม่ห้าม แต่เป็นห่วงว่าทางกันดารนัก จึงตามมามอบของเล็กน้อยนี้ไว้เป็นค่าใช้จ่าย แสดงตนเป็นดาว ๕ ก็ถูกต้อง เท่ากับไม่มีดาว ๕ กับดาว ๗ แล้วคุยกันรู้เรื่อง
 
โจโฉให้ทหารนำของถุงหนึ่งไปให้ กวนอูแก้ถุงดูเห็นเป็นทองก็ไม่รับ บอกกับโจโฉว่า ข้าพเจ้าได้เบี้ยหวัดพระราชทานพอใช้สอยอยู่แล้ว ทองนี้ท่านสมุหนายกเอาไว้เป็นบำเหน็จแก่ทหารทั้งปวงเถิด โจโฉก็บอกว่า ท่านมาอยู่กับข้าพเจ้ามีความชอบ ทองถุงน้อยนี้ไม่คู่ควรสินน้ำใจ ขอจงโปรดรับไปเถิด อย่างไรกวนอูก็ไม่ยอมรับ โจโฉก็เอาเสื้อลายทองไปให้อีก กวนอูกลัวว่าเมื่อทหารเอาเสื้อมาสวมให้ กลัวจะโดนจับตัว ก็เอาง้าวรับไว้ แล้วค่อยเอาเสื้อมาสวม แล้วก็คำนับโจโฉ บอกว่าจะไม่ลืมไมตรีและพระคุณของท่านเลย แม้ข้าพเจ้าจะมีชีวิตอยู่จะแทนคุณท่านตลอดไป ประโยคนี้เป็นประโยคที่สำคัญ เพราะกวนอูเป็นผู้ที่มีสัจจะ ในภายภาคหน้าก็จะได้มาตอบแทนบุญคุณกัน
 
เคาตู ทหารเอก ก็บอกว่าไม่น่าจะปล่อยไป คือทั้งหมดนี้ไม่มีใครเห็นด้วยกับการปล่อยกวนอู โจโฉแสร้งทำอารามรีบร้อน ไม่ได้ให้ใบเบิกทางไป เมื่อผ่านด่าน ทหารทุกด่านจึงขัดขวางเสียทุกแห่งไป ดาว ๕ กับดาว ๗ สำแดงเดชอีกตามเคย แถมดาว ๕ ในช่วงนั้นไม่ใช่ราชาโชค เพราะฉะนั้นมีอุปสรรคเหลือเกิน กวนอูก็หักด่านไปเสียทุกแห่ง ฆ่าทหารฝีมือดีของโจโฉไปทั้งหมด ๖ ด่าน พอโจโฉกลับไปฮูโต๋รู้ข่าวเข้า ก็รีบให้ทหารเอาใบเบิกทางไปให้กวนอู ให้ทหารถือธงประจำกองทัพให้เตียวเลี้ยวไปชี้แจงต่อนายด่านทั้งปวง ด้วยเพราะรู้ฝีมือกวนอูอยู่
 
ในที่สุดก็พ้นเขตปกครองของนครฮูโต๋ กวนอูพาภรรยาของเล่าปี่มาถึงเมือง ที่ตั้งอยู่บนเขาแห่งหนึ่ง ก็ถามชาวบ้านว่าเมืองนี้ชื่ออะไร ใครเป็นเจ้าเมือง ชาวบ้านก็บอกว่า เมืองนี้ชื่อเมืองเก๋าเชีย เมื่อห้าหกเดือนมานี้ มีทหารคนหนึ่งชื่อเตียวหุย คุมทหารห้าสิบกว่าคนนยึดเมืองไว้ได้ กวนอูดีใจมากจะได้พบน้อง ก็เตรียมจะขึ้นไปอยู่กับเตียวหุย เตียวหุยถือง้าวออกมา บอกว่ากวนอูไปสวามิภักดิ์กับโจโฉแล้ว กว่าจะเข้าใจกันได้ ก็ต้องให้นางกำฮูหยินกับบีฮูหยินเข้ามาบอกว่า กวนอูมิได้สวามิภักดิ์ต่อโจโฉ นี่ก็เป็นอิทธิพลของดาว ๕ กับดาว ๗ คือพูดยากพูดเย็นไปเสียทุกครั้ง กว่าจะเข้าใจกันได้ สามก๊กตอนนี้แสดงถึงความเป็นดาว ๕ กับดาว ๗ ซึ่งอยู่ร่วมกัน
 
กวนอู, สามก๊ก