บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๗/๒ - ยุทธศาสตร์เมืองเกงจิ๋ว อิทธิพลของดาว ๓ ๕
2 มี.ค. 2561

 

ลักษณะทำเลของเกงจิ๋ว ถึงแม้ว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์เป็นเมืองใหญ่ เป็นที่มั่นที่เหมาะสม ไม่ว่าใครยึดครองได้ ก็จะสามารถครองแผ่นดินจีนได้ทั้งหมด เป็นยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม แล้วก็เป็นจุดกึ่งกลาง ด้วยอิทธิพลของดาว ๓ ก็จะส่งผลถึงความแตกแยกการภายในด้วย ถ้าหากบ้านเราทะเลาะกันเป็นประจำ แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย หรือว่าสามีภรรยาทะเลาะกันอยู่เสมอๆ คุยกันไม่รู้เรื่องเลย พี่น้องแตกแยกกัน เหมือนกับเล่าเปียวกับนางชัวฮูหยินกับลูกสองคน เล่ากี๋ เล่าจ๋อง หรือว่าชัวมอ หรืออะไรทำนองนี้ หมายถึงเรากำลังได้รับอิทธิพลของดาว ๓ ซึ่งในสามก๊กตอนนี้ เล่าเปียวเองก็ประสบปัญหาภายใน แล้วก็รู้ว่าเมืองของตัวเองมีความสำคัญและอยู่ในอันตรายขนาดไหน ถึงขนาดปรึกษากับเล่าปี่
 
อันเล่าปี่ก็แตกทัพมาจากโจโฉ ครั้งโจโฉยกทัพใหญ่ไปปราบอ้วนเสี้ยวแล้วก็ตีเล่าปี่แตก แล้วอ้วนเสี้ยวก็แตกในภายหลัง เล่าปี่ก็หนีมาอยู่กับเล่าเปียว  เล่าเปียวเองก็ให้ความวางใจมาก ปรึกษาว่า อันเมืองของตนเองเป็นเมืองที่อยู่ตรงกึ่งกลางพอดี เลยต้องระมัดระวังทั้งทางเหนือ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของตังฉวนของเตียวล่อ ทางเขตแดนกังตั๋ง ต้องมาระวังทางลำอวดอีก ถ้าวันใดวันหนึ่ง ๓ เมืองยกมาตีพร้อมๆ กันเราคงแย่ 
 
เล่าปี่ก็ให้ความเห็นว่าควรให้เตียวหุย กวนอู จูล่ง ไปประจำอยู่ที่หัวเมืองชายแดนทั้งหมด เป็นการป้องกัน เล่าเปียวก็เห็นด้วย แต่ชัวมอไม่เห็นด้วย  เพราะชัวมอมองว่า เท่ากับเล่าปี่ควบคุมเมืองหน้าด่านไว้ทั้งหมดเลย ชัวมอก็เกิดความรู้สึกขัดอกขัดใจขึ้นมา  ทีนี้เล่าเปียวเองมีความในใจ เล่าปี่เคยให้คำปรึกษาในการที่จะออกไปรบกับโจโฉ ตอนนั้นโจโฉยกทัพไปปราบแคว้นทางตอนเหนือเพื่อรวบรวมหัวเมืองต่างๆ เพราะว่าตอนที่โจโฉเป็นผู้สำเร็จราชการ หัวเมืองต่างๆ พากันกระด้างกระเดื่อง เพราะทุกคนเก่งเหมือนกันหมด โจโฉก็ต้องกรำศึกเพื่อรวบรวมหัวเมืองที่กระด้างกระเดื่องเหล่านี้  พอยกทัพออกไป เล่าปี่ก็เห็นว่าเล่าเปียวน่าจะตีตลบหลัง ก็จะได้ฮูโต๋ราชธานีโดยง่าย เล่าเปียวก็ไม่ทำ เพราะตนเองมีศึกภายในอยู่ เล่าเปียวมีลูก ๒ คน เล่ากี๋เป็นบุตรภรรยาคนก่อน  ส่วนเล่าจ๋องเป็นบุตรของนางชัวฮูหยิน  ทุกวันนี้เล่าจ๋องลูกคนที่สองมีปัญญาดีและเข้มแข็ง  ตัวเล่าเปียวเองอยากให้เล่าจ๋องครองเมืองเกงจิ๋ว  แต่เกรงว่าจะผิดประเพณีบ้านเมือง ประชาชนจะติฉินนินทาได้ ครั้นจะให้เล่ากี๋ตามประเพณี ก็เกรงว่าเล่ากี๋ไม่มีพวก  กลัวญาติพี่น้องของนางชัวฮูหยินซึ่งคุมกำลังอยู่เป็นอันมาก ชัวมอทหารเอกก็จะฆ่าเล่ากี๋ซะ 
 
