รูปภาพและความหมาย

 

รูปภาพกับฮวงจุ้ย ตอนที่ ๑๒
19 ก.พ. 2561

 

โบตั๋น, ฮวงจุ้ยกับรูปภาพ, ฮวงจุ้ยกับดอกไม้

 

ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ที่บานในเดือน 4 ได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งมวลดอกไม้ทั้งปวงตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง เพราะดอกโบตั๋นมีกลิ่นหอมชวนดม มีสีสันที่สวยงามบาดตา ลักษณะดอกที่ดูสวยสง่าและดูสูงศักดิ์ นับตั้งแต่จักรพรรดิจนถึงสามัญชน ทุกคนล้วนชื่นชอบดอกโบตั๋น 
 
ความงามของดอกโบตั๋น ในสมับราชวงศ์ถัง จัดว่าที่เมืองฉางอานสวยงามที่สุด แต่พอหลังราชวงศ์ซ่งแล้ว ดอกโบตั๋นที่เมืองลั่วหยาง กลับมีชื่อเสียงและมีความสวยงามมากกว่าที่เมืองฉางอาน และดอกซั่วเอี้ยวที่เมืองหยางโจว
 
เล่ากันว่า ในระหว่างที่พระนางบูเช็คเทียนขึ้นครองราชย์ ในฤดูหนาวปีหนึ่ง พระนางต้องการให้ดอกไม้ในอุทยานหลวงบานพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นการยากที่จะบังคับให้ดอกไม้บานในฤดูหนาว ในวันและเวลาเดียวกัน แต่ปรากฎว่าดอกไม้ทั้งหมดพากันบานพร้อมกันตามพระบัญชา จนเต็มอุทยานหลวง ยกเว้นเพียงดอกโบตั๋นเท่านั้นที่บานช้ากว่าดอกอื่น  เป็นเหตุให้พระนางบูเช็คเทียนทรงกริ้ว ถึงกับสั่งเนรเนศต้นโบตั๋นให้ไปอยู่เมืองลั่วหยาง
 
ในทางฮวงจุ้ยถือว่าดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้แห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวยและเกียรติยศ เป็นเครื่องหมายแห่งฤดูใบไม้ผลิ และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความเสน่หา และความงามของสตรี สีของกลีบดอกที่สดใส ตัดกับสีเขียวของใบ ชาวจีนถือเป็นมงคลอย่างยิ่ง
 
 
ทับทิม, ฮวงจุ้ยกับรูปภาพ, ฮวงจุ้ยกับดอกไม้
 
 

ดอกทับทิมเป็นดอกไม้ที่บานในเดือน 5ดอกจะมีสีแดงเข้ม บานเต็มไปหมด ดูราวกับว่า ความแดงของดอกทับทิม จะยิ่งเพิ่มความร้อนของฤดูร้อนให้มากยิ่งขึ้น

 

ทับทิมไม่ใช่ต้นไม้ที่เกิดในประเทศจีน แต่มาจากเอเชียกลาง และมีความเกี่ยวพันกับศาสนาพุทธอีกด้วย กล่าวคือในสมัยพระเจ้าฮั่นหมิงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ทรงสุบินเห็นมนุษย์ผิวสีทองลอยอยู่กลางอากาศ แผ่รัศมีกว้างใหญ่สวยงาม เมื่อตื่นบรรทม ทรงถามข้าราชบริพารว่ามหาบุรุษผู้นั้นคือใคร ก็ได้รับคำตอบว่า คือพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระศาสดาของประเทศเทียนจู๋ (อินเดีย) พระเจ้าฮั่นหมิงตี้จึงส่งราชฑูตออกไปสืบว่า ศาสนาพุทธคืออะไร แต่ราชฑูตไปแค่เอเชียกลาง และได้พบพระสงฆ์ชาวเอเชียกลางที่บวชในอินเดีย จึงได้นิมนต์กลับมายังเมืองจีน โดยพระสงฆ์รูปนั้นได้นำทับทิมติดตัวมาด้วย นับจากนั้น ทับทิมก็เริ่มแพร่หลายในจีน จนกลายเป็นผลไม้ที่ชาวจีนชื่นชอบในเวลาต่อมา

 

ช่วงเวลาที่ดอกทับทิมบานนั้นยาวนานมาก คือเริ่มจากต้นฤดูใบไม้ผลิ ดอกจะตูม ถึงฤดูร้อน ดอกจะบานอยู่เต็มต้น แม้ดอกทับทิมจะมีความสวยงามไม่มาก แต่ดอกบานเป็นเวลานานมาก จึงทำให้ทิวทัศน์รอบๆ ดูสวยงามและสดชื่น มีบทกลอนชมดอกทับทิมในสมัยราชวงศ์หยวน กล่าวว่า

 

“ใบสีเขียวที่แน่นทึบ มีดอกสีแดงมาแต่งเติม ทำให้เหมือนโคมไฟที่ห้อยอยู่ประปราย ดอกทับทิมบานทุกเช้าเย็น โดยมิต้องรอคอยการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ”

 

ไม่เพียงแต่ดอกทับทิมที่สวยงาม ผลทับทิมก็มีลักษณะพิเศษไปด้วย คือ ผลทับทิมจะมีเม็ดสีแดงเข้มเป็นจำนวนมาก มีรสหวาน เมล็ดของทับทิมเรียกว่า “จวื่อ” ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่าเด็กๆ ซึ่งหมายถึงลูกหลานนั่นเอง โดยเฉพาะบุตรชาย และการปลูกต้นทับทิม นิยมปลูกฝั่งขวาของประตูบ้าน

 

ดอกทับทิมบานในเดือน 5 ซึ่งตรงกับวันสารทปล่อยผีของจีน ทับทิมมีสภาพเป็นหยาง ฉะนั้นเวลาที่เราไปงานศพ จึงมักนิยมนำใบทับทิมมาแช่น้ำใช้ล้างหน้า เพื่อล้างสิ่งไม่เป็นมงคลก่อนเข้าบ้าน