- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
30 ม.ค. 2554
เม้ยมะนิก
เรียนดวงจากวรรณคดีคราวนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้ ไซซี คือเรื่องราวของสาวสวยรูปงามนางหนึ่ง ที่เปลี่ยนฐานะจากสามัญชนคนธรรมดาสู่ความเป็นราชินี นางคือ เม้ยมะนิก นี่เอง
พวกเราคนไทยทั้งหลาย คงพอจะได้ยินชื่อของนางจากพงศาวดารรามัญ(มอญ) ซึ่งถูกนำมาแปลและเรียบเรียงเป็นวรรณคดีภาษาไทยเรื่อง ”ราชาธิราช”ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ คราวนี้ได้ร้อง”อ๋อ”ตั้งแต่ต้นรายการแล้ว
ก่อนจะรู้จักนางให้ดีกว่านี้ เราต้องมาทำความรู้จักเรื่องฤกษ์และความสำคัญของดาวบางดวงเสียก่อน
สมัยโบราณ หากครูบาอาจารย์จะสอนลูกศิษย์ ให้มีความเข้าใจในเรื่องของดวงชาตาให้แตกฉาน เขาจะผูกดวงประเทียบมาสอนกัน ดวงประเทียบ คือดวงสมมติ ที่ผูกขึ้นตามลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของตัวเอกในวรรณคดี แล้วนำมาเป็นหลักสอนสั่งให้ลูกศิษย์ได้จดจำ เช่น ดวงจตุสดัยเกณฑ์หรือปัญจมหาบุรุษโยค ท่านก็ผูกดวงประเทียบของพระรามในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ แล้วก็ให้จดจำกันว่า หากใครมีดวงลักษณะแบบเดียวกับดวงพระราม ก็จะมีชาตาชีวิตคล้าย ๆ กับพระราม ที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคชีวิตต้องหักเหออกมาเดินดงอย่างที่เรา ๆ ทราบกัน
เพราะฉะนั้น ขณะนี้ที่พวกเรากำลังเรียนรู้ดวงชาตาของเม้ยมะนิก จึงเป็นดวงประเทียบที่ข้าพเจ้าได้ประมวลผูกขึ้นมา เพื่อนำมาเป็นตัวอย่างสอนศิษย์ให้เกิดความเข้าใจในเรื่องวิชาโหราศาสตร์ได้อย่างพิสดารและลึกซึ้งขึ้น
เป็นอันหมดคำถามว่า รู้วันเดือนปี พ.ศ. ที่เม้ยมะนิกเกิดได้อย่างไร
ปรกติ คนเราทุกคนจะมีฤกษ์กำเนิดด้วยกันทั้งสิ้น ฤกษ์ที่พูดถึงนี้ มาจากกลุ่มดาวในจักรวาลที่เรียงรายกันอยู่รอบ ๆ ระบบสุริยจักรวาลของเรานี้ นับรวมกันได้ ๒๗ กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะอยู่ห่างกัน ๑๓ องศา ๒๐ ลิปดา ดาวฤกษ์แต่ละกลุ่มต่างก็มีผลกับดวงชาตาและดวงดาวทุกดวงของเราตามอำนาจของดาวฤกษ์นั้น ๆ การเรียนรู้โหราศาสตร์จึงจำเป็นต้องเรียนรู้อิทธิพลของดาวฤกษ์ที่เกาะเกี่ยวกับดวงชาตาในขณะที่เจ้าชาตาเกิด
การอ่านอิทธิพลของดาวฤกษ์ทั้ง ๒๗ กลุ่มนี้ จะใช้ดวงจันทร์เป็นหลัก คือดูฤกษ์ที่เราเกิดว่า ดาวจันทร์ไปอยู่ในกลุ่มดาวอะไร หรือที่เรียกตามภาษาโหรว่า ดาวจันทร์เสวยฤกษ์ ซึ่งถือว่ามีอิทธิพลครอบคลุมเจ้าชาตาทั้งชีวิต
สำหรับผู้หญิง กลุ่มดาวที่มีความสำคัญที่สุดคือ ปุษยา ตั้งอยู่ในองศาต้น ๆ ของราศีกรกฎและจัดอยู่ในหมวดราชาฤกษ์ ตอนนี้ถ้าใครมีแผ่นลัคนาสำเร็จเอามาหมุนดูก็จะทราบ
