บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕๘/๒ - เล่าปี่ไปตีกังตั๋ง
16 ธ.ค. 2561

 

อีก ๖ ปีต่อมา เล่าปี่ทราบข่าวว่าโจผีบุตรของโจโฉ แย่งราชสมบัติจากพระเจ้าเหี้ยนเต้ เนรเทศพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปอยู่ที่เมืองซันเอี๋ยง แล้วตั้งตัวเป็นกษัตริย์ พระนามว่าพระเจ้าอ้วยโซ่ ย้ายราชธานีจากเมืองฮูโต๋ไปตั้งที่เมืองลกเอี๋ยง เล่าปี่ตอนนั้นก็เริ่มมีความรู้สึกว่า มันตรอมใจ คือโจผีกลับได้เป็นกษัตริย์ ตัวเองก็ยังไม่ได้ออกว่าราชการ ให้ขงเบ้งออกว่าราชการแทน ในช่วงนั้น ขงเบ้งปรึกษากับขุนนางฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนพร้อมใจกันว่า บัดนี้โจผีล้มล้างพระเจ้าเหี้ยนเต้เสียแล้ว เราควรยกเล่าปี่ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบราชวงศ์ฮั่นต่อไป

 

ขุนนางทั้งปวงเห็นพ้อง ก็สถาปนาเล่าปี่ขึ้นเป็น พระเจ้าเจี๋ยงบู๊ และตั้งขงเบ้งเป็นสมุหนายก กลายเป็นแผ่นดินจีนมีฮ่องเต้ ๒ องค์ พอขึ้นครองราชย์แล้ว พระเจ้าเล่าปี่ก็กรีธาทัพไปรบกับซุนกวน ตอนนี้ใครห้ามก็ไม่ฟังแล้ว ฝ่ายเตียวหุยก็เตรียมยกทัพจากเมืองลองจิ๋ว ไปสมทบกับพระเจ้าเล่าปี่

 

การใช้อํานาจแบบนี้ คืออํานาจของดาว ๔ ดาว ๑ ดาว ๖ ที่อยู่ในราศีชั้นที่ ๓ ที่อยู่ หลังราศีทวารนั่นเอง การใช้เป็นไปตามอารมณ์ แล้วร้องไห้ก็ง่าย ใจอ่อน

 

ตอนนั้น ฮอมเกียงกับเตียวตัด นายทหารฝ่ายพลาธิการของเตียวหุย ได้รับคำสั่งให้จัดเตรียมเสบียงและอาวุธให้เสร็จภายใน ๓ วัน ก็เข้าไปหาเตียวหุยว่าไม่สามารถจัดเตรียมได้ทัน ขอให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก เตียวหุยโกรธ ไม่ฟัง สั่งให้เอาตัวออกไปเฆี่ยนคนละ ๕๐ ที แล้วเตียวหุยก็ไปเสพสุราจนเมามาย นายทหารทั้งสองคนมีความอาฆาตแค้น จึงลอบเข้าไปตัดศีรษะเตียวหุยในขณะที่กําลังเมาสุรานอนหลับอยู่ เตียวหุยก็ตายไปอีกคน ข้อสําคัญ ฮอมเกียงกับเตียวตัดหิ้วศีรษะเตียวหุยไปขอสวามิภักดิ์ต่อซุนกวนที่เมืองกังตั๋ง

 

