- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
4 ม.ค. 2559
เตียวหุย นั้นเมื่ออยู่รักษาเมืองชีจิ๋ว ขณะที่ทัพทั้งสองของเล่าปี่ และอ้วนสุดกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ก็ให้ตันเต๋งว่าราชการฝ่ายพลเรือน ส่วนตนเองอยู่กับฝ่ายทหาร
อยู่มาวันหนึ่งเกิดนึกสบายใจ ชวนเหล่าทหารเสพย์สุรา แล้วยังกำชับว่า วันนี้วันเดียวนะ สืบไปเบื้องหน้าห้ามเด็ดขาด
มีทหารอยู่คนหนึ่ง ไม่ยอมดื่มสุรา บอกว่า ได้สาบานไว้แล้วว่าจะไม่ดื่ม แต่เตียวหุย ก็บังคับจนได้ ดื่มไปได้ยี่สิบจอกก็หยุด เตียวหุยนั้นไม่ยอม โจป้าจึงเริ่มแข็งขืน จนเตียวหุยโกรธ ให้เอาตัวไปโบย ๑๐๐ ที
ถึงตอนนี้ ตันเต๋งเห็นว่า ชักจะวุ่นวายใหญ่ ก็เท้าความว่า เล่าปี่สั่งไว้ว่าอย่างไร ซึ่งเตียวหุยเมาแล้วก็มิได้ฟัง อ้างว่า ฝ่ายพลเรือนอย่าก้าวก่ายฝ่ายทหาร ฝ่ายโจป้าอ้อนวอนว่า “ขอให้เห็นแก่หน้าลูกเขย อย่าเฆี่ยนตีเลย”
เตียวหุยถามไถ่ได้ความว่าโจป้าผู้นี้ คือพ่อตาของลิโป้ นั่นเอง ทีนี้ก็เข้าทาง เพราะแทนที่จะบรรเทาเบาบางลง เตียวหุยยิ่งโกรธแค้นไปอีก เพราะตนเกลียดชังลิโป้ คิดจะฆ่าลิโป้อยู่แล้ว เป็นอันว่า โจป้า ถูกเฆี่ยนปางตาย แม้ขุนนางอื่นๆ จะพากันขอร้องก็ตาม
โจป้ากลับถึงบ้าน คิดแค้นเตียวหุยเป็นอันมาก จึงรีบแต่งหนังสือถึงลิโป้ ที่เมืองเสียวพ่าย เป็นใจความว่า
“บัดนี้เล่าปี่ยกกองทัพไปตีเมืองลำหยง เตียวหุย เสพย์สุราแล้วมาตีเรา แล้วว่ากล่าวหยาบช้ากระทบมาถึงลิโป้ด้วย ขอให้คุมทหารยกมาตีเมืองชีจิ๋วในเวลากลางคืนวันนี้ เห็นจะได้โดยง่าย ด้วยเตียวหุยกำลังเมาสุราอยู่"
เป็นอันว่า เวลายามสามในคืนนั้นเอง โจป้าก็เปิดประตูเมืองให้ลิโป้ และทหารเพียง ๕๐๐ คน ยกเข้าเมืองได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ เตียวหุยยังเมาสุราอยู่ รู้ตัวว่าสู้มิได้ จึงคุมทหารคนสนิท ๑๘ คน ทิ้งครอบครัวเล่าปี่หนีอออกจากประตูเมืองไป
โจป้ายังแค้นอยู่ ก็นำทหาร ๑๐๐ คน ออกตาม แต่ในที่สุดก็ตกม้าตายเพราะสู้ทวนเตียวหุยไม่ได้ ส่วนครอบครัวของเล่าปี่ ลิโป้มิได้ทำอันตราย
เตียวหุย เมื่อหนีเอาตัวรอด ก็ไปพบกับเล่าปี่ที่เมืองอุไถ เล่าความให้ฟังทุกประการ ทหารทั้งปวงก็ห่วงครอบครัวตนทุกคน กวนอูโกรธเตียวหุยเป็นที่สุด ได้แต่ว่าต่างๆ นานา เตียวหุยฟังความแล้วชักกระบี่จะเชือดคอตาย แต่เล่าปี่ห้ามไว้ แล้วว่า
“คำโบราณกล่าวไว้ว่า ธรรมดาภรรยาอุปมาเหมือนอย่างเสื้อผ้า ขาดแลหายแล้วก็จะหาได้ พี่น้องเหมือนแขนซ้ายขวา ขาดแล้วยากที่จะต่อได้"
เป็นอันว่า ต่างก็ร้องไห้ เป็นพี่เป็นน้องกันต่อไป เป็นข้าพเจ้าผู้เป็นสตรีก็จะเลิกคบเล่าปี่ตอนนี้แหละ ไม่ต้องร้องไห้ทีหลังเหมือนซุนฮูหยิน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จัก ไม่เป็นไร จงติดตามอ่านต่อไป
เมื่ออ้วนสุดรู้ว่า ลิโป้เข้าเมืองชีจิ๋วได้ ก็มีหนังสือไปให้สินบนลิโป้ ให้ตีกระหนาบกองทัพเล่าปี่ เล่าปี่สู้ไม่ได้ หนีไปอยู่เมืองกองเหลง ลิโป้ทวงของกำนัลจากอ้วนสุด อ้วนสุดจึงว่า ท่านยังมิได้ตัวเล่าปี่ ได้เมื่อไรแล้วค่อยทำตามสัญญา ลิโป้โกรธมาก จึงเตรียมจะไปรบกับอ้วนสุด
ยุ่งกันใหญ่แล้วตอนนี้
บุคคลผู้ไม่รักษาคำพูด คือ มีดาว ๔ อยู่เรือน ๙ จากลัคนา และสัมพันธ์กับดาว ๘
การที่ลิโป้จะหันหัวหอกไปรบกับอ้วนสุดนั้น ตันก๋งที่ปรึกษาไม่เห็นด้วย เพราะว่า กองทัพของอ้วนสุด นั้นเข้มแข็งยิ่ง ควรจะผูกมิตรกับเล่าปี่ดีกว่า ลิโป้ก็เห็นด้วย
เมื่อเล่าปี่รับหนังสือจากลิโป้ มีกวนอูนี่แหละบอกว่า คำพูดที่ไพเราะ แต่หาความจริงใจไม่ได้ เพราะลิโป้เป็นคนไม่มีสัตย์ ไม่ควรคบอีกต่อไป แต่เล่าปี่มองการณ์ไกล คิดเป็นมิตรกับลิโป้ ประกอบกับได้ทราบว่า ครอบครัวตนเองนั้น ลิโป้ดูแลเป็นอย่างดี ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งนางกำฮูหยิน และบีฮูหยิน
เมื่อลิโป้อ้างว่า รักษาเมืองไว้ให้เล่าปี่ เล่าปี่จึงว่าเมื่อท่านรักษาไว้แล้ว ก็เชิญท่านอยู่ให้เป็นสุขเถิด ข้าพเจ้าจะกลับไปอยู่เมืองเสียวพ่ายแทน
เป็นอันว่า เล่าปี่และลิโป้ก็อยู่กันปรกติโดยแลกเมืองกันอยู่ มิได้แหนงกัน
ตอนนี้สอนให้รู้ว่า “ถอยหนึ่งก้าว จะเห็นโลกกว้างขึ้น” คงจะได้ข้อคิดกันไม่มากก็น้อยนะคะ