- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
21 ก.ค. 2556
สรุปบทความจากรายการ
"สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 25 ดาราศาสตร์สมัยราชวงศ์โจว (การคำนวณดวงดาว)"
ออกอากาศทาง TNN2 Truevision ช่อง 8 ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 20.20 - 20.30 น.
ความเจริญ ความเชื่อต่างๆ ในยุคเซี่ย ซาง โจว เมื่อ 2,500-3,000 ปีมาแล้วนั้น นอกจากจะเกิดปรัชญาร้อยสำนักแล้ว ยังมีด้านอื่นๆ อีก ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อเกี่ยวกับกระดองเต่า ดังที่กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ อีกด้วย เพราะว่าในคืนวันที่ท้องฟ้าแจ่มกระจ่าง ก็มีการแหงนดูท้องฟ้า สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของดวงดาว ซึ่งในยุคแรกๆ ชาวบ้านที่เห็นดวงดาวที่ค่อยๆ เคลื่อนย้ายบนท้องฟ้าก็พากันชี้ชวนกันดูแล้วบอกว่า นั่นไง จักรพรรดิหยูกำลังสำรวจต้นแม่น้ำ เพราะมีความเชื่อว่าจักรพรรดิหยู ล่องเรือทวนน้ำขึ้นไปเพื่อที่จะสำรวจต้นแม่น้ำฮวงโหอยู่
ดังนั้น ความเชื่อของบุคคลกับเรื่องดวงดาวมีอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะเรื่องของเทพเจ้าที่เกี่ยวพันกับสภาพดินฟ้าอากาศ มีการแต่งตั้งเป็นเทพประจำธรรมชาตินั้นๆ และในเรื่องของโหราศาสตร์ก็เช่นเดียวกัน เขาทราบว่ามีฤดูกาล ดั่งที่ท่านขงจื้อบอกว่า ฤดูกาลไม่ได้พูดอะไรแต่คนก็รู้ว่าเป็นฤดูอะไร เสมือนหนึ่งครูบาอาจารย์เมื่อสอนไปแล้วไม่ได้พูดอะไร แต่บุคคลทั้งหลายก็รู้ว่ามันมีอะไรอยู่ ซึ่งเป็นคำพูดที่เป็นปรัชญา
มีการแบ่งท้องฟ้าออกเป็น 4ทิศ ซึ่งแต่ละทิศมีดาวประจำอยู่ 7ดวง คำนวณแล้วได้ 28ดวง เท่ากับการโคจรของดวงจันทร์ที่ปัจจุบันคำนวณได้ เพราะฉะนั้นสมัยโบราณก็มีการแบ่งเทพประจำดวงดาวประจำ 4ทิศ 28ดวง แล้วก็ตั้งชื่อต่างๆ นับว่าเป็นการกำเนิดโหราศาสตร์เป็นครั้งแรก โดยที่มีการพยากรณ์จากบุคคลที่ถือกำเนิดในช่วงที่ดาวดวงใดเปล่งแสงสว่าง ถือว่าเป็นผู้ที่มีบุญ แต่ถ้าถือกำเนิดในช่วงที่ไม่เห็นดวงดาวอย่างชัดเจนก็ถือว่าเป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีอะไรที่โดดเด่น วาสนาในด้านที่เกี่ยวพันกับดาวดวงนั้นไม่มี ในระยะแรกเริ่มก็มีการสังเกตง่ายๆเพียงแค่นี้ ต่อจากนั้นมาก็มีการเฝ้าสังเกตดวงดาวทั้ง 28ดวงเหล่านี้ในลักษณะของการเทียบเคียงฤดูกาล หรือการนับเดือนแบบที่เราเรียกกันว่า จันทรคติ ไม่ได้ถือตามวงรอบของพระอาทิตย์ แต่ถือตามดวงจันทร์
ดวงดาวทั้ง 28 ดวงนี้หมุนเวียนไปเรื่อยๆ การหมุนของ 28 ดวงก็คือวงรอบการโคจรของดวงจันทร์นั่นเอง เมื่อครบวงรอบของดวงจันทร์ ก็นับเป็น 1 เดือน ซึ่งการโคจรผ่านดวงดาวแต่ละดวง ใช้คำว่าภูมิแทน เมื่อถึงเวลาที่ดาวดวงไหน โคจรไปรับแสงจากดวงจันทร์ ซึ่งกำหนดตามทิศตามฤดูกาล โดยสมมติให้ ทิศเหนือ ตรงกับฤดูหนาว ถ้าทิศใดแจ่มกระจ่าง ก็ถือว่าทิศนั้นมีอำนาจ หรือมีผู้มีบุญมาถือกำเนิดในทิศนั้น เรื่องของโหราศาสตร์จึงเกี่ยวฟ้า ดิน จึงเรียกว่า เทียน ตี่ คือ ฟ้ากับดินนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการกำเนิดของมนุษย์ คือ เทียน ตี่ นั้ง ถ้ามี บุคคลสำคัญลงมากำเนิดในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ถือว่า มีเทพจุติลงมานั่นเอง
ชมรายการย้อนหลังได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=D_v8qdR3mGw