วิเคราะห์ดวงตัวอย่าง

 

ตะละแม่จันทรา (ดวงประเทียบ)
31 ม.ค. 2554

 

ตะละแม่จันทรา

 

 “เคยมีใครสงสัยไหมคะ  ว่าดวงของเรานั้นเป็นดวงชาตาหนึ่ง  ที่สามีต้องมีภรรยาหลายคน”

 

เรียนดวงจากวรรณคดีคราวนี้  เป็นเรื่องของเจ้าหญิงพม่า  คราวที่แล้วเป็นสาวมอญ  สรุปยังออกจากประเทศพม่าไม่ได้เพราะมีดวงชาตาที่น่าสนใจมาฝากทุกท่านอีก  ซึ่งเป็นดวงประเทียบอีกเช่นเคย

 

เคยมีใครสงสัยไหมคะ  ว่าดวงของเรานั้นเป็นดวงชาตาหนึ่งที่สามีต้องมีภรรยาหลายคน  คำตอบก็จะอยู่ที่บทเรียนบทนี้
 


กำเนิดของตะละแม่จันทรา  ต้องจับความตั้งแต่เมงกะยินโย  ตั้งตนเป็นกษัตริย์ที่เมืองตองอู  ณ  ลุ่มแม่น้ำอิระวดี  ที่คืนนี้มีแต่ดาว ซึ่งอยู่ในเขตพม่า  ทรงพระนามตามท้องเรื่องที่  “ยาขอบ”  เขียนไว้ว่า  พระเจ้าสิริชัยสุระ  โดยมีสามทหารเอกคือมังสินธู  ตะคะญี  และตองหวุ่นญี  เป็นกำลังสำคัญ

 

พอตองอูตั้งเมืองได้มั่นคง  ตะคะญีก็ลากลับบ้านเดิม  ส่วนมังสินธูก็ออกบวชเป็นพระภิกษุโดยไม่คิดจะสึก  (ซึ่งถ้าใครได้เคยไปดูละครเรื่องผู้ชนะสิบทิศที่โรงละครแห่งชาติ  อาจารย์เสรี  หวังในธรรม  เล่นเป็นมังสินธูนี่แหละค่ะ)

 

มังสินธุ  ได้รับตำแหน่งเป็นอาจารย์เจ้าอาวาสวัดกุโสดอ  ส่วนตองหวุ่นญีรับราชการต่อจนเป็นขุนพลตองอู

 

พระเจ้าสิริชัยสุระ  มีราชธิดาเกิดแต่พระอัครมเหสี  นามว่า “ตะละแม่จันทรา”  มีบุตรเกิดจากมเหสีรอง  ชื่อ “มังตรา”  (แสดงโดย คุณศุภชัย  ซึ่งรำสวยมาก..เอ..ชักนอกเรื่องมากไปแล้ว)  มีศักดิ์เป็นน้องของตะละแม่จันทรา  เพราะอ่อนวัยกว่า

 



ดวงประเทียบ, โหราศาสตร์ไทย, ตะละแม่จันทรา, บุเรงนอง, ตองอู, จะเด็ด, มังตรา


และนี่คือดวงประเทียบของ  ตะละแม่จันทรา

 

สองพระธิดาและราชบุตรนี้ถูกมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของพระนม  “เลาชี”  ซึ่งมีบุตรชายที่มีวัยแก่กว่ามังตราเพียงเจ็ดเดือน  นามว่า  จะเด็ด  (คือว่า..แสดงโดย  คุณปกรณ์  พรพิสุทธิ์ นั่นแหละค่ะ  นอกเรื่องเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว)
 


ด้วยเหตุที่มังตรา  มีอุปนิสัยเจ้าโทสะ  เอาแต่ใจตนเป็นใหญ่  จึงทั้งที่รักแต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะแฝงความริษยา  ชอบเอาเปรียบแก่บุตรพระนม  และตัวจะเด็ดเองก็ยอมเสียเปรียบให้อยู่เสมอๆ  ทำให้นางเอกของเรา  ตะละแม่จันทราค่อนข้างจะเห็นใจคอยปลอบโยนเป็นกำลังใจให้แก่จะเด็ดมาตั้งแต่เยาว์วัย  และความเห็นใจนี้ก็กลายมาเป็นความรักเมื่อเด็กทั้งสองเติบโตขึ้น

 


ย้อนมาดูชาตา  ของตะละแม่จันทรา  ลัคนาอยู่ราศีธนู  เป็นราศีของธิดากษัตริย์เจ้าเรือนอยู่ภพที่เก้า  เป็นภพผู้สูงศักดิ์  กุมดาวเสาร์  ในเรือนอาทิตย์  ซึ่งในดวงหญิงถือว่า  อาทิตย์เป็นดาวเพศชาย  หรือดาวคู่ด้วยดวงหนึ่ง  ดาว ๑  ไปเป็นอุจ  อยู่ราศีเมษ
 


๕ ๗  เป็นดาวพระเคราะห์คู่  หมายถึงจะได้คู่ครองต่ำศักดิ์  อยู่ในเรือนปุตตะของโลก  เห็นใจกันมาแต่เล็กแต่น้อย  แต่คู่ครองจะได้เป็นใหญ่เสมอตนในภายหลัง  เพราะเป็นอุจอยู่ในราศีเมษ

 


ดาวปัตนิ  ของตะละแม่จันทราคือดาว ๙  ไปอยู่ภพมรณะ  มักพลัดพรากจากกัน  กุมดาวเนปจูน  ดาวจันทร์เล็ง  คู่ครองมีหญิงอื่นมากมาย  เพราะดาวเนปจูน  ดาวแห่งแมสโพรดักส์  กำกับอยู่
 