ฝ่ายซุนกวนทราบข่าวว่า เล่าปี่ยกทัพมารบก็ตกใจ ให้จูกัดกิ๋นพี่ชายขงเบ้งไปห้ามทัพไว้ จูกัดกิ๋นเข้าเฝ้าพระเจ้าเล่าปี่ที่กองบัญชาการเมืองเป๊กเต้ ทูลให้ทราบว่า ซุนกวนปรารถนาจะเป็นไมตรี จะคืนนางซุนฮูหยินกับเมืองเกงจิ๋วให้กับท่าน แล้วจะจับตัวผู้ที่ฆ่ากวนอูกับเตียวหุยมาให้ท่านลงโทษด้วย ซึ่งถ้าหากว่าพระเจ้าเล่าปี่เหมือนโจโฉหรือว่าเป็นนักการเมือง ไม่ใช้อารมณ์ ก็จะเป็นใหญ่ได้ยาวนาน ถือโอกาสตอนนี้ทําไมตรี แต่ในที่สุด จ๊กก๊กก็ต้องล่มสลายลงหลังจากสถาปนาได้เพียง ๑๔ ปี ทั้งๆ ที่เล่าปี่เอง มีคนดีอยู่ในมือมากมาย แต่การตัดสินใจชั่ววูบในตอนนั้น เล่าปี่ไม่ยอมรับไมตรี ให้จูกัดกิ๋นไปบอกซุนกวนว่า จงล้างคอรอท่าดาบของกูเถิด

 

ซุนกวนปรึกษาเตียวจี๋ว่าจะทําอย่างไรดี เตียวจี๋แนะว่าให้มีจดหมายถึงพระเจ้าโจผี ขอให้ยกทัพไปตีเมืองฮั่นต๋ง ถ้าพระเจ้าโจผีตีเมืองฮั่นต๋งเมื่อใด พระเจ้าเล่าปี่ก็ห่วงหน้าพะวงหลัง จะต้องยกทัพกลับไปเอง ซุนกวนเห็นด้วย จึงให้แต่งจดหมายแล้วให้เตียวจี๋นําไปถวายพระเจ้าโจผี พระเจ้าโจผีทราบความแล้ว มีพระราชโองการสถาปนาซุนกวนขึ้นเป็นง่ออ๋อง หวังจะให้มีความมานะต่อสู้กับพระเจ้าเล่าปี่ ส่วนพระองค์ก็คอยอยู่ไม่ได้ยกทัพไปตีเมืองฮั่นต๋ง หมายให้กังตั๋งกับเสฉวนรบกันจนอ่อนกําลังลง จึงจะเข้าตีทั้ง ๒ ข้าง

 

ฝ่ายซุนกวนครั้นส่งกองทัพออกไปรบพุ่งกับพระเจ้าเล่าปี่ ก็เสียทัพกลับมาหลายหน เห็นทีจะสู้ไม่ได้ จึงเอาศีรษะเตียวหุยใส่หีบไม้หอม จับตัวฮอมเกียงกับเตียวตัดส่งไปให้พระเจ้าเล่าปี่ ร้องขอสงบศึก พระเจ้าเล่าปี่เห็นศีรษะเตียวหุยยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีก ให้เอาตัวฮอมเกียงกับเตียวตัดไปแล่เนื้อ แล้วก็ปฏิเสธซุนกวน ไม่ยอมสงบศึกอีก เป็นอันว่าพระเจ้าเล่าปี่ทิ้งโอกาสครั้งที่ ๒ ไป เพราะคิดว่า เตียวหุยกับกวนอูตายไป ถึงจะกลับมาเป็นไมตรีกับซุนกวนก็ไม่มีประโยชน์ เท่ากับเสียสัตย์กับพี่น้อง

 

ซุนกวนได้ฟังคําขาดของพระเจ้าเล่าปี่ ก็ตกใจกลัวตัวสั่น ไม่รู้จะทําอย่างไร กําเจ๊กที่ปรึกษาจึงแนะว่า เรามีเสาค้ําฟ้าอยู่ต้นหนึ่ง ไฉนท่านจึงไม่นํามาใช้เล่า ซุนกวนถามว่าหมายถึงใคร กําเจ๊กก็บอกว่า ลกซุนที่รักษาเมืองเกงจิ๋ว ผู้เป็นนักปราชญ์และมีความสามารถไม่น้อยกว่าจิวยี่ เพราะเคยคว่ํากวนอูมาแล้ว เรียกลกซุนเข้ามาช่วยเถิด หากแพ้แก่เล่าปี่อีก ข้าพเจ้าจะยอมรับโทษอย่างเดียวกับลกซุนด้วย