เตียวคับ เดิมเป็นทหารเอกของอ้วนเสี้ยว แต่ว่าขุนนางของอ้วนเสี้ยวแย่งความดีความชอบกัน จึงทำให้เตียวคับหนีไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ เตียวคับรับราชการเป็นนายทหารในกองทัพของโจโฉอีกนาน ติดตามไปทําศึกด้วยทุกครั้ง แล้วการรบครั้งยิ่งใหญ่ที่โจโฉแตกพ่ายจากตําบลเซ็กเพ็กที่กังตั๋ง เตียวคับก็เข้าคู่กับเตียวเลี้ยวรบกับจูล่ง สามารถช่วยโจโฉหนีรอดจากตําบลอู่หลินไปได้

ประวัติโจโฉก็รบแพ้มาโดยตลอด เตียวคับเป็นนายทหารก็แพ้มาด้วยกัน ความตอนที่โจโฉได้เลื่อนยศเป็นวุยก๊ก แล้วก็จะยกทัพไปตีเมืองฮันต๋งผ่านไปตีเสฉวน ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ตกเป็นของเล่าปี่ ตอนนั้นเตียวคับถูกปล้นค่าย ต้องแตกหนีไปหาโจโฉที่ทัพหลวง หวุดหวิดเกือบถูกประหารชีวิต การยุทธที่สําคัญๆ ที่โจโฉไม่ได้ไปด้วยก็แตกทัพกลับมาอีก แต่ว่าแก้มือได้ สรุปว่าสามารถประชิดเมืองฮันต๋ง ตอนนั้นเตียวล่อเจ้าเมือง ส่งทหารเอกบังเต็กมารบ โจโฉก็ออกอุบายให้ทหารเอกของตนล้อมจับตัวไว้ได้ แล้วเกลี้ยกล่อมให้เป็นพวกของตนได้อีก ฮันต๋งก็ตกเป็นของ โจโฉในตอนนั้นซึ่งเดียวคับก็ร่วมรบอยู่ด้วยก็ถือว่าแก้หน้าไปได้ครั้งหนึ่ง

หลังจากที่โจโฉตีเมืองฮันต๋งได้แล้ว ก็ให้แฮหัวเอี๋ยนกับเตียวคับอยู่รักษาเมือง เตรียมที่จะรบกับเล่าปี่ต่อไป ตอนนั้น โจโฉให้โจหองไปเสริมกําลังป้องกันเมืองฮันต๋งซึ่งเตียวคับกับแฮหัวเอี้ยนรักษาเมืองอยู่แล้วให้มั่นคงยิ่งขึ้น เพราะว่าฮันต๋งเป็นเมืองใหญ่ของเสฉวน เป็นเมืองหน้าด่าน เมื่อม้าเฉียวยกทัพหน้ามาถึง โจหองก็ยกทหารออกไปรบกับม้าเฉียวที่ตําบลแฮเปียน ครั้งแรกฆ่านายทหารรองของม้าเฉียวตาย ม้าเฉียวก็เลยตั้งมั่นอยู่ในค่ายไม่ออกมารบ โจหองก็ถอยกลับเข้าเมืองฮันต๋ง

เตียวคับสงสัยว่ากำลังเป็นต่อ ทําไมไม่ทําการต่อไป กลับถอยมาเสียได้ โจหองบอกว่า ก่อนที่จะยกทัพกลับมานี่ กวนลอที่เป็นโหรที่มีชื่อเสียงได้ทํานายเอาไว้ว่า โจโฉต้องเสียพี่น้องและทหารเอกไปคนหนึ่ง เตียวคับได้ฟังก็หัวเราะ ท่านเป็นเชื้อพระวงค์โจโฉและเป็นทหารเอกด้วย มัวมาเชื่อคําทํานายของหมอดูนั้นไม่ควร เตียวคับก็ขออาสาคุมทหารไปตีเมืองปาเสให้ได้ โจหองก็บอกว่าเตียวหุยที่รักษาเมืองปาเสอยู่นั้นฝีมือกล้าแข็ง ไม่ควรประมาท

