เรื่องราวในบทนี้ เป็นตอนต่อจากคราวที่แล้ว เป็นเรื่องของภพที่ ๒ กดุมภะ ซึ่งภพนี้ หมายถึง ทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงการเงิน รายได้ เงินทุนหมุนเวียน หรือแม้กระทั่ง ขาดทุน ได้กำไรในทางธุรกิจ ผลประโยชน์จากการขายที่ดิน การเสี่ยงโชค การทวงหนี้ เงินค่าจ้าง รายได้ประจำ ฯลฯ

สรุปแล้ว ภพกดุมภะ คือ ภพที่เกี่ยวข้องกับรายได้ หรือทรัพย์สินทั้งหมด

นอกจากนี้ ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน โหรโบราณยังนำไปทายเกี่ยวกับพี่น้อง และในพิชัยสงครามยังหมายถึง สภาพแวดล้อมในวัยเด็กทั้งทางวัตถุและบุคคล สามารถทายพื้นฐานของบุคคลคนนั้นได้อย่างพิสดาร

การพยากรณ์ภพที่ ๒ นี้ ยังคงใช้หลักเกณฑ์ง่ายๆ ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของดวงดาว คือ หากมีดาวบาปเคราะห์อยู่ เช่น

ดาว ๗ จะหมายถึงอุปสรรคในการหารายได้ หรืออาจมีเรื่องที่ต้องสูญเสีย มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ถูกขอ ถูกแบ่งปัน หามาแล้วตนเองไม่มีโอกาสได้ใช้ หรือถูกโกง เป็นต้น

หรือหากมีดาว ๘ อยู่ในภพนี้ จะเป็นคนมือเติบ ทรัพย์ถูกเบียนบ่อน หรือหามาได้ก็มีคนช่วยใช้

ดาว ๓ ในภพกดุมภะ ให้ระวังเงินหาย ถูกล้วงกระเป๋า ชอบวางเงินหรือของมีค่าทิ้งไว้ ก็มีโอกาสสูญหาย ไม่ได้คืน มักร้อนเงิน ใช้ไม่พอ

ดาวเนปจูน ในภพนี้ มักเสียไปกับการสังคมเป็นจำนวนมาก

ดาว ๐ มักต้องหมุนเงิน สภาพการเงินไม่แน่นอน

ดาว ๙ การเงินปั่นป่วน วุ่นวาย มักเป็นหนี้ ชอบกู้ยืม

แต่หากมีดาวศุภเคราะห์มาอยู่ในภพกดุมภะ การพยากรณ์ก็มักจะเป็นไปในทางที่ดี ตามกำลังความเข้มแข็งของดวงดาว เช่น

มีดาว ๔ อยู่ มักใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง มีรายได้ทีละเล็กละน้อย แต่มีไม่ขาด

ดาว ๕ จะมีโชคทางการเงิน แม้ขาดแคนก็มีคนคอยช่วยเหลือ เครดิตดี มักมีโครงการใหญ่ในการแสวงหาเงินทอง

ดาว ๒ อยู่ภพนี้ ลาภผลไม่ขาด มักมาในรูปสิ่งของ ของกำนัน ของกิน

ดาว ๖ มักได้ทรัพย์สินโดยเสน่หา บ้างได้ของมีค่า รายได้อุดมสมบูรณ์ มาหลายทาง

อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกแยะดาวบาปเคราะห์กับดาวศุภเคราะห์แล้ว ต้องดูมุมสัมพันธ์ โยค กุม เล็ง ตรีโกณ กับดาวดวงอื่นๆ ด้วย ซึ่งใช้หลักการทายแบบ บาปเคราะห์และศุภเคราะห์ เช่นเดียวกัน