ฮวงจุ้ย
- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
ผลงานและบทความพิเศษของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
ฮวงจุ้ยกับธุรกิจ ตอนที่ ๕
26 มี.ค. 2560 
26 มี.ค. 2560
บทความที่ผ่านมา เราพูดถึง การเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างง่ายๆ อยากบอกให้ทราบว่า เราจะเริ่มต้นธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่ว่า เราเลือกทำเลได้แล้วหรือเลือกอาชีพได้แล้ว ทำแล้วก็จะประสบผลสำเร็จตลอดไป ในชาตินี้ไม่มีวันที่จะประสบปัญหาอีก อันนั้นคงเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทราบอยู่เสมอว่า ฮวงจุ้ยเป็นวิชาที่มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป มีองค์ประกอบ สภาพแวดล้อม การที่จะประสบผลสำเร็จได้ ไม่ได้หมายถึงการทำทำเลทำให้รวยรุ่งเรื่อง หรือว่าจัดทำเลเสร็จแล้ว มันต้องเป็นดั่งเนรมิต คงไม่ใช่แบบนั้น
หลักที่สำคัญของหลักวิชาฮวงจุ้ย หัวใจเลยคือตัวบุคคล อย่างน้อยตัวบุคคลจะต้องมีพื้นฐาน มีความรู้จริงในสิ่งที่จะทำ คิดจะทำอะไรอย่างพึ่งไปดูดวง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกรรมในอดีต ซึ่งก็คือฟ้าประทาน เกิดภายใต้นักษัตริย์แบบไหน ที่จะต้องถูกกำหนดว่าลำบากตลอดชีวิต คือมีงานทำตลอด หรือว่าลุ่มๆ ดอนๆ หรือว่าสบาย หรือว่าทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเพียร อย่างไรก็ตามเมื่อเราถูกกำหนดมาแล้ว ก็ใช่ว่าเราจะเป็นแบบนั้นเสมอไป ถ้าเกิดมาแล้ว เราเดินตามเส้นขีดของชะตาชีวิต ก็ไม่ต้องเกิดก็ได้ เพราะรู้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว
จริงๆ แล้ว เราสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของตนได้ เรื่องราวในนิทานชาดกหลายเรื่อง ที่แสดงให้เห็นว่า ความดื้อดึงของมนุษย์สามารถเอาชนะชะตาชีวิตได้ หากว่าดื้อดึงในทางที่ถูกที่ควร ที่เราเรียกว่า "ความเพียร" ดังนั้น วิริยะจึงจัดเป็นบารมีที่สำคัญอย่างยิ่งในพุทธศาสนา แล้วก็อยากจะบอกว่า ความเพียรเอาชนะได้ทุกอย่าง ถ้าเราอยากจะร่ำรวยจริงๆ แล้ว หลักสำคัญที่สุดใช่ว่าจะดูทำเลหรือทำทำเลอย่างเดียว ถ้ามนุษย์ทั้งหลายปราศจากความเพียร ต่อให้ทำเลเปิดอย่างไร ฟ้าเปิดอย่างไร จังหวะโอกาสมี แต่ฉันขี้เกียจที่จะเดินตามนั้น โอกาสก็ไม่มา
ที่นี้ เราตั้งใจ มีความเพียร เคยตื่นสายก็จะตื่นแต่เช้า จะใส่ใจ เราจะรู้จริงในสิ่งที่เราทำ เราชอบทำในสิ่งนี้ เราก็จะต้องหาทำเลที่เหมาะสมกับการค้าแบบนั้น เราต้องดูองค์ประกอบว่า ร้านค้าของเราต้องการอะไรมากที่สุด เพราะว่าความต้องการอันนั้นเป็นตัวกำหนดทำเล ไม่ใช่ในเรื่องของเงิน แต่หมายถึง ต้องการความโปร่ง ต้องการสถานที่ที่ลูกค้ามาหาสะดวก ลูกค้าโทรศัพท์ติดต่อแล้วเราไปหาลูกค้าสะดวก เราไปเอาสินค้าสะดวก อะไรก็แล้วแต่ที่สนับสนุนธุรกิจ นั่นเป็นตัวกำหนดทำเล
