บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๓/๑ - อ้วนสุด
4 ม.ค. 2559

 

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, อ้วนสุด

 

เรื่องราวของสามก๊กตอนนี้ เราคงจะได้กล่าวถึงความอาภัพของอ้วนสุดบ้าง  นับตั้งแต่ซุนเซ็กจะขอทวงตราหยกจากอ้วนสุด ซึ่งความเดิมที่ตนได้จำนำไว้แลกกับทหารกองหนึ่ง  ซึ่งอ้วนสุดนั้น ตั้งแต่ได้ตราหยกไว้ ก็คิดจะตั้งตัวเป็นเจ้าอยู่มิได้ขาด  ครั้นซุนเซ็กมาทวงตราหยก อ้วนสุดก็มิได้ให้  ช่วงชาตากรรมของอ้วนสุดตอนนี้ ข้าพเจ้าจะเล่าเนื้อความเอาแต่ใจความสำคัญ เพื่อดูจุดจบของคนที่ไม่มีวาสนา แต่ทำอะไรเกินกำลัง


แต่ในระหว่างเรื่องราวของตระกูลอ้วนนี้  มีเนื้อความที่สนุกๆ และเกี่ยวพันกับชีวิตของลิโป้ เล่าปี่ และโจโฉ กับนางเจ๋าซือ ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงเป็นเรื่องๆ ไป

 

ก่อนอื่นเรามาดูประวัติของอ้วนสุดก่อน  ความจริง อ้วนสุด เกิดในตระกูลขุนนาง  ปู่ทวด รับราชการมาจนถึงสมัยพ่อเป็นขุนพลใหญ่  อ้วนสุด เป็นน้องชายของอ้วนเสี้ยว ผู้เป็นใหญ่ในดินแดนภาคเหนือ แต่ปรกติไม่ค่อยมีฝีมือและความคิดเท่าไรนัก และไม่เป็นที่รักของลูกน้องอีกด้วย จึงไม่อาจมีก๊กมีเหล่า หรือสร้างความเจริญให้กับตนเองในด้านการทหารหรือการเมือง จึงมักถูกปราบปรามจากก๊กอื่นๆ ต้องเตลิดหนีอยู่เป็นประจำ


เข้าทำนอง “รักตัว ก็เหลือแต่ตัว”

 

ตัวอ้วนสุดนั้น สมัยที่อ้วนเสี้ยวได้เป็นแม่ทัพใหญ่ของ ๑๖ หัวเมือง ยกไปต่อยตีกับตั๋งโต๊ะ  พี่ชายก็มอบหมายให้เป็นแม่ทัพคุมเสบียง แต่ความที่ไม่ซื่อ ไม่ส่งเสบียงตามคำขอ กลัวคนอื่นรบชนะจะได้ดีกว่าตน เลยพาให้กองทัพ ๑๖ หัวเมืองรบไม่ชนะเพราะท้อง (คือ เสบียง) นี่แหละค่ะ ไม่มี


นี่คือ ผลงานหรือวงจร ที่จะบอกอุปนิสัยของอ้วนสุด ได้เป็นอย่างดี

 

ดาว ๗ เป็นดาวแห่งความตระหนี่ และคับแคบ  ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี เป็นนิจ เป็นประ ไม่มีดาวศุภเคราะห์ส่องแสงถึง ก็จะมีอาการแบบ “อ้วนสุด” นี่แหล่ะ


ดังนั้น เมื่อซุนเซ็กฝากดวงตราหยกประจำราชสำนักเอาไว้ แล้วขอยืมทหารไปแก้แค้นแทนบิดานั้น ถ้ามาให้ข้าพเจ้าพยากรณ์ ก็ต้องบอกซุนเซ็กว่า”ยากจะได้คืน”


คุณๆ ทั้งหลาย ที่ชอบให้คนยืมเงิน แล้วมาถามว่า จะได้คืนไหม ให้ดูเรื่องของอ้วนสุดและลักษณะของอ้วนสุด เป็นตัวอย่าง ก็สามารถพยากรณ์ให้ตนเองได้ตั้งแต่แรกเลย