ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

อิทธิพลดาวกุมลัคน์ (ดาวราหู)
6 ก.ย. 2553

 

(บทความจากการอบรมของอาจารย์ษณอนงค์ คำแสนหวี นี้ได้รับการรวมรวมขึ้นโดยคุณกาญจนา คงเจริญนิวัติ – สงวนลิขสิทธิ์)


โบราณจารย์จัดดาวราหู (๘) เป็นดาวตระกูลต่ำอยู่ในตระกูลนักเลงและดาว (๘) กุมลัคนาไม่ว่าราศีใด ถ้าเป็นชายก็มักจะหัวล้าน ผมน้อย ถ้าเป็นหญิงหน้าผากจะกว้างเถิกขึ้นไปเป็นพิเศษ ใจกล้าใจนักเลง จะมีเหมือนๆ กันหมด ชอบทานอาหารที่เป็นอาหารสด เช่น ลาบเลือด หรืออาหารต่างๆ จะออกไปในแนวๆ นั้น คล้ายๆ กับยักษ์ เพราะราหู (๘) คือยักษ์


โดยมาก (๘) ตามทักษาจะเป็น “คชนาม” เป็นช้าง แบ่งออกเป็นหลายประเภทคือ


1.     ช้างสมเด็จเจ้าพระยา ช้างทรงเครื่อง ช้างต้นจะเป็น (๘) ประเภทที่มาจาก มีน-เมษ-พฤษภ (กุมลัคน์) ถ้าเทียบกับช้างก็เทียบเท่าเจ้าพระยา สมเด็จเจ้าพระยา ช้างทรงเครื่อง (อุตตรกุรุทวีป = ช้างพระยาเป็นช้างประดับบารมี)


2.     ถ้ากุมลัคนาในเมถุน-กรกฎ-สิงห์ จะเป็น “ช้างศึก” ชั้นรองลงมา ช้างที่จะออกรบออกศึกจะอยู่ใน 3 ราศีนี้ ชีวิตค่อนข้างผาดโผนหน่อย


3.     ช้างที่อยู่ในกันย์-ตุลย์-พิจิก เริ่มเป็นช้างบ้าน เลี้ยงไว้ใช้งานทั่วไป เป็นช้างที่ทำงาน,  ใช้งาน หรือช้างกรรมกร


4.     ช้างที่อยู่ใน ธนู-มังกร-กุมภ์ เป็นช้างป่า ค่อนข้างเกเร ระรานหน่อย เป็นช้างที่ยังไม่ได้รับการฝึกฝนใดๆ เป็นช้างดิบ มีความเป็นเฉพาะตัว ไม่มีกฎระเบียบ


ช้างดิบในป่าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท (ตามแบบฮินดูโดยใช้ทักษานามเข้าประกอบการแบ่งประเภทช้าง เพื่อเป็นปกรณ์ให้เห็นชัดเจนว่าราหูแต่ละราศีแบ่งแยกออกไปโดยพื้นอย่างไร)


***ช้างโพธิสัตว์เป็นช้างเผือกในป่า ฉะนั้นช้างที่อยู่ในราศีธนู ราศีมีน จึงเป็นช้างจำศีล ประเภทช้างเผือก ช้างป่า (มีนอยู่อุตรกุรุฯ คือเป็นช้างที่ดีอยู่แล้ว แต่ช้างในธนูซึ่งอยู่ในอมรโคยานฯ จัดให้เป็นช้างดีเหมือนกับในมีนคือเป็นช้างเผือกในป่า ก็คือเป็นช้างธนู ดิบๆ เกเรมาก่อน แล้วมาดีภายหลังเรียกว่าช้างโพธิสัตว์ )


ลักษณะของราหู (๘) จะไม่หล่อไม่งามเลย แบ่งเป็นราหูขาวกับราหูดำ ราหูขาวหากดูตามลักษณะโหงวเฮ้งจะคล้ายๆ มังกร คือตาอูม เนื้อใต้จมูกกับคางจะนูนขึ้นมา (รอบๆ ปาก) ถ้าเป็นราหูดำ ปากจะหยักมากและตาจะพอง ผมหยิก จะเป็นยักษ์ไปเลย แต่ราหูขาวผมไม่หยิก ผมน้อยอย่างเดียว


ราหูขาว  จะเป็นฝ่ายบริหารระดับสูง (ฝ่ายบุ๋น)


