บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๙/๑ - สงครามกลางเมือง
4 ธ.ค. 2558

 

ปรากฏว่า การแตกกันของลิฉุย กุยกี ตามแผนของเอียวปิวบานปลายกว่าที่คิด การแตกกันของสองเสือเปรียบเสมือน ดาวเสาร์และราหู เดินแยกออกจากกัน ความทะเยอทะยานของสองขุนพลก็ถึงที่สุด ต่างฝ่ายต่างก็พยายามที่จะแย่งเอาองค์พระเจ้าเหี้ยนเต้มาอยู่กับตน เกิดการรบพุ่งอย่างรุนแรง เป็นสงครามกลางเมือง ที่กระทบกระเทือนไปถึงอาณาประชาราษฎร์ให้ได้รับความเดือดร้อน คณะเสนาบดีที่มีความจงรักภักดีต้องอัญเชิญพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จหนีออกจากวัง มุ่งหน้าสู่เมืองลกเอี๋ยง ทั้งกลางวันและกลางคืน คณะเสนาบดีคนสำคัญมี ตังสิน เอียวหอง (คนละคนที่ตาย) และหันเซียม

 

พระเจ้าเหี้ยนเต้ มาถึงเมืองลกเอี๋ยงเวลาเช้า อาหารมื้อแรกที่เมืองหลวงเก่านี้ เตียวเอี๋ยน เป็นผู้นำมาถวาย ซึ่งถือเป็นจังหวะดีมาก พระเจ้าเหี้ยนเต้ถึงกับเลื่อนจากตำแหน่งเดิม เป็น “ไตสู” ภาษาไทยเราแปลว่า “ขุนนางผู้ใหญ่”


นี่ละค่ะ ดวงชาตาใครก็ตาม ถ้าดาวมหาจักรเป็นวินาศ มักทำอะไรผิดจังหวะ แต่ถ้าดาวมหาจักรมีกำลังในดวง จังหวะชีวิตจะดีมาก จะถูกกันจับ "โจโรฤกษ์" เป็นพิเศษ

 

พระเจ้าเหี้ยนเต้ ได้ยกเข้าไปในเมืองลกเอี๋ยง แล้วทอดพระเนตรเห็นพระราชวัง ตำหนัก แลตึกที่อยู่อาศัยของอาณาประชาราษฎร์ เป็นซากเพลิงไหม้ทั้งเมือง ต้นไม้ใบหญ้าก็ขึ้นรกดังอยู่ป่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ คิดสงสารพระทัย ทรงพระกันแสงว่า


“เมืองนี้ พระมหากษัตริย์สร้างไว้เป็นที่บรมสุขมาแต่ก่อน ครั้งนี้มาสูญเสียแล้ว”

 

ขุนนางทั้งปวง จึงให้แผ้วทางแล้วให้ปลูกตำหนักข้างหน้า ข้างใน แลที่เสด็จออกริมพระที่นั่งใหญ่ซึ่งเพลิงไหม้นั้น แล้วเชิญพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จขึ้นประทับ ขุนนางทั้งปวงเข้ามาเฝ้าตามธรรมเนียมและอาณาประชาราษฎร์ก็เข้าไปตั้งบ้าน เรือนอยู่ประมาณ ๕๐๐ หลังคาเรือน

 

ช่วงนั้นก็ไม่สบายนะคะ เกิดข้าวยากหมากแพงเพราะหายากเหลือเกิน ราษฎรทั้งปวงพากันอดอยาก ชวนกันไปขุดหญ้า และเปลือกไม้มากินต่างอาหาร ขุนนางผู้น้อยทั้งทหารกับราษฎร ก็เที่ยวซอกซอนเข้าไปเก็บผักหักฟืนในตึกแลช่องกุฎิคลังที่เพลิงไหม้แต่ก่อนนั้น ผนังตึกแลซุ้มประตูถล่มลงทับตายเป็นอันมาก

 

โปรดสังเกตว่า ดวงชาตาเสาหลักของบ้านเมือง คือ พระเจ้าเหี้ยนเต้ คงไม่ดีเท่าไร ขุนนางมีอำนาจอยู่ใกล้ตัวก่อการกบฏ ราษฎรที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระองค์ ลำบากยากแค้น บ้านเมืองแตกสลาย น้ำตาตกอยู่เป็นประจำ ดวงชาตาผู้เป็นเสาหลักไม่ดี บ้านเมืองต้องพลอยรับผลไปด้วย

 

ตอนนั้น เอียวปิว จอมวางแผนจนได้ดี เกิดจะคิดได้ว่า แผนของตนต่อไปนั้นยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ คือ ตนเองยังไม่ได้นำกระแสรับสั่ง ไปเชิญชวนโจโฉเข้ามา พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงทรงเร่งให้อัญเชิญพระอักษรที่ทรงไว้นานมาแล้ว ไปให้กับโจโฉ