ผู้ที่เกิดเมื่อดาวจันทร์เสวยฤกษ์นี้จะเป็นผู้ที่กล้าหาญมีชัยชนะแก่ศัตรูมีโภคสมบัติมากแต่มักขี้โรค ลูกไพร่จะได้เป็นพระยา ราชโอรสจะได้เสวยราชเป็นมหาราช ต่อไปนี้เป็นดวงประเทียบของเม้ยมะนิก
เรื่องราวย่อ ๆ ของเม้ยมะนิก เริ่มจากโอรสองค์หนึ่งของพระเจ้าอู่ เชื้อสายของมะกะโท กษัตริย์ผู้รวบรวมอาณาจักรมอญเป็นผลสำเร็จ เมืองหลวงอยู่ที่เมืองพะโค หรือหงสาวดี โอรสองค์นี้เกิดแต่สนมเอกศิริมายา มีลิ้นเป็นรอยจักรจึงได้พระนามว่า มังสุระมณีจักร และด้วยพระมารดาสวรรคตตั้งแต่มังสุระมณีจักรยังเยาว์อยู่ พระเจ้าอู่จึงให้พระมหาเทวีผู้เป็นพระพี่นางเธอเอามังสุระมณีจักรไปเลี้ยงไว้ ครั้นมังสุระมณีจักรเจริญวัยขึ้น พระเจ้าอู่จึงทรงให้ชื่อใหม่ว่า พระยาน้อย แต่ไม่เป็นที่โปรดปรานนัก เพราะพระยาน้อยองค์นี้มีรูปโฉมค่อนข้างขี้ริ้ว ผมหยิกตาพอง น่องทู่ เป็นคนที่พระเจ้าอู่ลงความเห็นว่าสามหาว หยาบช้าน่ากลัว แต่ที่จริงแล้วก็คือลักษณะของดาวราหู หรือดาว ๘ นั่นเอง
พระยาน้อยมีชายาองค์หนึ่งชื่อ ตะละแม่ท้าว และมีโอรสด้วยกันองค์หนึ่ง ชื่อลาวแก่นท้าว พอมาถึงตรงนี้เหลือบตามองเรือนปัตนิของเม้ยมะนิกนิดหนึ่ง เรือนปัตนิคือเรือนที่ ๗ นับจากลัคนามีดาวราหูอยู่ มีตำแหน่งเป็นมหาจักรกุมดาวอังคารซึ่งมีตำแหน่งเป็นอุจ คือดาว ๓ ๘ กุมกัน ทั้งยังเป็นดาวคู่ธาตุอันแสดงถึงความมีอำนาจ และผู้มีวาสนาสูงสุดแต่รูปไม่งาม ต่อมาเมื่อพระเจ้าอู่ประชวร มหาเทวีกับชู้สมิงมราหู ร่วมมือกันชิงราชสมบัติและคิดกำจัดพระยาน้อย พระยาน้อยจึงหนีไปซ่อมสุมผู้คนที่เมืองตะเกิง และที่เมืองตะเกิงนี้เองพระยาน้อยได้พบกับเม้ยมะนิก ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง ๑๖ ปี
ดาว ๘ ของเม้ยมะนิกยังคงสำแดงเดชต่อไป ในเรือนคู่ของเม้ยมะนิก แสดงถึงคู่ครองที่นอกจากจะไม่หล่อแล้วแถมมีตำหนิอีก คือมีศรีภรรยามาก่อน เข้าทำนองพ่อหม้ายเมียเผลอ วันนั้นพระยาน้อยประสงค์จะเสด็จไปนมัสการพระบรมธาตุมุนาถนอกเมืองตะเกิง ระหว่างทางผ่านร้านขายแป้งน้ำมันริมทาง ที่มีคนมารุมกันจนผิดสังเกต พระยาน้อยเองก็อดเหลือบมองไม่ได้ และเมื่อทั้งสองเพียงสบตากันต่างก็มีใจตรงกันทันที่ ลักษณะอาการรักแรกพบอย่างนี้ หลายคนคงแอบคิดว่า ดาวอะไรหนอ เราอยากมีบ้างจัง ดาวศุกร์ ๖ กับดาวเกตุ ๙ ค่ะ หากใครมีดาว ๖ กับดาว ๙ กุมกัน โยคกัน (คือห่างกันสามราศี)เป็นอันใช้ได้ ชาตินี้ย่อมมีสักครั้งที่จะได้ประสบกับรักแรกพบ เหมือนนางเม้ยมะนิก