ราหูดำ    จะเป็นฝ่ายปฏิบัติงาน ลงมือทำเอง(ฝ่ายบู๊) ต้องเหนื่อย


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีเมษ  

 

เป็น อุตตรกุรุฯ ถือว่าดีจึงหมายถึงตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ มักจะพบมากในกลุ่มของนายทหารระดับสูง นายตำรวจ หรือรับราชการกระทรวงหนักๆ เช่น ยุติธรรม  มหาดไทยจะดีมากๆ มักจะมีความสุขในชีวิตพอสมควร มีเพื่อนฝูงมาก ชอบออกสังคม ถือว่าเป็นราหูที่ให้คุณแก่ลัคนาเป็นที่สุด ในราศีเมษถือว่าเป็นเลิศทีเดียว ฉะนั้นเวลาที่ (๘) เข้ามาจึงมีวัคซีนที่ดี เมื่อ (๘) สัมพันธ์กับลัคนาเมื่อไรก็จะมีโชคมีลาภ (ดูจากดาวจร)


ช้าง=ราหู (๘) หากจะตั้งหน้าบ้าน จะต้องดูด้วยว่าเป็นทิศประจำของช้างหรือไม่ ช้างมีทิศประจำคือทิศตะวันออก แต่ถ้านำไปตั้งทิศตะวันตก เหมือนกับเรากลับหลังหัน กลับหน้าบ้านเป็นหลังบ้าน คือเป็นการไม่รับแขก ทำให้ธุรกิจตก


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีพฤษภ


ความที่ราศีพฤษภจะใกล้กับเมถุนมาก ฉะนั้นความเป็นใหญ่ก็มักจะเป็นใหญ่ในลักษณะที่ว่าเกือบจะออกศึกสงคราม คือจะเป็นฝ่ายบู๊แล้วต้องออกหน้าปะทะ แม้ไม่ออกหน้าปะทะฝีมือ  อย่างน้อยก็ต้องปะทะคารม จะมียศมีเกียรติ ตำแหน่งสูง มีหน้าตาในสังคม แต่ว่ามักจะต้องรับงานที่ออกหน้าและรับผิดชอบมากกว่าปกติ (เตรียมจะออกศึกแล้ว เตรียมที่จะเป็น (๘) ที่เข้าสู่ราศีเมถุน-กรกฎ-สิงห์) ฉะนั้นจึงเป็น (๘) ที่งานหนัก มักจะได้รับงานที่หนัก หรือจะต้องไปแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ เสมอๆ


หากผู้ใดมีลัคนาราศีพฤษภ มี (๘) กุมบอกได้เลยว่าอนาคตไกลแน่นอน ไม่กระทรวงยุติธรรม  มหาดไทยก็ต้องกองทัพบก


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีเมถุน


ฉลาดในการเจรจา เป็นลักษณะของการออกศึกแล้ว เป็นคนที่ลุยมาก กล้าได้กล้าเสีย ทั้งเรื่องชู้สาวและทุกด้านเลย มีความสามารถทุกด้าน กล้าได้กล้าเสียทุกด้าน เหมือน (๘) ออกศึก จะประสพความสำเร็จในชีวิต แต่ก็ดูเหมือนชีวิตจะต้องโชกโชน ต้องไปต่างแดนต่างถิ่น ลุยพอสมควร ถึงจะประสพความสำเร็จได้ มักจะเดินทางไกลบ่อยๆ อยู่ที่ไหนไม่ได้นาน ลองเทียบกับราหูหรือช้างที่ออกศึก อยู่ที่ไหนไม่ได้นาน อยู่ที่ไหนก็ต้องมีภรรยาที่นั่น อยู่ที่ไหนก็จะต้องสร้างบ้านสร้างเมืองที่ตรงนั้น เป็นปึกแผ่นได้ทุกที่


การเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์เป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักตนเอง แล้วก็รู้จักช่วงจังหวะของชีวิตว่ามันเป็นไปตามพุทธวัจนะที่ว่า “มันไม่เที่ยง” มันก็เป็นไปตามกระแสดวงดาวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็มีแนวทางที่จะรับมือ นี่คือประโยชน์ของการเรียนโหราฯ ไม่ใช่เป็นการทำนายทายทักหรือตั้งตนเป็นผู้วิเศษ ฉะนั้นการเรียนรู้จึงเป็นไปในแนวทางการหาทางแก้ไขอย่างเป็นเหตุเป็นผลในแนว ทางปฏิบัติ เป็นข้อมูลที่เป็นเหมือนอุบายที่ทำให้เราทำใจได้มากขึ้นว่า ชีวิตเราเป็นแบบนี้ เราต้องเดินทางแบบนี้ มันไม่เที่ยงอย่างนี้เพราะ (๘) เป็นเหตุ เพราะฉะนั้น(๘) อยู่ที่ไหนก็ให้ความเปลี่ยนแปลง ความไม่เที่ยง เพราะจริงๆ แล้วราหู (๘) นั่นคือโลก เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเป็นโลก มันก็ไม่เที่ยงทั้งนั้น


คิดในทางปรัชญา (๘) คือโลกเรา โลกธรรม โลกีย์ จะทำให้เข้าใจและอ่านได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นหากว่าเราจะหลีกเลี่ยงราหู หรือจะไปรับ (๘) รับให้มันถูกต้องโดยต้องรู้ความหมายของมันจริงๆ ก่อนว่าโลกธรรม 8 มันคือโลกีย์ รับมันมาในลักษณะที่ต้องเข้าใจว่ามันเป็นเพียงของที่มีในโลก  เป็นนามธรรม เราอยากได้มันหรือไม่อยากได้มัน ก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเราว่าจะรับมามากขนาดไหน


สำหรับบุคลที่มี (๘) กุมลัคนาหรือ (๘) จรมาทับลัคน์ หรือเล็งลัคน์ เมื่อมีความหลงและติดอยู่กับโลกก็จะทุกข์มากหน่อย แต่ถ้าจิตได้รับการขัดเกลามาบ้าง หรือเข้าใจโลก ความเป็นไปของโลก  ก็จะสามารถเข้าใจได้ว่า “ทุกสิ่งมันไม่เที่ยง” อย่างมากก็ทุกข์สัก 1 ? ปี บางอย่างหากเราปฏิบัติรับมันได้ทันมันก็ไม่ถึง 1 ? ปี อาจจะแค่ ? ปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับบุคคล


เช่น (๘) เข้าภพกฎุมภะ แต่เจ้าชะตาเข้าใจและทำใจได้ เตรียมใจไว้ก่อนที่ดาวจะเข้า พอมีเหตุเกิดก็สามารถเข้าใจได้แล้วก็จบกันไป ไม่ทุกข์ไม่ทุรนทุราย เพราะมีการเตรียมตัวมาล่วงหน้า ซึ่งอาจทำให้ความทุกข์เหล่านั้นส่งผลให้ไม่ครบอายุจรของ (๘) ก็ได้คือ 1 ? ปีต่อราศี อาจจะเหลือแค่ ? - 1 ปี แล้วเราก็หมดทุกข์หมดโศก เพราะว่าการกระทำของเรานั้นเอาความดีเป็นที่ตั้ง  ฉะนั้นใครก็ตามที่มักโดน (๘) ทำร้ายก็แสดงว่าเราอยู่ในโลกที่ทำร้ายเรา ดังนั้นเราก็อย่าไปรับ  อย่าไปอะไรกับมันมาก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป


**อย่างไรก็ตามบุคคลที่เกิดภายใต้อิทธิพลของดาว (๘)  ก็ใช่ว่าจะรับแต่ในเรื่องร้ายๆ เสมอไป  มันขึ้นอยู่กับตัวของเราต่างหาก**


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีกรกฎ


ในเคล็ดที่ว่าด้วย (๘) ที่อยู่ในเมถุน-กรกฎ-สิงห์ เป็น(๘) ที่ออกศึก กรำศึก เผชิญเรื่องราว คอยคิดปัญหา ออกลุยทุกสถานที่


