ฮวงจุ้ยพื้นฐาน

 

ฮวงจุ้ยกับธุรกิจ ตอนที่ ๗
6 มิ.ย. 2560

 

ทีนี้กลับมาที่เมืองหลวง ประเทศจีนเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ การรวบรวมหรือป้องกันอาณาจักร ต้องอาศัยตัวช่วย คือภูมิประเทศตามธรรมชาติ ในเรื่องของโหราศาสตร์จีน ก็ต้องดู ดูดวงกันขนาดที่ว่า ในสมัยของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ ประวัติศาสตร์บันทึกไว้เลย ตั้งแต่ในวัง ฝ่ายในฝ่ายนอก ชาวบ้าน ชอบดูหมอหมด จะทำอะไรนิดก็ต้องดู ถ้าใครตามดูหนังหรืออ่านพงศวดาร สมัยราชวงศ์ซ้อง ฮวงจุ้ยก็แพร่หลายเหมือนกัน แม้กระทั่งบ้านตระกูลหยางยังดูเลย จวนเทียนปอ ที่พระมหากษัตริย์พระราชทาน ยังต้องเลือกทำเล ว่าจะเอาทำเลตรงไหน

 

อิทธิพลของการเลือกทำเลนี้มีมานานแล้ว ก็ไม่อยากให้มองว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ เพราะว่าเป็นการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน รวมทั้งกำลังใจของตัวบุคคลด้วย

 

ชาวจีนเขามองว่าฮ่องเต้เป็นผู้เชื่อมโยงดินและฟ้าเข้าด้วยกัน ฟ้าก็คือโหรศาสตร์ดวงดาว ดินก็คือฮวงจุ้ย ไม่ว่าจะฟ้าประทาน ดินบันดาน ฮ่องเต้ คือผู้ประสาน ฉะนั้นฮ่องเต้ ต้องเลือกเมืองหลวงที่ดีที่สุดก่อน ซึ่งก็คือเมืองหลวงเก่า เพราะคติมีมานานแล้วว่า เมืองหลวงเก่าย่อมเป็นที่ที่ดีทีสุด แต่ถ้าฮ่องเต้ไม่แน่ใจ ก็ไปแก้ที่ฮวงซุ้ย เมื่อเลือกเมืองหลวงได้แล้ว ต้องเลือกฮวงซุ้ยที่ดีสำหรับกษัตริย์ด้วย หมายความว่า ต้องเป็นผู้ประสานฟ้าและดิน เป็นผู้ที่อยู่ในท่ามกลางความยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลาง

 

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน, ฮวงจุ้ยธุรกิจ

 

การเลือกเมืองหลวงตามทำเลธรรมชาติ ดูภูเขา ดูดิน ดูน้ำ อย่างเมืองหังโจว ที่เป็นเมืองหลวงทางด้านใต้ของราชวงศ์ซ้อง ที่ถูกตีรุกไล่จากไคฟง ราชวงศ์ต้องหนีลงใต้หมด ถอยร่นจากทางเหนือลงมา เมืองนี้มีทะเลสาบ มีภูเขา เขาเลือกทำเลนี้ตอนที่ถอยร่นมาจากพวกกิม ฉะนั้นผังเมืองต่างๆ เขาจะมองในลักษณะใช้ธรรมชาติในการป้องกันเมือง และก็ต้องมีความอุดมสมบูรณ์แฝงอยู่ด้วย ถ้าถูกล้อมเมือง เมืองก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำ สามารถที่จะมีเสบียงอยู่ได้ แต่ก็มีข้อเสีย เช่นในสมัยราชวงศ์ฮั่น เมืองหังโจวจะมีน้ำท่วมเป็นประจำ เพราะว่าตั้งอยู่บนปากแม่น้ำที่จะไหลลงสู่ทะเล ซึ่งต่อมาดินทับถมกลายเป็นทะเลสาปอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง อันนี้คือพลังอันตรายของธรรมชาติ