ทีนี้เล่าปี่ก็พลั้งปาก บอกให้บุตรคนรองเป็นเจ้าเมืองก่อนบุตรคนโตนั้นไม่เห็นด้วย ก็ควรจะให้เล่ากี๋ครองต่อ แต่ตอนนี้ให้ลิดรอนอำนาจของชัวมอ ระหว่างที่พูด ก็เห็นม่านไหวๆ ก็รู้ว่าชัวฮูหยินแอบฟัง ก็รู้ว่าตัวเองคงอยู่ไม่เป็นสุขในแผ่นดินของเล่าเปียวอีกแล้ว 
 

อันนี้เป็นอิทธิพลของดาว ๔ ดับและอิทธิพลของดาว ๓ ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นสุข ไม่มั่นคง ทำให้เกิดความแตกแยก แต่เล่าเปียวเป็นคนสูงอายุแล้ว ยังคงเป็นดาว ๕ อยู่  คือพื้นที่เป็นดาว ๓ เล่าเปียวเป็นดาว ๕ ได้คู่สมพงษ์ ทำให้มีความเข้มแข็ง ทุกคนยังเกรงกลัวเล่าปียวอยู่  เล่าเปียวเองมีใจที่จะตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา คือเป็นคนรอบครอบ จะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ว่า หลังจากวันนั้นแล้ว  เล่าปี่พลั้งปากออกมาในวันที่มีเลี้ยงกัน บอกว่า  ข้าพเจ้าถ้าหากมีที่มั่นอยู่ในมือแล้ว จะไม่กลัวมนุษย์หน้าไหนในโลกนี้ คำนี้เป็นสิ่งที่เล่าเปียวระแวงแคลงใจอยู่ ประจวบกับชัวมอกับชัวฮูหยินพยายามพูดกับเล่าเปียวว่า เล่าปี่ไว้ใจไม่ได้  ตัวเล่าเปียวยังเฉยๆ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ตอนนั้นเล่าเปียวให้เล่าปี่ไปครองเมืองเล็กๆ อยู่ไม่ไกลกัน เป็นหัวเมืองจัตวาของตัวเอง ตอนนั้นที่พูดคุยกันเชิญมาปรึกษาในเมือง คืนนั้นเล่าปี่ก็ค้างอยู่ที่นั้น ชัวฮูหยินพอตอนดึกเรียกชัวมอมาเล่าให้ฟัง  ชัวมอจัดแจงจะฆ่าเล่าปี่ให้ได้  ก็เอาทหารมาฆ่าเล่าปี่ เล่าปี่รู้ตัวก่อนเพราะอีเจี้ยคนสนิทของเล่าเปียวมาบอก ครั้งจะหนีไปทันทีก็ไม่ได้ลาเล่าเปียว อีเจี้ยบอกไม่ทันแล้วให้หนีไปเลย ชัวมอแค้นใจก็เลยออกอุบายเขียนกลอน ๔ วรรคไว้ที่ฝาผนังตึก เป็นทำนองว่าเล่าปี่เขียนแล้ว ชัวมอก็ทหารกลับ กลอนที่ตึกเขียนว่า  

 

          อันตัวกูสู้ทรมานมาช้านาน

          ทุกวันวานเบื่อมองของเก่าไซร์

          ชาติมังกรจะอยู่สระได้อย่างไร

          ต้องว่ายไปเหนือฟ้าจึงพอแรง

 

พอเช้ามาเล่าเปียวรู้ว่าเล่าปี่หนี  ก็ไปดูที่พัก เห็นบทกลอนนี้ก็โกรธต้องฆ่าเล่าปี่ให้จงได้ แต่ด้วยอิทธิพลของดาว ๕ ของตัวเอง พร้อมกับทำเลที่เป็นดาว ๓ มากระทบกัน ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้อีกว่า อันเล่าปี่อยู่กับเรามาช้านาน ไม่เคยเห็นแต่งกลอนคำประพันธ์สักครั้งเดียว  นี่คงมีใครใคร่ให้กูแตกกับเล่าปี่แน่นอน จึงมาเขียนกลอนซ้อนกลไว้อย่างนี้ เลยสั่งให้ทหารเอากระบี่ขูดคำประพันธ์นั้น แล้วก็ไม่สนใจอีก