แต่กรกฎอยู่ตรงบูรพวิเทหฯ พอดี ดังนั้นจึงได้รับผลเยอะที่สุด ฉะนั้น (๘) ที่กุมลัคนาราศีกรกฎจึงส่งผลให้เป็นคนที่เหมือนมีวัคซีนป้องกันอุปัทวันตราย ทั้งหลายโดยธรรมชาติ จึงกลายเป็นคนที่รอบคอบ เป็นคนที่สามารถที่จะป้องกันภัยอันตรายให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดีคือเป็นคน ที่มีความคิดความอ่าน ฉลาดรอบคอบ สติปัญญาลึกซึ้ง ไหวพริบปฏิภาณดี มองการณไกลได้ดีทุกอย่าง ไม่เสียเปรียบใครด้วย จิตใจเข้มแข็งและมีอายุยืน
เพราะ ว่า (๘) ตรงนี้จะได้รับอิทธิพลจากปุษยะราชาฤกษ์ คือเป็นฤกษ์ที่เป็นที่รักของคน เป็นฤกษ์ที่ฉลาดเฉลียว ปกครองคนเป็นจำนวนมาก แต่จะต้องประกอบไปด้วยศีล และธรรมด้วย  แต่ถ้าคนๆ นั้นไปปฏิบัติเอาตามโลกทุกประการโลภ โกรธ หลง ก็จะได้รับผลของ รักโลภโกรธหลงไปตามนั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยว่าจะเลือกเดินหรือปฏิบัติในทางไหน (ทำอย่างไรได้อย่างนั้น) จะฉลาดไปในทางที่ดีหรือฉลาดในทางที่เลว แต่ถูกกำกับไว้ว่าเป็นคนฉลาด เพราะว่าอยู่ในบูรพฯ


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีสิงห์


เป็นราหูที่มีอำนาจ ด้วยความที่ออกศึกเยอะอยู่ปลายของราศี คือเมถุน-กรกฎ-สิงห์ ศัตรูเลยไปลงที่ราศีสิงห์ เพราะว่าอยู่ในกลุ่มดาวฤกษ์ที่ก่อให้เกิดศัตรู คือมาฆะ ปุรพผลคุนี เป็นฤกษ์ที่หลอกลวงตามตำนาน ชอบหลอกลวง ยกตนข่มท่าน ไม่นับถือสมณชีพราหมณ์ ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน (๘) ตัวนี้ก็จะทำร้ายทำให้มีศัตรูมาก แต่ถ้าหากว่าตัดใจจะทำอะไรก็ให้อ่อนน้อมถ่อมตน  เคารพบุคคลที่ควรเคารพ สมณชีพราหมณ์ทั้งหลายก็จะเป็นคนที่มีลาภผลไม่ขาด ให้ผลตรงกันข้าม เพราะว่าฤกษ์นั้นให้ผลให้มีศัตรูมากและลาภผลมาก ขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเอง  เพราะว่าเป็นภพปุตตะของโลกจึงทำให้มีลาภผล หรือไม่ก็บริวารเสีย ศัตรูมาก อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ดูลักษณะของดาวฤกษ์ แต่ให้ผลเรื่องความฉลาดเหมือนกันหมด


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีกันย์


เริ่มเป็นราศีที่จะต้องแบกภาระ รับผิดชอบ ลงมือทำเอง ก่อให้เกิดการสร้างนิสัย สุขุม เยือกเย็น  (เพราะต้องรับผิดชอบมาก) สอดส่ายสายตาดู เพราะว่าเป็นราหูทำงาน แต่ก็ชอบอาสารับใช้คนอื่นมากกว่าเพราะกันย์เป็นภพอริของโลก คือรับใช้รับช่วง ดังนั้น (๘) ในกันย์นี้จึงเหมือนกับต้องไปให้เขาใช้ หรือไปสอนให้เขาทำงานพอเขาทำได้ก็เอาเราออก เหมือนกับว่าเราต้องเข้าไปแบกเอง ไอ้ที่จะสั่งให้คนอื่นมาทำแทนนั้นแล้วได้ดังใจนั้นยาก


แต่อย่างไรก็ตามมีข้อดีตรงที่ว่าจะมั่งคั่งในทรัพย์สินเพราะความเพียรของตน คือมีความขยัน  อย่างที่บอกว่า กันย์-ตุลย์-พิจิก คือช้างกรรมกร ดังนั้นจะลงมือเพราะความเพียรของตนเอง แต่คุณสมบัติของราหู เช่น ผมน้อย ยังคงอยู่เหมือนเดิมเพราะเป็นลักษณะเฉพาะ


