บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๔/๑ - ขงเบ้งเจรจาซุนกวน
31 มี.ค. 2561

 

ขงเบ้งพิจารณาลักษณะซุนกวนแล้ว รู้ว่าเป็นคนเจ้ายศ ลักษณะของคนเจ้ายศโดยมาก  จะมีลัคนาอยู่ราศีธนู  ดาว ๑ กุม  จะชักชวนให้ทำตามไม่ชอบ ต้องยั่วให้โมโหแล้วมีมานะ  แล้วก็จะมีลักษณะหลังงอเล็กน้อย  หน้าใหญ่เหมือนสิงห์ ช่วงอกจะใหญ่  ลัคนาราศีธนูจะมีลักษณะที่ช่วงเอวกับช่วงขาเท่ากันหลังจะงอ  อันนี้เป็นโหงวเฮ้งที่ขงเบ้งมองออก  
 
ขงเบ้งพูดยั่วจนซุนกวนโกรธ ถลกแขนเสื้อแล้วลุกเดินออกไปจากห้องรับแขกทันที  ขงเบ้งสมใจเพราะว่าตัวเองได้ตั้งเป้าเอาไว้แล้วว่า จะต้องเกิดเหตุแบบนี้  แสดงว่าตรงเป้าพอดี  แต่คณะที่ปรึกษาเห็นซุนกวนโกรธ กลับพากันหัวเราะใส่หน้าขงเบ้ง  แล้วต่างคนต่างก็ลุกหนีออกจากห้องรับแขกไปหมด คือคิดว่าซุนกวนคงไม่ฟังขงเบ้งแล้ว โลซกเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เช่นนี้ก็ตัดพ้อต่อว่า  ท่านพูดจาไม่เรียบร้อย  เคราะห์ดีนะที่ซุนกวนเป็นคนใจดี  หาไม่เกิดเรื่องแน่นอน  
 
ขงเบ้งก็หัวเราะว่า นายของท่านช่างเป็นคนเจ้าอารมณ์เสียนี่กระไร  (ดาว ๑ กุมลัคน์ยั่วให้โกรธง่าย)  ข้าพเจ้ารู้วิธีจะทำลายกองทัพโจโฉให้ราบไปได้  แต่นายของท่านไม่ถามถึง ข้าพเจ้าจึงไม่อยากเอ่ย  โลซกจึงว่า ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าจะรายงานให้ซุนกวนทราบก่อน  ขงเบ้งเลยย้ำไปว่า  กองทัพโจโฉนั้นเสมือนฝูงมด  เพียงชั่วยกนิ้วเดียว  กองทัพชนิดนี้ก็ถูกกวาดเหี้ยนเตียนไป
 
โลซกรีบเข้าไปหาซุนกวนในห้อง ซุนกวนยังโกรธอยู่  พอเห็นหน้าโลซกจึงว่า ขงเบ้งดูหมิ่นกันมากนัก ไม่มีความเกรงใจกันเสียเลย  โลซกได้ชี้แจงว่า ข้าพเจ้าได้ต่อว่าขงเบ้งแล้ว  ขงเบ้งกลับหัวเราะพูดว่า ท่านเป็นคนเจ้าอารมณ์เกินไป  ท่านไม่ถามว่าปราบโจโฉได้อย่างไร  เขาจึงยังไม่กล้าออกความเห็น  ท่านลองกลับไปถามดูดีกว่า เผื่อจะมีอะไรดีๆ ซุนกวนค่อยทุเลาความโกรธลง  ขงเบ้งคงยั่วให้ข้าพเจ้าถามเขานั่นเอง 
 
