บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒/๑ - ดวงประเทียบพระเจ้าเลนเต้
20 พ.ย. 2558

 

ในศาสตร์ของฮวงจุ้ย ทำเลที่ให้อำนาจ คือการจัดโครงสร้างลักษณะให้ที่นั่งของฮ่องเต้หรือผู้มีอำนาจนั่งหลังอิงกำแพงในที่สูง เบื้องหน้าเป็นที่ลาดต่ำ ซ้ายและขวามีผู้พิทักษ์  ขวาคือ มังกรเขียว ฝ่ายหยาง หรือขุนนางฝ่ายบู๊ ในขณะที่ ซ้ายเป็นตำแหน่งเสือ ฝ่ายบุ๋น หรือฝ่ายหยิน คือ ขันที
 
เมื่อใดก็ตามที่ขันทีมีอำนาจมากกว่า จะมีลักษณะขันทีครองเมือง หมายถึง หยิน มีอำนาจมากกว่า หยาง บ้านเมืองก็จะเดือดร้อน และถ้าขันทีล้อมหน้าล้อมหลัง นั่งไม่ตรงตำแหน่ง ปะปนทั้งบุ๋นและบู๊ หยินก็ฆ่าหยางอีกเหมือนกัน
 
ในพระราชวังจะเต็มไปด้วยสนมนางใน มีขันทีเป็นผู้ดูแลรับใช้ใกล้ชิด และมีระดับขันทีที่ใกล้ชิดพระเจ้าแผ่นดิน ฮองเฮา สนมนางในทั้งหมด จะมีตำแหน่งสูงสุด มีอำนาจและอิทธิพล เพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดที่สุดของผู้มีอำนาจเหนือแผ่นดิน ถ้าฮ่องเต้อ่อนแอ จะถูกครอบงำโดยง่าย จะเกิดสภาวะหยินฆ่าหยาง คือ ทำลายขุนนางดีๆ ที่ทำให้บ้านเมืองเจริญอีกเหมือนกัน
 
แต่อ่านถึงตอนนี้ ก็เหมือนหยินครอบงำเราด้วย ขอไอ สักแค๊ก... แล้วเขียนต่อ ระบายหยิน
 
การใส่ร้ายป้ายสี เป็นลักษณะของหยินแรงประการหนึ่ง และเป็นเหตุของความเสื่อมทุกประการ
 
 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, เลนเต้

 
ดวงชาตาของพระเจ้าเลนเต้ ถ้าผูกดวงประเทียบขึ้นมาคร่าวๆ ไม่ต้องเอาครบทุกดวง ตามพระลักษณะนิสัย ที่รักความสะดวกสบาย เป็นลักษณะของราศีที่มีลัคนาสถิตอยู่ในธาตุน้ำราศีกรกฏ ดาว ๖ กุม มีดาว ๒ เป็น ๕ แก่ลัคน์ ทำให้ขี้เกรงใจ จนเป็นลักษณะของความอ่อนแอและลังเล เป็นไปตามสภาพแวดล้อม ลัคนาต้องสถิตอยู่ในราศีธาตุน้ำ ดาว ๒ และตนุลัคน์ ดาว ๒ นี้ ต้องเป็นฝ่ายชมพูทวีป ธาตุน้ำอีก มีอยู่ราศีเดียว คือราศีพิจิกได้ตำแหน่งนิจ ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจใดๆ และตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกบีบบังคับ เข้าทำนองพินทุบาทว์ ดังนั้น พระเจ้าเลนเต้ คงประสูติวันจันทร์ อย่างแน่นอน
 
อันดวงชาตาที่มีดาวศุภเคราะห์เกาะกุม และสัมพันธ์กับลัคนาอย่างนี้ จะเหมาะกับดวงสตรีมากกว่าดวงชาตาชาย พระเจ้าเลนเต้แม้ไม่ได้ตกอยู่ในอำนาจสตรี แต่เนื่องจากดาว ๒ เป็นนิจ ในราศีพิจิก จึงตกอยู่ในอำนาจของ สตรีไม่แท้ไป ก็ขันทีนั่นแหละ
 