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีตุลย์


แบกภาระตรงๆ เป็นราศีของชมพูทวีป ช้างกรรมกรตรงๆ เลย เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นคนที่มีความรู้รอบตัวมาก เป็นคนที่รับเรื่องเยอะเหลือเกิน เป็นทนายความเหมาะเพราะจะเรื่องวิ่งเข้ามาหาตัวเองดึงดูดเข้ามาหาตัวเองมาก มาย แต่ถ้าไม่ใช่ก็อาจจะวิ่งไปหาทนายความเพราะเจอคดีเยอะ หรือไม่ก็ชอบทางทหาร ตำรวจ ออกรบ ไปแนวหน้าเข้าป่าไปเลยแล้วไม่ออกมาอีก เป็นแบบช้างกรรมกรทำงานหนักตลอด แต่ก็ถือว่าจะมีชื่อเสียงโดดดัง คนทำงานมาก


บางคนก็ทำงานที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศตลอดไม่ได้อยู่นิ่ง งานหนักตลอดเหมือนกัน หากว่ามี (๘) กุมลัคน์ที่กันย์-ตุลย์-พิจิก ให้ทายว่าทำงานหนักไว้ก่อน รวยแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนขี้เกียจเซ็งชีวิต อันนี้ก็จนแน่นอนเหมือนกัน กลายเป็นช้างกรรมกรที่ถูกใช้จิกตี หลอกใช้อยู่ตลอดเวลา  ไม่มีโอกาสที่จะตั้งตัวได้ (หากเห็นในดวงใคร แล้วเจ้าตัวมีลักษณะท่าทางเฉื่อยๆ ให้ทายว่าจน  ลำบากแน่นอน)


บางทีแม้ไม่ได้กุมลัคน์มันก็มีอิทธิพล ถ้าหากว่าลัคนาอยู่ 3 ราศีล่างบอกได้อย่างเดียวเลยว่า  ต้องขยันถึงรวย ถ้าไม่ขยันก็จะด้วยกว่าคนอื่นมากเลย เช่นทำตัวเป็นเสี่ยตลอดก็จะลำบากภายหลัง


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีพิจิก


พิจิกส่งผลก่อนคือคิดมาก แล้วก็มักเผลอไปทำอะไรที่ต้องซ่อนเร้นผู้คน ต้องระวัง หรือทำอะไรเหมือนถูกคนหลอกใช้ ให้ไปทำในสิ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยกับสังคมได้ เช่นรับซื้อของโจร ต้องระวังการคบเพื่อนมากๆ
แต่ ถ้าเป็นคนที่กล้า ปรับนิสัยให้เป็นคนที่กล้า เวลาทำอะไรทำตรงๆ อยู่ในศีลในธรรมอันดี จะกลายเป็นคนที่มีวาสนาอายุยืน แต่ถ้าปราศจากความเพียร ชีวิตก็จะตกต่ำ ต้องมีความเพียรพยายาม ถึงจะได้ทรัพย์ที่ดินจากบรรพบุรุษแล้วก็มีความสุขในบั้นปลายของชีวิต


ยังได้รับอิทธิพลจาก (๓) เป็นคู่ธาตุลม(๓๘) ดีบั้นปลายมันต้องระหกระเหเร่ร่อน ระหกระเหินไปก่อน มีฤทธิ์มีเดช แต่ถ้าขยันเพราะกลัวว่าฤทธิ์เดชนั้นจะออกไปในทางที่ผิดกฎหมายจึงต้องระมัด ระวังให้ความสำคัญใน (1) การคบเพื่อนให้มากๆ   (2) สภาพแวดล้อมจากทางบ้าน และ (3) รวมทั้งวิธีคิดด้วย ถ้าหากว่าตั้งตนอยู่ในความขยันหมั่นเพียรตั้งแต่ต้น กำเนิดที่ไหนก็ตามต้องรวยหมดทุกคนเลย ยิ่งเสวยราชาอนุราธะฤกษ์ ก็จะเป็นลูกไพร่ได้เป็นพระยา


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีธนู  


อันนี้จะเป็นราหูจำศีล เป็นช้างเผือกในป่ามีความคิดเป็นอิสระของตัวเอง แต่ว่ามักจะต้องช่วยเหลือตนเอง ดูแลตนเอง เหมือนกับเติบโตด้วยตนเอง เป็นผู้มีประสบการณ์ คือเหมือนกับคนที่อยู่ในป่ามีความเป็นอิสระ ดังนั้นในตอนต้นมักจะต้องล้มลุกคลุกคลานไปก่อน (เหมือนกับช้างเผือกในป่า) แต่ว่าใฝ่ดีมีตระกูล