ซุนกวนมองออกทันทีเพราะลัคนาอยู่ราศีธนู  ดาว ๑ กุม  พอโกรธนำหน้า มีคนคอยให้สติ  ดาว ๕ คือตัวสติ  ก็จะรู้เท่าทันทันที  ซุนกวนก็กลับเข้าไปที่ห้องรับแขก  ข้าพเจ้าขอโทษท่านที่ได้ล่วงเกินไปเมื่อตะกี้นี้  ขงเบ้งตอบว่า ข้าพเจ้าไม่ดีเอง ขอให้ท่านจงให้อภัยให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด  เมื่ออภัยต่อกันแล้ว ซุนกวนก็เชิญขงเบ้งเข้าไปในห้อง  เลี้ยงสุราปราศัยเป็นมิตรสนิทสนมกันแล้ว  คณะที่ปรึกษาไม่อยู่กันแล้ว  ซุนกวนก็พูดกับขงเบ้งว่า  เวลานี้เหลือเล่าปี่กับข้าพเจ้าทั้งนั้น  ที่ยังไม่ยอมต่อโจโฉ  ข้าพเจ้าตัดสินใจแล้วที่จะป้องกันกังตั๋ง ไม่ยอมให้โจโฉเข้าครอบครองได้ แต่จะทำอย่างไรจึงจะต่อสู้ขับไล่โจโฉไปเสียได้  ข้าพเจ้าใคร่จะฟังความคิดเห็นของท่าน  
 
ขงเบ้งก็ตอบว่า  เวลานี้กวนอูคุมทหารอาสาสมัครอยู่หมื่นหนึ่ง  เล่ากี๋เจ้าเมืองกังแฮก็มีทหารอีกหมื่นหนึ่ง  กองทัพโจโฉนั้นเดินทางมาไกล กำลังอ่อนเพลีย ทหารที่ชำนาญการเรือก็คือทหารเกงจิ๋ว  แต่ทหารเกงจิ๋วเพิ่งพ่ายแก่โจโฉใหม่ๆ  ซึ่งจะมีกะจิตกะใจรบพุ่งอีกก็ไม่แน่  ฉนั้นถ้าหากท่านกับเล่าปี่รวมมือกัน  โจโฉต้องพ่ายแพ้กลับไปเหนือตามเดิม เกงจิ๋วกับกังตั๋งคงจะเป็นปึกแผ่นมั่นคง  ไม่มีใครกล้ารุกรานได้อีก  
 
ซุนกวนฟังก็ดีใจจึงว่า คำพูดของท่านเหมือนได้เปิดช่องทางให้เห็นความโล่งโปร่งตา  ข้าพเจ้าค่อยหายวิตกกังวลแล้ว ยินดีจะร่วมมือกับเล่าปี่อย่างเต็มที่ แล้วซุนกวนก็ออกคำสั่งต่อหน้าขงเบ้งให้เตรียมทัพ  แล้วให้โลซกนำความไปชี้แจงแก่บรรดานายทหารให้เข้าใจเหตุผลทั้งปวง  ขงเบ้งดีใจมาก กลับมายังที่พัก 
 
ฝ่ายเตียวเจียว ครั้นทราบว่าซุนกวนสั่งการต่อสู้กับโจโฉ  ก็พูดกับที่ปรึกษาทั้งปวงว่า นายของเราติดกับขงเบ้งเสียแล้ว  ที่ปรึกษาทั้งปวงจึงพากันไปหาซุนกวนคัดค้านว่า การสู้กับโจโฉนั้น เท่ากับเอาน้ำมันไปราดลงในไฟ   ซุนกวนได้ฟังก็ลังเลขึ้นอีก  การลังเลของซุนกวนเพราะดาว ๔ ดาว ๖ นำหน้า  ลัคนาราศีธนู ดาว ๑ กุม ดาว ๔ กับดาว ๖  เรียงกันอยู่ข้างหน้า  ดาวอ่อนนี้นำหน้า ดาวสติตามหลังนั้นจะเกิดความลังเล  
 
พอคณะที่ปรึกษากลับไป  โลซกก็รีบพูดกับซุนกวนอีกว่า  พวกปรึกษาหวังจะรักษาครอบครัวให้พ้นจากความเดือดร้อน  จึงชักใบให้เรือเสีย  ท่านอย่าไปเชื่อฟังเลย ซุนกวนก็ขอเวลานึกตรึกตรองใหม่  กลับเข้ามาในห้องก็กระสับกระส่ายกลุ้มใจ นางงอก๊กไถ้ผู้เป็นมารดาจึงเตือนว่า  เมื่อชุนเกี๋ยนบิดาเจ้าจะตายสั่งไว้ว่า การภายในมีอะไรให้ปรึกษาเตียวเจียว  การภายนอกให้ปรึกษาจิวยี่ เจ้าลืมเสียแล้วหรือ ซุนกวนนึกขึ้นได้ก็ดีใจ   ให้ทหารรีบไปตามตัวจิวยี่จากเมืองกวนหยงมาพบด่วน