บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๖/๒ - ยุทธศาสตร์เกงจิ๋ว
20 ก.พ. 2561

 

ฝ่ายโจโฉรู้ข่าวเล่าปี่ไปอาศัยอยู่เมืองเกงจิ๋ว ก็คิดอ่านจะยกทัพไปตีเล่าเปียว เทียนหยกที่ปรึกษาห้ามไว้ว่า การศึกอ้วนเสี้ยวตอนนี้ยังไม่เสร็จสิ้นดี ถึงอ้วนเสี้ยวจะแพ้แต่ก็ยังมีญาติ เล่าเปียว เล่าปี่ให้คำปรึกษาให้สองพี่น้องปรองดองกันให้ดีให้ช่วยตัวเอง แต่ปรากฏว่าสองพี่น้องไม่ปรองดองกันเลยแพ้ในที่สุด เป็นอันว่าทั้งเล่าเปียวและเล่าปี่เห็นพ้องต้องกันว่าไม่ช่วยใคร
 
อยู่มาวันหนึ่งทางเมืองกังแฮต่อแดนกังตั๋งเกิดขบถขึ้น เล่าปี่อาสาเล่าเปียวไปปราบ ในครั้งนั้นเล่าปี่ก็ปราบได้สำเร็จ แล้วก็จัดแจงปกครองบ้านเมืองกังแฮกันตามปกติ ก็เลิกทัพกลับมาเกงจิ๋ว ตอนนั้นแสดงความสามารถขึ้นมาแล้ว เล่าเปียวก็ปรึกษาเล่าปี่ว่า อันเมืองเกงจิ๋วของเรานี้เป็นเมืองหน้าด่าน เล่าเปียวรู้ดีว่าเกงจิ๋วมียุทธศาสตร์ที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็เป็นเมืองหน้าด่านที่มีอันตรายมาก อยู่ระหว่างเมืองกังตั๋งของซุนกวน เมืองตังฉวนของเตียวล่อ ตังฉวนอยู่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกงจิ๋วกับเมืองลำอวดซึ่งอยู่นอกเขตแดนจีน อยู่ทางด้านใต้ ตอนนั้นยังไม่มีใครมองเสฉวน มีขงเบ้งคนเดียวที่มองเห็น แต่เล่าเปียวจะมองเห็นเกงจิ๋วซึ่งถึงจะอุดมสมบูรณ์และเป็นเมืองใหญ่ แต่ก็อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ค่อนข้างอันตรายมาก อันตรายนั้นอาจมาจากเมืองทั้งสาม ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เล่าปี่เป็นผู้ที่มีสติปัญญาขอให้คิดอ่านป้องกันเกงจิ๋วด้วย
 
เล่าปี่บอกว่าง่ายนิดเดียว เรามีทหารมีฝีมืออยู่แล้ว คือ เตียวหุย กวนอู จูล่ง ส่งเตียวหุยไปรักษาด่านต่อแดนเมืองลำอวด คือชายแดน กวนอูไปรักษาด่านต่อแดนเมืองตังฉวนของโจโฉ ส่งจูล่งไปรักษาด่านต่อแดนเมืองกังตั๋ง เท่านี้ก็นอนตาหลับ เล่าเปียวก็ไม่ได้ระแวงสงสัยในความสุจริตใจของเล่าปี่ ให้ทหารเอกของเล่าปี่ทั้งสามไปรักษาด่านตามคำแนะนำ ชัวมอไม่พอใจ
 
คือดาวอังคารเสียอยู่อย่างหนึ่ง ต่อให้อุดมสมบูรณ์ ให้ดีอย่างไรก็ตาม ก็ส่งผลให้มีการแตกแยกกันภายใน ความคิดในเมืองก็แตก ชัวมอไม่เห็นด้วยก็ไปหาพี่สาว เล่าให้ฟังว่าเล่าเปียวให้ทหารเอกของเล่าปี่ไปรักษาด่านอยู่รอบด้าน วันหนึ่งเถิดจะเกิดเรื่องใหญ่ พวกเราหาแผ่นดินอยู่อาศัยมิได้ นางชัวฮูหยินก็เตือนเล่าเปียวว่า ตามที่น้องเล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้ชาวเมืองเกงจิ่วมีความเคารพรักใคร่ชอบพอเล่าปี่ ไปมาหาสู่เล่าปี่อยู่มิได้ขาด ไม่น่าให้เล่าปี่อยู่ในเมืองให้ส่งไปอยู่ที่อื่น เล่าเปียวจึงว่าเล่าปี่เป็นคนดีไว้ใจได้
 
เราสามารถเปรียบเทียบกับดาวอังคาร ที่ส่งผลถึงความหวาดระแวงด้วยความแคลงใจ เล่าเปียวก็มีความหนักแน่นเป็นดาวผู้ใหญ่คือ ดาว ๕ ของบ้านเมือง ดาว ๓ ดวงเดียวมีความหมายถึงความหวาดระแวง ดาว ๓ กับ ๕ เมื่อมาอยู่ด้วยกันคือดาวตรวจสอบ ฉะนั้นเล่าเปียวเมื่อมีกระแสดาว ๓ เข้ามาร่วมดาว ๕ ยังอดที่จะตรวจสอบหรืออดหวาดระแวงมิได้ แต่ก็ยังนิ่งอยู่ยังหาจังหวะมิได้ ความเป็นผู้ใหญ่ของตนยังทำอะไรไม่ได้
 
