โดย..อาจารย์ษณอนงค์ คำแสนหวี

ในส่วนของฮวงจุ้ย จะดูเป็นลักษณะการจัดสวนมากกว่า  ว่าการจัดสวนนั้นจัดสวนแบบไหน  5 ธาตุ  8 ทิศ ในบริเวณพื้นที่ทั้งหมดไม่อาจจะทำให้ครบทั้ง  5  ธาตุได้ ก็ไปแต่งที่สวนให้เป็นจุดเด่น เวลามองจะเห็น  5 ธาตุครบอยู่แล้วในสวน  คือ  เหมือนกับหน้าเราสวยแต่ว่าตัวช่างมัน  เวลาเขาดูโหงวเฮ้ง เขาแยก  แยกหน้าก็อย่างหนึ่ง ร่างกายก็อีกอย่างหนึ่ง  ในลักษณะฮวงจุ้ยก็เหมือนกัน คือ ด้านหน้าเป็นลักษณะจุดรับทรัพย์อย่างหนึ่ง  ข้างในก็อย่างหนึ่ง ฉะนั้นเราสามารถที่จะแก้ไขฮวงจุ้ยตรงด้านหน้า ซึ่งหมายถึงอาชีพ และ ประตูแห่งทรัพย์ 

 ถ้าบางคนชอบจัดต้นไม้เยอะๆ และบริเวณที่จัด อาจจะเป็นหน้าบ้านหรือว่าสำนักงาน อาจจะเป็นพื้นที่ทำให้มีสัตว์มีพิษอาศัยอยู่ได้  เพราะฉะนั้นจะต้องจัดให้ถูกทิศ ต้องจัดให้เป็น อย่างพื้นที่ตรงนี้เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นที่ของเขา  คือสัตว์พิษทั้งหลาย เราควรคิดว่า  เราก็ไปละเมิดที่ของเขาหรือเปล่า เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะอยู่แล้วเราจะไปด่าเขาได้อย่างไร

 เราสามารถจัดสวนหิน แล้วก็ตั้งนามให้เป็นมงคล เช่น เราจะตั้งหินกลมตรงนี้เราก็เรียกว่าสวนหินทองคำ  สวนหินหยกก็ได้ 

ที่ประเทศจีนจะมีบ้านของนักปราชญ์ที่เซี่ยงไฮ้  เป็นบ้านของพ่อค้าที่มาจากซูโจวเป็นบ้านของคหบดี   ซึ่งคหบดีในสมัยนั้น เขาจะเรียกหินธรรมดาที่มีโพรงเป็นรูๆ ช่องๆ เหมือนที่เราเห็นที่ราชบุรีหรือกาญจนบุรี  เขาเรียกว่าหินหยก  ซึ่งหินหยกจะมีคุณสมบัติเมื่อเอาไฟไปตั้งแล้ว สว่างเหมือนเป็นโคม และฝนตกลงมาน้ำก็จะไหลออกมาเป็นน้ำตก จากหินที่เป็นรูๆ หรือว่าจุดควัน ควันก็จะออกมาตามนั้น  ถือว่าหินนี้เป็นหินมีค่า  คหบดีก็หาซื้อหินนี้มาแพงมากจึงเรียกว่า หินหยก และในสวนทั้งหมดเรียกว่า สวนหินหยก อันนั้นเขานิยมกัน

 แต่ว่า เดี๋ยวนี้บ้านทุกหลังปลูกต้นไม้สวยหมด แล้วเราเอาหินมาล้อมบ้าน เพราะว่าเราไปเห็นหินหยก อันนี้จะตรงกันข้าม  เพราะว่าความเชื่อไม่เหมือนกัน แต่ถ้าสมมติว่า ในบ้านของเราขาดธาตุทอง มุมของธาตุทองเราจัดหินหยกเพียงมุมเดียว แทนที่จะเป็นร้าย กลับดี  ไม่ได้มีอะไรที่ตายตัว  องค์ประกอบของธาตุ หรือองค์ประกอบของการจัดสวนก็มีความสำคัญ

 ถ้าเราจัดสวนหินเล็กๆ มีสะพาน   มีต้นบอนไซก็ได้ แทนที่จะจัดให้เป็นสวนหินแบบแห้งแล้ง  ก็จะดูมีชีวิตทั้งที่เป็นหิน