ดาว ๑ คงจะเป็นนิจ ในราศีตุลย์ และพระเจ้าเลนเต้ คงจะเกิดในช่วงที่ ดาว ๑ ไม่สามารถให้พลังแสงสะท้อนสู่ดวงจันทร์เลย ดวงชาตาจึงไม่เข้มแข็ง
 
มีดาว ๕ กุมลัคนา มีสภาพเป็นอุจจ์ ทำให้เป็นกษัตริย์ แต่กุมลัคนาทำให้ไม่ฉลาด และถูกครอบงำโดยง่าย (ไหนว่า ๕ เป็นดาวแห่งสติปัญญา ทำไมถึงไม่ฉลาด ในเมื่อมีสภาพเป็นอุจจ์ด้วย)
 
โหราจารย์โบราณ ได้กล่าวถึงดาว ๕ กุมลัคน์ว่ามีข้อดีเหลือหลาย แต่...มักถูกหลอก และเสียรู้ง่าย ถ้าได้รับแสงจากดาวศุภเคราะห์ หรือไม่ก็มองคนในแง่ดี 
 
ดาว ๕ เป็นอุจจ์ ในเรือนของดาว ๒ และดาว ๒ ไปเป็นนิจด้วย ดาว ๕ ก็แทบจะหมดคุณภาพ เป็นอุจจ์หลอกตา แต่หามีอำนาจที่แท้จริงไม่
 
ดาว ๑ ที่เป็นนิจ ถ้าหากผู้นั้นมีตำแหน่งสูงจะถูกชิงอำนาจและไม่เป็นตัวของตัวเอง
 
ดาว ๔ ของพระเจ้าเลนเต้ น่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ไกลดาว ๑ และ ดาว ๖ แต่ก็ไม่น่าจะอยู่ตำแหน่งที่ดีเพราะดาว ๔ ถ้าเป็น ๖ เป็น ๘ และเป็น ๑๒ จากลัคนา บริวารมักนำเรื่องเดือดร้อนมาให้เสมอๆ
 
และดาว ๘ ในชาตาของพระเจ้าเลนเต้ คำนวณจากปีที่ครองราชย์ คือ พ.ศ. ๗๑๑ เมื่ออายุได้ ๑๒ ปีถอยหลังไปดาว ๘ จะอยู่ราศีพฤษภ เล็งดาว ๒
 
ดาว ๔ เสีย ดาว ๒ ถูกเบียน หมายถึง สติปัญญาทึบนั่นเอง
 
ย้อนมาที่ ดาว ๕ ที่กุมลัคน์ เมื่อไม่มีดาวสนับสนุนความเป็นอุจจ์ของตน เลยทำให้ดาว ๕ แสดงผลในความดื้อรั้นเชื่อในอำนาจของฮ่องเต้ จะเอาอะไรก็ได้ใครเตือนก็ไม่ฟัง เตือนเรื่องขันทีก็ไม่สบายใจ แล้วไม่กล้าจัดการหรือทำการสิ่งใด เพราะดาว ๕ ขาดองค์ประกอบสนับสนุน ให้มีความเป็นอุจจ์นั่นเอง
 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, เลนเต้

 
เป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่า ดาวที่ได้ตำแหน่งนั้นถ้าจะแสดงคุณภาพอย่างสมบูรณ์นั้น ต้องมีดาวสนับสนุนด้วย
 
เกิดอาเพศมากมาย ในรัชสมัยของพระเจ้าเลนเต้ ดาวพลูโต และดาว ๙ เป็นตัวบอกว่าจะได้ประสบกับเหตุการณ์ที่เหนือคำอธิบาย ดังนั้น ดวงชาตาของพระเจ้าเลนเต้ มีดาว ๙และ พลูโต อยู่กลางฟ้าที่ราศีเมษ อาเพศจึงมีผลกับพระองค์โดยตรง