ฉะนั้น จะเป็นลักษณะของคนที่มีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงในระยะต้น เกเรในตอนต้นแล้วก็จะไปได้ดีภายหลัง ได้รับอิทธิพลจากดาว (๕) ก็คือจะได้เป็นใหญ่ ตำแหน่งหน้าที่การงานดี ปกติจะพูดจาหลักแหลม คารมนักปราชญ์ ส่วน (๘) ในธนูมักจะได้เป็นจ่าฝูงมักจะถูกยกย่องให้เป็นผู้นำคน  แล้วก็ต้องไปแก้ปัญหาให้คนอื่น เผชิญปัญหา รับหน้า รับเรื่องเหมือนกัน


(๘) ในธนูจะเสี่ยงน้อยกว่าในพิจิก อาจจะเป็นนักเลงหัวไม้ โผงผางตรงไปตรงมา มักจะเป็นหัวหน้าเปิดเผยมากกว่า แต่ถ้าเป็นพิจิกจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายน่ากลัวกว่า

 

  ดาว (๘) กุมลัคนาราศีมังกร

 

มีความอิสระทางความคิด ผาดโผนเพราะว่าเป็นมหาจักรจึงเป็นชีวิตที่ผาดโผน เฉลียวฉลาด  เดินทางบ่อย ชอบเดินทางเหมือนช้างที่มีอิสระในป่า ย้ายถิ่นฐานจากที่หนึ่งสู่อีกที่หนึ่ง มักจะมีที่ทำกินของตนเองเมื่อปลายมือ มีที่ดิน (๗,๘ มักทายออกไปในเรื่องของที่ดินเป็นส่วนใหญ่) มีอำนาจวาสนา ศัตรูไม่ทำร้าย หรือทำร้ายอะไรไม่ได้ ชีวิตค่อนข้างผาดโผนทีเดียว

 


 ดาว (๘) กุมลัคนาราศีกุมภ์


ถือว่าเป็นเกษตรเดิมและในโหราฯโบราณ ถือว่าเป็น “ปกิณะโชค” โชคเล็กโชคน้อยมีโชคลาภวาสนา วินาทีสุดท้ายต้องมีคนมาช่วยอยู่ร่ำไปเรียกว่า ปกิณะโชค หรือว่าเป็นคนที่ทำอะไรในวินาทีสุดท้ายก็ว่าได้ประเภทไฟลนก้น


มีอิสระในทางความคิด ธาตุลมชอบเดินทาง สิ่งที่ตามมาก็คือร้อนเงิน เพราะมีเรื่องให้จับจ่ายใช้สอย ใจกว้าง แต่ว่าเป็นคนที่มีลาภผล หัวคิดหัวอ่านฉลาด มีเพื่อนฝูงเยอะแล้วลาภผลก็มาจากเพื่อนนี่เอง


ดาว (๘) กุมลัคนาราศีมีน


ได้รับกระแสจากราศีธนูด้วยเกษตรเดิมคือ (๕) ก็ถือว่าเป็นราหูจำศีลเหมือนกัน แต่อยู่ในอุตรกุรุฯ ให้อำนาจวาสนาและมีความเป็นใหญ่ แต่ว่าความที่อยู่ในธาตุน้ำ ลมกับน้ำ จึงเจออุปสรรคในชีวิตมาก คือเป็นใหญ่เพื่อนฝูงเยอะก็จริง มีเกียรติ แต่ว่าเงินไม่ค่อยได้ ทรัพย์สินเงินทองดูเหมือนจะรั่วไหล แจกจ่ายให้คนอื่นไปหมด แต่เพื่อนเยอะจริงๆ มีตำแหน่งหน้าที่การงานเพราะเพื่อนฝูงดึงและส่งให้


 ดาว (๘) หากว่ากุมลัคน์จะให้คุณเป็นส่วนใหญ่ เช่นคุณ ก. มี (๓๘) กุมลัคน์ราศีธนูปีนี้โดน (๘) เล็ง ก็กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ


ใครที่มี (๘) กุมลัคน์โชคดี ถือว่าเป็นวัคซีน และเมื่อ (๘) ย้ายมาแล้วได้โชคทุกครั้ง แต่ถ้าไม่กุมลัคน์ก็ทายตามราศี อาจจะให้โทษหรือให้คุณ ขึ้นอยู่กับความประพฤติของตัวเองด้วย