บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๒/๑ - ซุนเซ็ก
4 ม.ค. 2559

 

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, ซุนเซ้ก

 

เรื่องราวของสามก๊กตอนนี้ ขอเป็นการเปิดตัว “ซุนเซ็ก” พี่ชายซุนกวน และ “จิวยี่” ที่จะมาขับเคี่ยวกับขงเบ้งในอนาคต แสดงให้เห็นอะไรบางอย่างก่อนที่จะตั้งตัวเป็นก๊กใหญ่ได้
ตอนนั้น ซุนเซ็กใช่ว่าจะมีเมืองของตนเอง อาศัยอยู่กับอ้วนสุด ณ เมืองลำหยง  ซุนเซ็ก เป็นขุมพลคนหนึ่ง ซึ่งในเวลานั้นสามารถตีเมืองโลกั๋งได้สำเร็จ ก็กลับมาที่เมืองลำหยง

 

ซูนเซ็กคนนี้ ไม่ใช่เป็นบ่าวแต่ดั้งเดิมของอ้วนสุด แต่เป็นบุตรของซุนเกี๋ยน ครั้นบิดาตายจึงยกมาอยู่เมืองกังหนำอยู่กับโตเกี๋ยม ซึ่งไม่เป็นสุข เป็นที่คับใจมากกว่า เพราะกังหนำตอนนั้นขึ้นกับเมืองชีจิ๋ว  ซุนเซ็ก จึงพามารดากับครอบครัวไปไว้ตำบล “ขยกโอ๋” ใกล้เมืองตันเอี๋ยง  ซึ่งที่นี่ต้องมีลักษณะชัยภูมิทำเลหรือเรียกได้ว่า “ฮวงจุ้ยดี” เพราะตั้งแต่ครอบครัวซุนเซ็กมาตั้งหลักปักฐานที่นี่ ก็มีแต่เจริญขึ้น แม้จะมีอุปสรรคขวากหนามใหญ่หลวงอย่างไรก็ตาม ก็นำพาตระกูลนี้ให้เจริญรุ่งเรืองทั้งสิ้น


น่าค้นหานะคะว่า เมือง “ขยกโอ๋” นี้ ปัจจุบันคือเมืองอะไร  จะได้ไปตามดูทำเลให้รู้จริง จะได้มาปรับประยุกต์ใช้กับผู้ที่จะหาเสียงเลือกตั้งคราวหน้า
ซุนเซ็กวางครอบครัวไว้ในที่ๆ ปลอดภัย แล้วตนเองก็มารับราชการอยู่กับอ้วนสุด

 

อ้วนสุดตั้งซุนเซ็ก เป็น เก้าอุย นายทหาร  ได้ใช้ให้ไปตีเมืองเก๋งกวน สำเร็จไปครั้งหนึ่ง ซ้ำไปตีเมืองโลกั๋งได้อีก จึงมีความชอบ แต่มิได้ให้บำเหน็จเพียงแต่ชวนกินโต๊ะจีนเท่านั้น ก็จบกัน  คือ รบแทบตาย รางวัลคือ หนึ่งโต๊ะจีน ย่อมทำให้ซุนซ็กน้อยใจเป็นธรรมดา

 

เมื่อซุนเซ็กกลับมาถึงบ้าน ก็นั่งเสียอกเสียใจน้ำตาตกอยู่ที่สวนดอกไม้  จูตี ซึ่งเป็นทหารเอกของบิดาเดินเข้ามาเห็นซุนเซ็กเสียใจ กลับหัวเราะบอกว่า  “บิดาของท่านเมื่อยังมีชีวิตอยู่ จะทำการสิ่งใด ก็ปรึกษาเราทุกครั้ง  บัดนี้ท่านขัดเคืองสิ่งใด ถึงร้องไห้เสียอกเสียใจดังนี้”

 

การปรึกษาผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีอาวุโสกว่าตน แถมมีประวัติเป็นที่ปรึกษาของพ่อมาก่อน ย่อมจะได้อะไรดีๆ  ซุนเซ็กคงมองเห็นข้อนี้ มีความรู้สึกคลายใจที่จะปรับทุกข์กับจูตี จึงเล่าความให้ฟังว่า “ความชอบไม่มี ความดีไม่ปรากฏ อยู่ต่อไปก็ไม่เจริญก้าวหน้า ครั้นจะทำอย่างซุนเกี๋ยน ผู้เป็นบดิดา แยกตัวไปสร้างเมือง กำลังก็น้อยเหลือเกิน”

 

จูตีให้ข้อคิดว่า “ตัวท่านเป็นคนมีตระกูล อย่ามัวมาร้องไห้อยู่เลย เหมือนมิใช่ชายชาติทหาร ให้คิดอ่านเข้าไปหาอ้วนสุดเลย แล้วขอทหารยกไปช่วยงอเก๋ง ผู้เป็นน้าชาย ที่อยู่เมืองตันเอี๋ยง เราก็จะมีกำลังมากขึ้น”

 

ตอนนี้ ลิห้อม ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของอ้วนสุดจะมาหาซุนเซ็ก แอบฟังได้ยินเนื้อความ จึงเดินเข้าไปขอร่วมด้วย บอกว่า ตนมีทหารที่มีฝีมืออยู่ ๑๐๐ คน กลัวแต่ว่า อ้วนสุดจะไม่อนุญาต
ถึงตอนนี้ ต้องหยุดคิดนิดหนึ่งว่า เหตุใดลิห้อม และทหารฝีมือดีๆ นี้ จึงอยากหนีตามคนอื่นไป โดยไม่อยากจะอยู่กับอ้วนสุด น่าคิดนะคะ