ฮวงจุ้ย
- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
ผลงานและบทความพิเศษของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
บทความพิเศษ
พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๓/๒ - ขงเบ้งเข้าเมืองกังตั๋ง
31 มี.ค. 2561
31 มี.ค. 2561
โปเจ๋า ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งก็เยาะขึ้นว่า ท่านมาพูดกับเมืองกังตั๋งด้วยลิ้นของเตียวยี่กับโซจิ๋น หวังจะเกลี้ยกล่อมเมืองกังตั๋งให้เป็นใจกับท่านใช่หรือไม่ ขงเบ้งขนาบว่า ท่านเจรจาดังนี้เสมือนหนึ่งหยามเตียวยี่กับโซจิ๋นว่าเป็นคนดี แต่พูดหาเนื้อหาไม่ได้ แท้จริงบุคคลทั้งสองเป็นวีรชนของชาติ โซจิ๋นนั้นเป็นสมุหนายก ครองเมืองใหญ่ถึง 8 หัวเมือง เตียวยีเล่า ก็เป็นสมุหนายกถึง ๒ แผ่นดิน ล้วนมีสติปัญญาความสามารถเป็นเลิศ ทั้งแกล้วกล้าในสงครามยิ่งนัก อันพวกท่านนั้นเพียงแต่ได้ยินข่าวศึกโจโฉยังตัวสั่นงันงก เร่งให้ผู้เป็นเจ้านายออกไปสวามิภักดิ์ต่อข้าศึกมิขาดปาก ยังมาติเตียนผู้อื่นเขาอีกเล่า โปรเจ๋าก็เงียบไปอีก
ซีหอง ที่ปรึกษาอีกคน ลุกขึ้นถามขงเบ้งว่า ท่านรู้หรือไม่ว่าโจโฉเป็นใคร ขงเบ้งตอบว่าโจโฉเป็นศัตรูของพวกเจ้าเหี้ยนเต้ ใครๆ ก็รู้แจ้ง อยู่ทำไมท่านจึงเอ่ยถามเช่นนี้ ซีหองก็ตอบว่า ท่านสำคัญผิดในสาระสำคัญ อันราชวงศ์ฮั่นนั้นเป็นใหญ่มานานแล้ว ใกล้จะสิ้นอำนาจลง เวลานี้โจโฉเข้าครองเหนือแผ่นดินทั้งผองถึง ๒ ใน ๓ แล้ว ประชาราษฎร์ก็เคารพรักโจโฉอยู่ทั่วไป เจ้านายของท่านไม่ประมาณกำลัง จะคิดสู้กับโจโฉนั้นเหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน จึงเป็นอันตรายต่อตัวเองอย่างเห็นอยู่นี้
ขงเบ้งก็ทำเป็นโกรธแล้วก็บอกว่า ท่านพูดเช่นนี้มิชอบมิควร คล้ายไม่รู้จักพ่อแม่ ไม่รู้จักเจ้านาย อันเล่าปี่เจ้านายของข้าพเจ้าคิดอ่านกระทำทั้งนี้ ด้วยถือเป็นหน้าที่ต่อในหลวง ตัวท่านซิ เป็นข้าแผ่นดินอยู่ในพระเจ้าเหี้ยนเต้แท้ๆ แต่หามีความสำนึกในข้อนี้ไม่ กลับถือว่าพระบรมราชวงศ์ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ขอให้ท่านอย่าเจรจาต่อไปเลย ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะฟังท่านอีก ซีหองอ้าปากไม่ขึ้นเงียบไปอีกคน
ลกเจ็ก ที่ปรึกษาลุกขึ้นตวาดว่า อันโจโฉนี้ มาตราว่าจะข่มขู่พระเจ้าเหี้้ยนเต้และขุนนางเก่าๆอยู่บ้าง แต่โจโฉก็เป็นเชื้อสายของโจฉำ ผู้เป็นอุปราชมาแต่แผ่นดินก่อน ส่วนเล่าปี่เจ้านายของท่านนั้น อ้างตัวเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ไม่มีหลักฐานพยานว่าเป็นเชื้อสายของเจ้านายองค์ไหน รู้แต่ว่าเป็นคนทอเสื่อและถักเกือกฟางขายเลี้ยงชีพอยู่ ควรหรือองอาจจะสู้กับโจโฉ ช่างไม่เจียมเนื้อเจียมตัวเสียบ้างเลย ขงเบ้งหัวเราะลั่นโต้ไปว่า ท่านนี้หรือชื่อลกเจ็ก เมื่อยังเล็กลักส้มออกไปให้มารดา ตอนไปงานอ้วนเสี้ยว
ขงเบ้งก็บอก นั่งลงเถิดข้าพเจ้าจะเจรจาด้วย ซึ่งท่านนับถือโจโฉ ว่าแต่โจโฉภักดีต่อราชบัลลังก์อย่างโจฉำหรือ โจฉำเคยรวมอำนาจบริหารและใช้อำนาจเผด็จการอย่างโจโฉหรือ โจโฉทำผ่าเหล่าผ่ากอเช่นนี้ ก็มีแต่คนกำพืดเดียวกันเท่านั้นที่นับถือ อันเล่าปี่เจ้านายของข้าพเจ้านั้น พระเจ้าเหี้ยนเต้ให้ตรวจสอบประวัติถูกต้องแล้ว จึงนับถือเป็นพระเจ้าอา เหตุไฉนท่านจึงบังอาจอ้างว่าไม่มีหลักฐานพยานอะไร อีกอย่างหนึ่งนั้น ต้นราชวงศ์กษัตริย์ทุกวงศ์ ย่อมมาจากสกุลต่ำด้วยกันทั้งนั้น พระเจ้าฮั่นโกโจแต่ก่อนก็เป็นแค่พันนายบ้าน การทอเสื่อถักเกือกฟางขาย ท่านเห็นเป็นของน่าอายหรือ ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย ข้าพเจ้าเห็นว่าคนที่มีความมิชอบธรรมต่างหากที่น่าอาย และไม่น่าจะมานั่งอยู่ท่ามกลางนักปราชญ์ราชบัณฑิตทั้งหลาย ลกเจ็กทั้งเจ็บทั้งอายคอตันไม่กล้าพูดต่อไป