เตียวคับก็ว่า คนทั้งปวงกลัวฝีมือเตียวหุย แต่ข้าพเจ้านี้เห็นความคิดของเตียวหุยเหมือนเด็ก ๗ ขวบ ข้าพเจ้าจะขออาสาไปจับตัวเตียวหุยมาให้ได้ โจหองถามว่า ถ้าไม่ได้เหมือนปากว่าจะทําประการใด เตียวคับก็ว่า ข้าพเจ้าจะเขียนสัญญาไว้ ถ้าไม่สมเหมือนดั่งปากว่า ก็ให้ตัดศีรษะของข้าเถิด แล้วยกทหาร ๓ หมื่นไปตั้งค่ายใกล้ตําบลแฮเปียน ตั้งเป็น ๓ ค่ายชื่อ ค่ายเพ็กเงียม ค่ายบองเทา และค่ายบองเซ็ก วางทหารค่ายละหมื่น แต่ม้าเฉียวก็ไม่ยอมออกมารบ เตียวคับก็แบ่งทหารค่ายละห้าพันยกอ้อมไปตีเมืองปาเส ซึ่งเส้นทางกันดาร

เตียวหุยให้ลุยต๋องคุมทหารห้าพันไปซุ่มอยู่นอกเมือง แล้วคุมทหารหนึ่งหมื่นออกรบกับเตียวคับได้ ๓๐ เพลง ลุยต๋องก็คุมทหารตีตัดท้ายเข้าไปฆ่าฟันทหารของเตียวคับล้มตายเป็นอันมาก เตียวคับพาทหารหนี เตียวหุยกับลุยต๋องก็ไล่ตีขนาบทั้งสองด้านจนทหารของเตียวคับแตกหนีเข้าค่ายเต็งเงียม แล้วให้ทหารยิงเกาทัณฑ์โยนก้อนหินป้องกันค่ายไว้ได้

เตียวหุยคุมทหารมาตั้งค่ายอยู่ห่างประมาณ ๑๐๐ เส้น พอรุ่งเช้าก็ยกพลออกมาด่า ท้าทายให้เตียวคับออกมารบกัน เตียวคับก็ไม่ยอมออกรบ กลับหนีไปเล่นกระจับสีซออยู่บนเนินเขาให้สบายใจ เตียวหุยร้องด่าเป็นข้อหยาบช้าอยู่หลายวันจนเสียงแหบแห้ง แต่เตียวคับไม่ยอมออกรบด้วย แถมย้อนด่ามาว่า อ้ายเตียวหุยคนขายสุรา

เตียวหุยโกรธแต่ทําอะไรไม่ได้ เตียวหุยก็ทำเป็นเสพสุราเมา แล้วก็ออกมาร้องด่าเตียวคับทุกวัน กองเสบียงที่มาส่งเสบียงให้เตียวหุย เห็นเตียวหุยดื่มสุราแล้วออกไปด่าเตียวคับทุกวัน และวินัยทหารก็หย่อนๆไป จึงกลับไปแจ้งต่อเล่าปี่ที่เสฉวน เล่าปี่ก็ปรึกษากับขงเบ้ง ขงเบ้งอ่านออกว่าเป็นแผนลวงข้าศึกของเตียวหุย จึงให้อุยเอี๋ยนคุมเกวียนขนสุรามาเพิ่มให้เตียวหุยอีก แล้วมีสารเร่งให้เตียวหุยเอาชนะเตียวคับให้ได้ เตียวหุยเอาสุรามาเลี้ยงทหารให้มีใจกําเริบ แล้วก็ตีฆ้องโห่ร้องอื้ออึงอยู่ในค่าย

เตียวคับให้ทหารไปสอดแนม เห็นว่าเตียวหุยเสพสุรากับทหารทุกวัน ครั้นถึงกลางคืนเดือนสว่าง เตียวคับยกทหารออกจากค่ายเข้าล้อมค่ายของเตียวหุย แล้วตีหักเข้าไปในค่ายได้ เตียวคับขับม้าเข้าไปเอาทวนแทงเตียวหุยกลางวงสุรา แต่กลับกลายเป็นหุ่นทําเหมือนเตียวหุยที่ทําล่อเอา เตียวคับรู้ตัวว่าโดนหลอกรีบควบม้าหนีกลับค่าย ปรากฏว่าเตียวหุยซุ่มอยู่นอกค่าย ขี่ม้าออกมาสู้กับเตียวคับ ทหารของเตียวคับที่ยกออกมาช่วยก็ถูกอุยเอี๋ยนกับลุยต๋องสกัดตีจนแตกพ่ายไป ทหารของเตียวหุยก็เผาค่ายหมดเลยทั้ง ๓ ค่าย เตียวคับต้องพาทหารที่เหลือหมื่นเดียวถอยออกมาตั้งที่ด่านอวนเทาก๋วน แล้วส่งทหารไปแจ้งให้โจหองยกมาช่วย โจหองก็ไม่มาช่วย หาว่าอวดดี ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง เก่งจริงก็ใช้ทหารที่เหลือรบเอาชนะเตียวหุยให้ได้