วันหนึ่งเล่าเปียวขี่ม้าไปเที่ยวเล่นกับเล่าปี่นอกเมือง เล่าเปียวเห็นเล่าปี่ขี่ม้างามและปราดเปรียวก็ถามว่า ม้าตัวนี้ได้มาจากไหน เล่าปี่ตอบว่าเป็นม้าของเตียวบู ขบถที่กังแฮ ได้มาจากสนามรบ เล่าเปียวดูแล้วชมว่างาม เล่าปี่ลงจากหลังม้า ถ้าพี่ชอบใจก็เอาไปเถิด เล่าเปียวมีความยินดีรับม้าไว้แล้วก็กลับเข้าเมือง
 
ครั้นที่ปรึกษาคนหนึ่งชื่อ เกงอวด เห็นเข้าก็ถามเล่าเปียวว่า ม้านี้ได้มาจากที่ไหน เล่าเปียวก็ตอบว่าเล่าปี่รบได้จากเตียวบูจึงให้แก่ข้าพเจ้า เกงอวดพิเคราะห์ดูลักษณะม้าแล้วกล่าวว่า ม้านี้ฝีเท้ารวดเร็วอยู่ก็จริง แต่ลักษณะร้ายที่ริมตาทั้งสองข้างเป็นร่องน้ำตา และมีขวัญมีขนขาวร้ายแซมอยู่เรียกว่า ม้าเต็กเลา ให้ผลร้ายกับเจ้าของ เตียวบูขี่ไปออกรบจึงถูกฆ่าตาย ให้เอาไปคืน เล่าเปียวก็เชื่อ ดาว ๓ กับ ดาว ๕ อยู่ด้วยกันคือ เชื่อในศาสตร์เร้นลับ เมื่อทักทายก็เชื่อทันที มีข้อเสียอยู่ถึงแม้จะเป็นดาวคู่สมพลที่แสดงถึงอำนาจราชศักดิ์ ความสามารถพิเศษ มีความสามารถโดดเด่นเป็นถึงเจ้าเมืองด้วย คือให้ผลในการฟังความละเอียดรอบคอบแต่ก็หวาดระแวง ซึ่งให้ผลดีผลร้าย มีความหนักแน่นไว้ก็จะให้ผลดี มีความรอบคอบ มีอำนาจ มีจิตพิเศษ ศาสตร์เหล่านี้ในประวัติศาสตร์ยังบันทึกเอาไว้เลยว่ามีความเชื่อในเรื่องม้าของเล่าเปียว
 
เมื่อเล่าเปียวมีโอกาสก็พูดกับเล่าปี่ว่า น้องมาอยู่ในเกงจิ๋วเป็นเวลาช้านานแล้ว ไม่ค่อยจะได้ยืดเส้นยืดสายสมกับที่เป็นนักรบ น้องจงยกครอบครัวและทหารออกไปตั้งรักษาเมืองซินเอี๊ย เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ไกลจากเมืองเกงจิ๋วนัก เมืองนั้นอุดมสมบูรณ์ดี ที่ทางก็กว้างขวาง น้องจะเป็นสุขยิ่งกว่าอยู่เกงจิ๋ว เล่าปี่ก็รับคำ รุ่งเช้า ก็ขี่ม้าเต็กเลา พาครอบครัวและทหารออกจากเมืองเกงจิ๋ว
 
อีเจี้ยคนสนิทของเล่าเปียวก็มาบอกความว่า ที่เล่าเปียวบอกคืนม้าเพราะม้าเป็นลักษณะเต็กเลาซึ่งเป็นลักษณะภัย ให้เล่าปี่ทิ้งม้าไป เล่าปี่ก็ขอบใจในความหวังดี พร้อมบอกว่า ชีวิตมนุษย์นี้ดีหรือร้าย ย่อมสุดแต่บุญกรรมที่ทำไว้ ม้าไม่เกี่ยว ข้าพเจ้าไม่ถือ แล้วเล่าปี่อำลาเดินทางไปยังเมืองชินเอี๊ย ม้าตัวนี้ภายหลังก็ได้ช่วยชีวิตของเล่าปี่ไว้ สมกับที่บอกว่า คนเราจะดีจะร้ายสุดแต่บุญแต่กรรมที่ทำไว้ด้วย เพราะที่เตียวบูถูกฆ่าตายเพราะม้าตัวนี้ เพราะกรรมไม่ใช่เพราะม้าเล่าปี่พูดไว้
 
ม้าเต็กเลา



 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๒/๑ - กังตั๋งกับเสฉวนเป็นพันธมิตรกัน
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๕๖/๒ - กวนอูเสียชีวิต
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๘/๒ - ซีซี พฤหัสเป็นนิจ
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๘/๑ - ซีซี พฤหัสเป็นนิจ
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๖/๓ - ยุทธศาสตร์เกงจิ๋ว
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๙/๓ - จันทร์ ครุ สุริยา ในดวงขงเบ้ง
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๖/๒ - การชิงไหวพริบจิวยี่กับขงเบ้ง
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๔/๑ - ขงเบ้งเจรจาซุนกวน
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๓/๒ - ขงเบ้งเข้าเมืองกังตั๋ง
  • พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๒/๒ – วิเคราะห์ดวงดาว