เหยียมจุ้น เพื่อนของลกเจ๊กโกรธจึงว่า ท่านพูดจาอหังการและบิดเบือนข้อเท็จจริง ข้าพเจ้าเห็นว่าที่ประชุมนี้ไม่ควรเจรจากับท่านต่อไป อยากจะทราบนักว่า ท่านนี้ศึกษาคัมภีร์อะไรมาจากไหน ขงเบ้งจึงว่า คนที่ชอบลอกตำรามาเจรจานั้นจะมีประโยชน์อะไร บุคคลที่เคยกู้ชาติบ้างเมืองมาแล้วในอดีต ไม่เห็นมีใครถูกถามว่า ศึกษามาจากคัมภีร์อะไรเหมือนกับที่ท่านถามข้าพเจ้านี้ การรณรงค์สงครามย่อมต้องอาศัยปัญญาไหวพริบเป็นสำคัญ มิใช่จะเอาตำรามากาง เอาแต่พู่กันกับแท่นหมึก เขียนอะไรก็เขียนไปตามสบายอารมณ์ จึงเสียทั้งเวลาและเสียทั้งน้ำหมึก เหยียมจุ้นก็นั่งเงียบไม่พูดอะไร คอตกด้วยความละอาย
เทียตก ที่ปรึกษาอีกคนจึงร้องว่า ท่านนี้ดีแต่พูดอวดโต จนบัดนี้ พวกเราหารู้ไม่ว่า ท่านศึกษาศิลปศาสตร์มาจากสำนักไหน ข้าพเจ้าจึงเห็นว่านักปราชญ์เท่านั้นจะต้องหัวเราะเย้ยท่านเล่นอย่างแน่นอน ขงเบ้งตอบว่า ธรรมดานักปราชญ์ย่อมมี ๒ ประเภท ประเภทหนึ่งเป็นปราชญ์แท้ ซื่อตรงต่อหลักวิชา และเกลียดชังคนคดในข้อ งอในกระดูก อีกประเภทหนึ่งเป็นปราชญ์เทียม ดีแต่เจรจาเล่น การอันเป็นประโยชน์สักสิ่งหนึ่งก็หาทำไม่ เป็นนักปราชญ์ประเภทนี้ ถึงจะเขียนคัมภีร์สักร้อยเล่มพันเล่ม ก็หาไม่เป็นคุณอะไรแก่โลกเลย ที่ปรึกษาทั้งปวง เห็นขงเบ้งโต้ตอบมิได้เพลี่ยงพล้ำแก่ผู้ใด ได้แต่แลดูตากันแล้วนิ่งอยู่
อุยกาย นายทหารผู้ใหญ่จึงพูดด้วยเสียงอันดังว่า ท่านทั้งหลายนี้หาอัชฌาสัยไม่ ขงเบ้งเป็นผู้ที่มีสติปัญญาและเป็นแขกของเรา มาหาเราด้วยดี ท่านทั้งหลายกลับตั้งหน้าโขกสับเอากับขงเบ้งคล้ายเป็นศัตรู แต่ศัตรูที่แท้คือโจโฉ กำลังยกทัพมาประชิดติดพรมแดนของเราอยู่แล้ว จะมีใครเดือดร้อนพูดถึงสักคนก็หาไม่ แล้วอุยกายพูดกับขงเบ้งว่า คำโบราณย่อมว่าพูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง เหตุใดท่านจึงไม่ไปเจรจากับซุนกวนโดยตรง มาเสียเวลาพูดกับพวกนี้จะมีประโยชน์อะไร ขงเบ้งตอบว่า ท่านทั้งหลายนี้มีข้อข้องใจ ข้าพเจ้าจึงต้องชี้แจงเพื่อให้เข้าใจซึ่งกันและกัน จะนิ่งเสียหาควรไม่ ที่ปรึกษาทั้งหลายพูดไม่ออก
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๘ - บังทอง พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๗/๓ - ขงเบ้งยืมลูกเกาทัณฑ์ พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๘/๑ - โจผี พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๗/๒ - แฮหัวตุ้น พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๗/๑ - แฮหัวตุ้น พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๙/๔ - จูล่ง พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๖/๑ - การชิงไหวพริบจิวยี่กับขงเบ้ง พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๖/๓ - เตียวคับ พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๖/๑ - เตียวคับ พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๕/๒ - พระเจ้าเล่าเสี้ยน