คราวนี้เราก็จะลงลึกว่า การประกอบอาชีพของเรา วงจรของเรา ธาตุต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันมีองค์ประกอบที่สมดุลกลมกลืน ทำให้เราลื่นไหลในการทำงานอันนั้น คือทำให้เรารู้สึกว่าอาชีพนี้ยืนยาวนาน เราชอบ เราอยากเข้ามาทำงาน แล้วของที่ขายที่ต้องการของลูกค้า ใน ๕ ธาตุไม่มีอะไรขัดแย้งกัน อันนี้ก็จะเป็นความรู้ลึกซึ้งอีกขั้นหนึ่ง
ถนนที่นำลูกค้ามาสู่เราเป็นถนนแบบไหน มันจะก่อให้เกิดอุปสรรคในอนาคตหรือไม่ มีอุบัติเหตุบ่อยไหม รถติดไหม ในอนาคตจะเจริญหรือจะมีโครงการยกระดับถนนจนที่ของเราต่ำลง สิ่งเหล่านี้ต้องมาคำนึงถึงทั้งหมดเลย
เราอาจจะพูดได้ว่า การสร้างเมืองในสมัยโบราณก็เหมือนเราสร้างธุรกิจ เหมือนเราตั้งต้นที่จะสร้างบ้าน เราก็จะต้องเลือกทำเลที่อยู่อาศัยที่จะทำให้มีความสุข พรั่งพร้อมด้วยบริวาร มีความสบาย มีสติปัญญาที่จะทำอะไรหลายอย่างในชีวิตต่อไป แทนที่จะหมดกำลังใจไปเสียก่อน
ฮวงจุ้ยสมัยโบราณที่เกี่ยวกับการวางผังเมืองหรือการตั้งเมืองหลวง เราสามารถจะปรับประยุกต์มาใช้กับทำเลธุรกิจของเราได้ การศึกษาเรื่องราวในอดีตเป็นเรื่องน่าสนใจ การศึกษาเรื่องเมืองใหญ่ๆ สร้างอย่างไรและต้องคำนึงถึงอะไร เป็นเรื่องยาก พอเราจะมาดูทำเลเล็กๆ บ้านเรือน หรือทำเลธุรกิจของเรา มันก็จะง่ายขึ้น
อย่างสมัยก่อน จะตั้งเมืองหลวง สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ ความอุดมสมบูรณ์ ด้วยไม้ดอกออกผล ดินดี ในประเทศจีนมี ๙ มลฑล ก็จะต้องหาดินที่ดีที่สุดเพื่อจะเลือกเป็นเมืองหลวง ต่อมาก็จะต้องดูว่า มีเครื่องขวางกั้นทางธรรมชาติที่จะคอยคุ้มครองและปกป้องตัวเมือง เช่น แนวเขา แม่น้ำ แนวเขาเป็นตัวกำหนดเขตความเจริญของเมืองหลวง น้ำเป็นตัวสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแนวที่จะปกป้องศัตรูได้ด้วย และบริเวณตรงนั้น ธรรมชาติต้องไม่แปรปรวนจนเกินไป เช่นว่า ถ้ามีภูเขาสูงมากเกินไป น้ำก็ท่วมง่าย หรือว่าในพื้นที่ตรงนั้น ฟ้าผ่าเป็นประจำ คือต้องสังเกตธรรมชาติ ฝนตกบ่อย อากาศชื้นมากเกินไปเพราะอยู่ใกล้ป่า หรือว่าตรงนั้นดินแตกแห้งไปหมด เพราะว่าโดนแดดมากเกินไป เป็นที่ราบสูง สิ่งเหล่านี้ต้องดูหมด
นอกจากนี้ต้องดูว่า การขยายเมืองไปทั้งหกทิศหรือแปดทิศนี้ขยายได้สะดวกหรือไม่ อย่างน้อยๆ ต้องหกทิศ ไม่ใช่สี่ทิศ ขยายไปทั่วได้หรือเปล่า คือต้องค่อยๆ คิดตามว่า ธุรกิจของเราจะขยายต่อไปได้หรือไม่ ถ้าเราขายก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวของเราสามารถไปได้ทุกที่ เราก็จะกลายเป็นแฟรนชายได้ที่สุด หรือว่าขายแล้วอยู่ได้แค่นั้น คือทุกธุรกิจ ต้องดูถึงการขยายตัวด้วย