แมสโพรดักส์  แปลว่า  ของโหลค่ะ
 


ดาว ๑ กุมด้วยดาวคู่ธาตุน้ำ  ๔ ๖  ก็ยังแสดงว่า  สามีเป็นคนเจ้าชู้มีคู่ครองหลายคนอีก  ดังเรื่องราวที่จะได้นำเสนอต่อไป
 


เมื่อพระเจ้าสิริชัยสุระ  ทรงพระชราภาพมากแล้ว  ทรงเป็นห่วงเมืองตองอูอยู่มากจึงวางแผนร่วมกับตองหวุ่นญี  ขุนพลคู่ใจ  รุกรานเมืองแปร  เพื่อให้ตองอูเป็นปึกแผ่น  แต่ก่อนจะเคลื่อนทัพไป  ต้องไปดูลาดเลาเสียก่อน  มังตราเห็นหนทางที่จะส่งเสริมว่าที่พี่เขย  ได้สร้างความดีความชอบ  จึงเสนองานสำคัญนี้ให้จะเด็ด  ทั้งให้คำมั่นว่าหากตีเมืองแปรได้  ก็จะยกพระพี่นางคือตะละแม่จันทราให้  เพราะเสด็จพ่อประชวรหนัก  มังตราเองก็จะได้ครองราชย์ในไม่ช้า
 


เมื่อพระเจ้าสิริชัยสุระสิ้นพระชนม์  มังตราขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่า  พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้  คุ้นหูไหมคะชื่อนี้

 

ข่าวคราวที่พระพี่นางจันทรา  รวมทั้งพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้  ได้รับจากเมืองแปร  คือจะเด็ดไม่ยอมกลับตองอู  เพราะไปหลงธิดาเมืองแปร  แสนงาม  ตะละแม่กุสุมา  และในภายหลัง จะเด็ด กลับมาตองอูเพื่อเตรียมทัพตีเมืองแปร  ก็ชิงสารภาพความในใจยอมรับกับตะละแม่จันทราว่า
 


 “ข้าพเจ้ารักน้องท่านนี้โดยใจภักดิ์ ส่วนที่รักตะละแม่เมืองแปร สิรักโดยใจปอง”
 


ตอนนี้ตะละแม่จันทราขอถอนตัว  ซึ่งแน่นอนจะเด็ดไม่ยินยอม  ทำยังไงได้  ดวงเป็นอย่างนี้  แถมยังหว่านล้อมอีกว่า
 


 “อันความที่พิสมัยต่อนางโน้น  ก็ตัดให้ขาดยากกว่ายากนัก  แต่ส่วนข้อที่จะห้ามใจไม่ให้รักตะละแม่จันทรายิ่งยากกว่า..อันจะเด็ดผู้ต่ำศักดิ์มีได้ด้วยคุณสมบัติ  ก็เพราะตะละแม่เป็นผู้ปั้นขึ้นโดยแท้  แลเมื่อตะละแม่สร้างคนผู้นั้นแล้ว  บัดนี้ไฉน  จึ่งทำการเหมือนว่าจะแกล้งทำลายเสีย...”
 


ตะละแม่จันทรา ก็ใจอ่อน  เริ่มทำใจได้ในยกแรกนี้  เพราะต่อมาในวรรณคดี  “ผู้ชนะสิบทิศ”  ยังมีสารพัดตะละแม่ตามมาอีก  เพราะตามดวงชาตาของตะละแม่จันทรา  จะมีสามีผู้ยิ่งยงด้วยยศ  สังเกตได้จากดวงชาตาดังนี้

 

          ดาว  ๑  ได้คู่สมพลกับดาว  ๖  ในราศีเมษ

          ดาว  ๑  ตรีโกณ  ถึงดาว  ๗  ในราศีธาตุไฟ  เป็นคู่อสีติธาตุ  ร่วมคู่มิตร  ดาว  ๕

           ดาว  ๑  เล็งดาว  ๘  ที่โยคถึงดาว  ๗  อัน  หมายถึงตำแหน่งจอมทัพ แห่งตองอู

           ดาว  ๓  กับดาว  ๒  ตรีโกณถึงกัน  ส่งผลถึงอำนาจราชศักดิ์  มีสตรีล้อมรอบ

ตะละแม่จันทรา ก็ได้รับกระแสดาว  ๑  อย่างเต็มที่  จึงได้ดำรงตำแหน่ง  อัครมเหสี  ของจะเด็ดหรือบุเรงนองในที่สุด  และยังได้อานิสงส์ของดาว  ๒  และดาว  ๓  คือเป็นใหญ่ในหมู่สตรี  คือได้เป็นภรรยาหลวงนั่นเอง  การพินิจพิจารณาแบบนี้  เรียกว่า  “อาทิตย์ยงยศ”  ต้องพิจารณาดาว  ๓  กับดาว  ๒  ควบคู่กัน  เพราะปรกติ  ดาว ๒  กับดาว  ๓  ถึงกัน  ไม่มีเกณฑ์อื่น  ก็ไม่ได้ทำนายแบบนี้
 


มีข้อน่าสังเกตว่า  หากดูดวงชาตาของสตรีมีดาว  ๑  โดดเด่นเท่าไร  มักไม่ได้มีเราเพียงคนเดียว  แต่ดาว  ๑  มีเสียนิดเสียหน่อย  ละก็เหลือเราเพียงคนเดียวที่เหลียวแล
 


ตะละแม่จันทรา  ปี  ๒๐๐๐  นี้  จะเลือกเอาแบบไหนดี  คะ...