 

พอมาถึงสมัยราชวงศ์ซ้องซึ่งห่างกันประมาณ 500-600 ปี ในช่วงราชวงศ์ซ้องที่มีการถอยร่นลงมา ตำแหน่งน้ำตรงนั้น เป็นน้ำธรรมชาติที่ให้คุณและก็ให้โทษตามประวัติเดิมด้วย ดังนั้น ผลคือ จะมีขุนนางกังฉิน เบียนบ่อนเหมือนกัดเซาะ เพราะน้ำที่ทะเลสาบหังโจวเป็นน้ำกัดเซาะจากภูเขา ดังนั้นราชวงศ์ซ้องมาอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ หากไม่แก้ที่วังของฮ่องเต้หรือที่สุสาน ก็จะเกิดการเบียนบ่อนกัดเซาะ ซึ่งครั้งนั้นเกิดเรื่องราวของฉินไค้ว ที่กัดเซาะราชวงศ์ซ้องจนถึงการล่มสลาย ซึ่งก็เป็นผลมาจากทำเล

 

ดังนั้น เราจะต้องรู้ด้วยว่า ทำเลที่เราเลือกก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร เกิดจากอะไร มันอาจจะให้คุณอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ว่ามันมีอันตรายอะไรบ้าง จะแก้ไขจุดนั้นได้อย่างไร อันนี้เป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในเรื่องของทำเล ก็คือประวัติของทำเลที่เราไปอยู่นั่นเอง

 

การเลือกเมือง ก็เป็นหลักวิชาที่ทำให้เรามาคิดอย่างละเอียดรอบครอบในการเลือกทำเลทางธุรกิจด้วย การสร้างเมืองของแต่ละราชวงศ์ของจีน จะเลือกในเชิงสัญญาลักษณ์ สมัยราชวงศ์หมิง เมืองต้องห้ามที่ปักกิ่ง จะวางเป็นรูปที่มีลักษณะเหมือนร่างกายของคนเรา อาคารและหอต่างๆ จะอยู่ในตำแหน่งอวัยวะต่างๆ ที่สำคัญ

 

ที่เรียกว่าเป็นเชิงสัญญาลักษณ์ เช่น ที่ดินตรงนี้เป็นรูปเหมือนไก่ เราเกิดปีที่ชงกันคือปีเถาะ แล้วเราไปอยู่ตรงนั้นก็จะเกิดปัญหา ฉะนั้นรูปเชิงสัญญาลักษณ์ จึงมีความสำคัญค่อนข้างมาก อย่างยกตัวอย่างที่จังหวัดสระบุรี ตรงที่เขาระเบิดหินกัน เราถือว่าระเบิดมังกร ใครที่เกิดปีมะโรงไปอยู่ตรงนั้น ก็จะเจ็บไข้ได้ป่วย มักจะมีปัญหา ทางแก้คือ รอบบ้านต้องปลูกไม้ยืนต้นที่สูงหน่อย กำแพงที่สูงกว่าปกติ มีไม้ดอกออกผลอยู่ในบ้าน มีไม้เนื้อแข็งแสดงถึงกระดูกแข็ง กระดูกแข็ง ชาวจีนแปลว่าอายุยืน อย่างนี้เป็นต้น เราต้องแปลทำเลให้ออกก่อน เราถึงจะแก้ไขทำเลนั้นได้

 

ทุกทำเลเป็นเรื่องของธรรมชาติ สามารถปรับแต่งแก้ไข แต่เราต้องอ่านทำเลนั้นให้ออกเสียก่อน บางทีต้องเอาประวัติศาสตร์บ้าง เชิงสัญญาลักษณ์บ้าง เอาอดีตบ้าง ปัจจุบันบ้าง เอาเรื่องราวต่างๆ มาเปรียบเทียบ เพื่อที่ว่า เราอ่านได้มากเท่าไหร่ การปรับแต่งแก้ไข ก็มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มากเท่านั้น