ถ้ากรณีที่จัดสวนแนวบาหลี ถ้าเราได้ไปเห็นที่บาหลี  จะเห็นว่ามีลักษณะตามภูมิประเทศ คือ มืดครึ้ม เย็น ชื้น  ถ้ามาอยู่บ้านเรา   ควรจะจัดในที่ที่ไม่ใช่ที่ลุ่ม อย่างเช่นที่หลวงพระบาง จะมีโรงแรมหนึ่งที่จัดทำนองนี้แต่ว่ามันเป็นที่ลุ่ม ดังนั้นมันจะมีสัตว์เลื้อยคลานตลอด และจากที่สวย ก็เลยกลายเป็นไม่สวย ไม่น่าอยู่ 

ที่เนินก็จะเป็นแบบเนิน เราจะเอาสวนบาหลีไปจัดที่เนินเพื่อให้หยินหยางสมดุลกันเพราะว่าพื้นที่นั้นอาจจะแห้งและเอาบาหลีไปจัด

 ส่วนที่ลุ่มเราก็อาจจะจัดสวนที่มีความผสมผสานกันของธาตุทองเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อที่ว่าจะกันสิ่งเหล่านี้และไม่ให้เกิดความชื้นมากเกินไป  ถ้าจัดที่บ้านจะทำให้หยินเยอะเกินไป การเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะมาก 

แต่ถ้าจัดสวนแบบเซ็นนั้นจะมีปริศนาทุกขั้นตอน    ถ้าจัดที่บ้านของคนที่ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจที่มีการแข่งขันกัน  ก็เหมาะสม   เพราะว่าเขาจะนิ่ง  สวนเซ็นส่วนประกอบจะใช้หินเยอะ และมีโคมไฟ

เมื่อเราเดินออกมาตอนเช้า มีความรู้สึกสงบ โล่ง  สบาย  มีที่โล่งกว้าง มันก็จะทำให้เราเกิดสมาธิในการที่จะมองสภาพแวดล้อม  ถ้าเราจัดสวนในรูปแบบไหน มันก็จะมีผลกับเราโดยตรงเลย  เพราะมันไม่ใช่แค่ต้นไม้แต่ว่ามันเป็นทั้งสวนในรูปแบบตรงนั้น

ส่วนสวนบาหลี  ถ้าเราเดินลงมาชมสวน  เราก็รู้สึกว่าเราต้องหลบกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย  ก็ตามคำพูดนี้เลย ชีวิตเราก็จะยุ่งเหยิง  จัดระเบียบไม่ได้  ที่ทำงานก็รก บ้านเราก็จะรกไปกันหมด  ต่อไปก็จะขัดแย้งไปพร้อมๆกัน หน้าที่การงานตก สัตว์เลี้ยงป่วย  ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าสวนแบบบาหลีไม่ดี แต่ต้องจัดเป็นและหมั่นดูแล ก็จะเกิดผลดีเช่นกัน

บางคนชอบสวนที่ต้นไม้เยอะ บางคนก็ชอบสวนที่โล่ง  ถ้าคนที่มีอาณาเขตบ้านกว้างใหญ่และใช้ต้นไม้ใหญ่ก็จะไม่มีผล  แต่ถ้าบ้านเล็กๆแล้วใช้ต้นไม้ใหญ่มันมีผล บ้านหลังนั้นขโมยก็ขึ้นบ้านเพราะว่ามันครึ้ม  เพราะฉะนั้นควรจะต้องดูพื้นที่บ้านให้เหมาะสมควรจะจัดพื้นที่ไหน  มีมุมขนาดไหน  มีธารน้ำไหลหรือไม่ สามารถที่จะจัดผสมผสานสวน  5  ธาตุ  สวนสายรัดหยก  สวนบันไดทอง  สวนน้ำตกสายมุก ฟังชื่อมาเพราะๆทั้งนั้นเลย

 เราก็ลองสังเกตสวนที่บ้านเราดูว่า ตอนเช้าเราอยากจะเดินออกมาหรือเปล่า หรือว่ากลัวที่จะเดินเข้าสวนตัวเองหรือเปล่า แต่ว่าอยากจะไปเดินเล่นออกกำลังกายทุกวัน  คนที่มีสวนเยอะก็ควรจะตัดตกแต่งอยู่เสมอ