เมื่อกาเซี่ยงออกมาพบโจโฉ คงจะถูกชะตากัน  เพราะโจโฉ เมื่อเห็นลักษณะของกาเซี่ยง ก็ค่อนข้างจะชอบใจ เพราะกาเซี่ยงคนนี้พูดจาคมสัน เป็นคนมีสติปัญญา จึงพูดจาชักชวน ทั้งกาเซี่ยงและเตียวสิ้ว มาทำราชการด้วย ด้วยวิสัยของโจโฉ ชอบคนดีมีสติปัญญาอยู่แล้ว

กาเซี่ยงนั้นยังคงรักที่จะอยู่กับเตียวสิ้ว จึงไม่ได้รับปากรับคำอันใด แต่วันรุ่งขึ้น ได้พาเตียวสิ้วออกมาพบโจโฉ แล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปพักในเมืองอ้วนเซีย โจโฉก็ไม่ได้ระแวงอะไร เข้าไปพำนักอยู่หลายวัน

อันเตียวสิ้วผู้นี้ เป็นผู้ปกครองเมืองอ้วนเซีย ซึ่งถือว่าเป็นเมืองเล็กมากในสมัยสามก๊ก มีกาเซี่ยงเป็นที่ปรึกษา ช่วยกันปกครองบ้านเมืองกันอย่างดี ลักษณะดูทิศทางรบ ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ศึกครั้งนี้ก็ทำท่าจะสงบด้วยดี บ้านเมืองไม่ถูกทำลาย แต่ความเลอะเทอะของโจโฉก็มาทำเหตุ

วันหนึ่ง โจโฉนึกครึ้มใจเสพย์สุราเมา แล้วถามคนสนิทว่า ในเมืองนี้มีหญิงรูปงามบ้างหรือเปล่า โจอั๋นบิ๋นผู้เป็นหลานจึงบอกว่า “เห็นหญิงหนึ่งรูปงาม ทราบว่าเป็นภรรยาของเตียวเจผู้เป็นอาของเตียวสิ้ว บัดนี้เตียวเจตายแล้วหญิงนั้นเป็นม่ายอยู่”

โจโฉกำลังเมาไม่รู้กาลอันควร จึงสั่งให้ไปรับตัวมาในเวลาพลบค่ำ ในที่สุดก็ทราบว่านางชื่อ “เจ๋าซือ” โจโฉเกิดชอบใจ อยู่ด้วยกับนาง ซ้ำยังพาไปที่ค่าย ไม่ออกว่าราชการเป็นเวลาหลายวัน แถมยังไม่คิดกลับฮูโต๋ด้วย

เตียวสิ้วรู้เรื่องให้รู้สึกเคือง โจโฉเอาอาสะใภ้ของตนไปเป็นภรรยา โดยมิเกรงใจตนเลย พูดง่ายๆ คือ เหมือนไม่ให้เกียรติกัน จึงเกิดความคิดที่จะแก้แค้น

ใครก็ตาม ไม่ว่าจะมีลัคนาราศีใดก็ตาม ถ้าหากมีดาว ๘ กุม หรือภพที่ ๑๐ จากลัคนา คงต้องระวังการกระทำผิดด้านชู้สาว โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดแต่จะเอาแต่ใจตน ให้เก่งเท่าเก่งก็เสียการใด อย่างเช่นโจโฉนี้ ถึงแม้เราไม่มีชาตาแบบนี้ ยามที่ดาว๘ จรมาสัมพันธ์กับลัคนา ในลักษณะ กุม หรือ เล็ง ก็ต้องระมัดระวังเหตุการณ์ทำนองนี้ และแน่นอน ต้องมีดาว ๒ โคจรมาเป็น ๑ ๔ ๗ ๑๐ ให้แสงดาว ๘ ด้วย รายไหนรายนั้น พังเพราะสตรี