บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๒/๒ - ซุนเซ็ก
4 ม.ค. 2559

 

ซุนเซ็ก มีมรดกที่สำคัญตกทอดมาจากบิดาอย่างหนึ่งที่คราวเมืองแตก  ซุนเกี๋ยน เป็นคนได้ตราหยกสำหรับกษัตริย์ และตรานั้นก็อยู่ที่ซุนเซ็ก และซุนเซ็ก ก็ตั้งใจที่จะเอาตราหยกจำนำกับ อ้วนสุดเพื่อแลกกับทหาร

 

ด้วยความโลภของอ้วนสุด  ซุนเซ็กจึงได้ทหารสามพัน กับม้าห้าร้อย ให้กับซุนเซ็ก ตามคำขอที่ว่า จะนำไปหาน้าชายที่ชื่อ “งอเก๋ง” แล้วร่วมกันทำการแก้แค้นให้กับบิดา แถมซุนเซ็ก ได้ขอ จูตี ลิห้อม เทียเภา ฮันต๋ง อุยกาย นายทหารดั้งเดิมที่เคยทำการกับ ซุนเกี๋ยน ผู้เป็นบิดา

 

เห็นคุณสมบัติของซุนเซ็กไหม ตราหยกนี่สำคัญนะคะ แต่ถ้าไว้กับตัว แล้วตาย ตราหยกก็มีค่าเท่ากับก้อนหิน ผู้ที่จะทำการใหญ่ จะไม่โลภ เห็นแก่เล็กน้อย แล้วเสียการใหญ่ เอาไปปรับใช้กับการเล่นหุ้นก็ได้


โหงวเฮ้งของซุนเซ็ก แม้ว่าในหนังสือจะบอกว่า หล่อ  แต่ถ้าฉลาด มองการณ์ออกอย่างนี้ แสดงว่า หน้าผากกว้างเหลี่ยม ไม่สูงมากนัก อายุถึงไม่ยืน แต่ก็หมายถึงการมองการณ์ไกล ตีนผมเถิกเลิกสูง ทั่วไปเราเรียกว่า หัวล้านด้านข้าง

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, จิวยี่

 

ซุนเซ็ก ยกทหารออกจากเมืองลำหยงไปเมืองตันเอี๋ยง ก็พบกับ จิวยี่ กลางทาง  จิวยี่กำลังไปเยี่ยมมารดา ณ เมือง “ซีเสง” ซุนเซ็กกับจิวยี่ เป็นสหายกันมาแต่เยาว์วัย เนื่องจากตอนที่ซุนเซ็กรบกับตั๋งโต๊ะนั่น บิดาซุนเซ็กนำครอบครัวไปไว้ที่บ้านซีเสง ใกล้บ้านจิวยี่  ที่นี่ก็เหมือนกัน น่าสืบดูให้รู้ว่าอยู่ที่ใดในเมืองจีน เพราะน่าไปดูทำเลเหมือนกันว่า เป็นที่ๆ เลี้ยงดู ลูกเสือสองตัว นี่แหละ


ดังนั้น จิวยี่ จึงเป็นสหายชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก โดยที่จิวยี่ เรียกซุนเซ็กว่า “พี่”  เนื่องจากซุนเซ็กแก่กว่า ๒ เดือน ดังนั้น จิวยี่จึงเป็นฝ่ายลงจากหลังม้าคำนับ ซุนเซ็กก่อน

 

ซุนเซ็กเล่าเนื้อความให้ฟัง จิวยี่ จึงขออาสาอยู่ร่วมด้วย เพื่อช่วยกันคิดการใหญ่ต่อไป  ซุนเซ็กก็ยินดีเป็นอันมาก จิวยี่ยังแนะนำคนดีให้อีกสองคน คือ “เตียวเจียว” ชาวเมืองเพ้งเสีย อีกคนหนึ่งชื่อ “เตียวเหียน” ชาวเมืองกองหลง  บอกว่า สองคนนี้ มีปัญญามาก บัดนี้ก็หนีโจรมาอยุ่เมืองกังตั๋ง ให้รีบไปเชิญมาช่วยกันคิดการสืบไป


ท่านที่ติดตามสามก๊กมาอย่างใกล้ชิด ขอให้จดจำชื่อเหล่านี้ให้ดี เพราะต่อไปที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมดในบทนี้ จะเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของ “ง่อก๊ก” หนึ่งในสามก๊กต่อไป

 

เป็นอันว่า ซุนเซ็กก็มีทีมพร้อม  “การสร้างทีมนั้น ต้องมีผู้มีสติปัญญาอยู่ในทีม ซึ่งถ้าเป็นการค้า ก็ต้องมีปัญญา หรือภูมิความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการของเรา”  เช่น เรามีกิจการเกี่ยวกับกระจก แต่มีทีมชำนาญเรื่องไฟฟ้า ประปา ร้านของเราคงไปไม่รอดแน่นอน จริงไหมคะ  ดาว ๔ ๕ ๖ หรือ ที่ชาวจีนเรียกว่า “สี่โหงวลัก” นั้น หมายถึง การทำงานที่เป็นทีม ประกอบไปด้วย

 

ผู้มีสติปัญญา คือ ดาว ๔ ๕
ผู้มีทุนทรัพย์ คือ ดาว ๖
ผู้ชำนาญการ คือ ดาว ๔ ๖
ผู้มีบุคลิกเป็นที่น่าเชื่อถือ คือ ดาว ๕ ๖
ผู้มีวาจาอันดี คือ ดาว ๔