มีลูกเล่นของโหรอีกนะค่ะ ถึงอาชีพของเม้ยมะนิก คือดาวพลูโตธาตุไฟมาอยู่ร่วมกับดาวอังคาร ธาตุน้ำในราศีธาตุดิน ลองมาผสมธาตุกันดูนะค่ะ ธาตุน้ำ + ธาตุดิน แล้วเอาธาตุไฟมาผสม ก็คือขายแป้งน้ำมัน ส่วนดาวราหู ๘ คือการผสมผสานนั้นเอง แล้วพระยาน้อย ก็ส่งคนมารับเม้ยมะนิกไปเป็นสนมเอกอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ โดยไม่สนว่านางจะมีสามีเป็นตัวเป็นตนมะจัดคิดถึง
เม้ยมะนิกมีดาว ๖ ๗ คือดาวศุกร์ กับดาวเสาร์ อยู่กุมกันในราศีของชีวิตสมรส คือราศีตุลย์ จึงมีความผิดหวังในความรัก อีกประการหนึ่ง ดาว ๘ ที่อยู่ในเรือนปัตนินั้นจัดเป็นพินทุบาทว์ และข้อน่าสังเกตอีกประการ คือดวงของเม้ยมะนิกยังได้จตุสดัยเกณฑ์ ประเภทปัญจมหาบุรุษโยค และฤกษ์ที่เกิดนั้นอยู่ในปุษยฤกษ์อีกด้วย พอเจอศัพท์แสลง ลูกศิษย์ก็มีอันลงไปอยู่ใต้ก้นกุฏิจริง ๆ คือไม่โผล่ออกมารู้เรื่องอีกเลย
พินทุบาทว์ คือเกณฑ์ที่จะต้องพลัดพรากจากบ้านเรือน หรือจะต้องพลัดพรากจากสามี
จตุสดัยเกณฑ์ คือดาวเป็นรูปกากบาท ชีวิตมักหักเหเปลี่ยนแปลง หน้ามือเป็นหลังมือ
ปัจมหาบุรุษโยค คือดาวรูปกากบาท ที่ได้ตำแหน่งในที่นี้คือ ๒ ดาวจันทร์ เป็นเกษตร ๕ ดาวพฤหัส เป็นราชาโชค ๓ ดาวอังคาร เป็นอุจ ๘ ราหูเป็นมหาจักร และดาว ๖ ศุกร์ เป็นเกษตร อยู่ร่วมดาวเสาร์ ๗ ที่เป็นอุจ ดาวที่ได้ตำแหน่งอย่างนี้ คือแม้จะลำบากอย่างไร ในที่สุดก็จะได้ครองเมืองเหมือนดวงพระราม
ปุษยฤกษ์ คือฤกษ์ที่ดีที่สุดสำหรับสตรีดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นอันว่า ดวงชาตาของเม้ยมะนิก บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าจะได้เป็นราชินี คราวนี้เชิญผู้อ่านขึ้นมาบนกุฎิร่ำเรียนกันต่อไป
หลังจากซ่องสุมผู้คนปราบศึกสงครามชิงราชสมบัติเรียบร้อย สิ่งที่พระยาน้อยต้องจัดการเป็นอันดับต่อไป คือหย่าศึกภายในระหว่างตะละแม่ท้าวและเม้ยมะนิก แต่ไม่ค่อยได้ผลเพราะตะละแม่ท้าวมีความถือตัว ทั้งยังหึงหวงพยาบาท จนทำให้เสียการ เพราะในวันราชพิธีปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ พระยาน้อยกำหนดให้ตะละแม่ท้าวเป็นอัครมเหสีฝ่ายขวา ส่วนเม้ยมะนิกเป็นอัครมเหสีฝ่ายซ้าย ตะละแม่ท้าวไม่ยอมด้วยความขุ่นเคืองสุดขีด จนเลยฤกษ์พระราชพิธี เป็นอันว่าพระยาน้อยทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์มอญ ทรงพระนามว่า พระเจ้าราชาธิราช และสถาปนานางเม้ยมะนิกผู้มาตามพิธีฤกษ์ เป็นพระนางปิยราชเทวีนับเป็นพระมเหสีคู่บารมีพระเจ้าราชาธิราชแต่เพียงผู้เดียว เพราะถึงแม้พระองค์จะมีสนมอีกมากนาง แต่ไม่เคยแต่งตั้งผู้ใดเป็นพระมเหสีอีกเลย
เม้ยมะนิก จึงเป็นนางในวรรณคดีที่โชคดีที่สุด ที่มีดวงชาตาพลิกผันก้าวจากการเป็นภรรยาของมะจัดคิดถึง นั่งขายแป้งขายน้ำมันอยู่ร้านริมทาง ขึ้นมาสู่ราชินีแห่งชาวมอญในที่สุด อิทธิพลของปุษยฤกษ์นี่แหละค่ะ