บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒/๓ - โจรโพกผ้าเหลือง และคำสาบานในสวนท้อ
21 พ.ย. 2558

 

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, เลนเต้, โจรโพกผ้าเหลือง

 

มาดูดวงดาวแบบของไทยๆบ้าง

 


ปีนั้นดาว ๕ เป็นราชาโชค เห็นได้ชัดว่า จางเจี่ยว ชูสีเหลืองเป็นหลัก รับราชาโชค คือความร่วมมือของคนทั้งแผ่นดิน คนที่จะได้รับอานิสงส์ของดาว ๕ เต็มๆ ต้องเป็นคนที่ปฏิบัติตนในแนวของดาว ๕ มาจริงๆ ก่อนหน้านี้ และเมื่อดาว ๕ มีอำนาจแล้ว เจ้าตัวทำให้ดาว ๕ เด่น โดยนำสัญลักษณ์มาใช้ให้เกิดความโดดเด่นสะดุดตา นี่เป็นหลักของการใช้สีแบบพิชัยสงครามที่เราได้ร่ำเรียนกัน

 


และที่น่าแปลกคือ สีเหลือง เป็นสีธาตุทอง ทิศสวรรค์ ช่างสอดคล้องกันจริงๆ ทั้งไทยจีน
ขอรับรองว่า ว่ากันไปตามหลักวิชา มิได้เขียนไปเรื่อยอย่างมั่วๆจ้ะ

 

ดาว ๗ เป็นอุจจ์ เล็งดาว ๕ อยู่ในตำแหน่งคู่พระคู่โจร มีอำนาจทั้งสองดวง มีผลถึงความเดือดร้อนและเป็นปฏิปักษ์ต่อบ้านเมือง

 


ดาว ๖ และดาว ๘ อยู่กลางฟ้าของดาว ๕ที่ราศีมังกร แสดงถึงความลุ่มหลงงมงายในวิชาไสยศาสตร์ ดาว ๐ เจ้าแห่งราศีกุมภ์ ซึ่งไปสถิตอยู่ในเรือนวินาศของดาว ๕ ราศีมีน

 


การพยากรณ์อย่างนี้ ใช้ดาว ๕ เป็นลัคนา คือ ตัวแทนแห่งปี เป็นหลักพยากรณ์นั่นเอง
แล้วให้ดาว ๙ ตัวเพิ่มเรื่องให้แรงขึ้นอยู่ราศีกรกฏ

 


ดังนั้น ดาว ๖ ๘ และดาว ๙ ที่อยู่ตำแหน่งเบียนดาว ๕ จึงเป็นจุดสำคัญ บอกว่าจะเกิดกบฏต่อรัฐบาลโดยใช้สีเหลืองเป็นสำคัญ

 

ดาว ๕ ที่ถูกเบียนด้วยดาว ๘ และดาว ๙ ทำให้ผิดเพี้ยนจากความดี เป็นเรื่องของความงมงายไป

 


เตียวก๊กหรือจางเจี่ยวผู้นี้ จึงสามารถก่อกำเนิดซ่องสุมผู้คน โดยใช้ผ้าเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ภายใต้นักษัตรเช่นนี้เอง

ขบวนการโพกผ้าเหลือง จัดกองกำลังออกเป็น ๓๖ เขต แต่ละเขตคุมพลพรรคไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ คน เขตที่เล็กที่สุด ก็ไม่ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ คน

 

หม่าหยวนยี่ หัวหน้าเขตใหญ่คนหนึ่งมีขันทีใหญ่สองคนหนุนหลัง จึงคิดกำเริบเสิบสาน คบคิดกันบุกราชสำนักในวันที่ ๕ เดือน ๓ ของจีน ช่วงเดือนเมษา ใกล้เช็งเม้ง ไม่มีใครเขาไปรบ เทวดาไม่เป็นใจ ถือว่าฤกษ์ไม่งาม ยามไม่ดี บารมีไม่ถึง ความแตกเสียก่อน หม่าหยวนยี่ถูกจับไปประหารชีวิต ชนิดประจานกลางตลาด

 


ความตายของหม่าหยวนยี่ แทนที่จะเป็นการกำราบขบวนการโพกผ้าเหลือง กลับทำให้เกิดความโกรธแค้น และเป็นการจุดชนวนให้ลุกลามจนกลายเป็นจลาจลขยายไปทั่วประเทศ และมีผู้สนับสนุนเกิดขึ้นอีกมากมาย จนเกิดเป็นกองทัพใหญ่ สมกับเป็นโจรขบถ ต่อแผ่นดินนั่นเอง

 

ดวงดาวจรเคลื่อนคล้อยทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงกลายเป็นว่า
คือ ดาว ๗ ตรีโกณถึงดาว ๙ ที่โคจรขึ้นไปอยู่ราศีเมถุน และมีดาว ๘ เป็นสี่ ซึ่งหมายถึงการมีสมัครพรรคพวกมากมายเป็นกองทัพ ทั้งดาว ๗ ยังได้เกณฑ์กับดาว ๓ ที่อยู่ราศีมีน เท่ากับดาว ๗ อยู่ในเกณฑ์แปด หรือเกณฑ์มรณะ ของดาว ๓ ดังนั้น นอกจากดาว ๗ จะมีคุณภาพเป็นอุจจ์แล้ว ยังอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งที่สุดอีกด้วย ซ้ำยังอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกันข้ามกับดาว ๕ ซึ่งนัยหนึ่ง ก็คือรัฐบาลนั่นเอง

 

ราชสำนักฮั่นมอบหมายให้ หวงฝู่ซง เป็นผู้อำนวยการปราบปรามโจรกบฏ โดยจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจขึ้น ๘ กรม ทำหน้าที่อารักขานครหลวงและปริมณฑล มีจูจุ้นเป็นผู้ช่วย และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ โฮจิ้น ซึ่งขณะนั้น คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด และยังเป็นพี่ชายของโฮหองเฮา อีกด้วย

 

โจโฉ ในขณะนั้น รับตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารม้า ทำหน้าที่สำคัญปราบกบฏเขตนครหลวงและปริมณฑล ความเที่ยงตรงและความสามารถของโจโฉ เปล่งประกายโดดเด่น มีผลงานจึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าเมือง “จี้หนาน”
ปีนี้ โจโฉอายุ ๒๙ ปี ความโดดเด่นของโจโฉ คือไม้พลองห้าสี ตีกระหน่ำผู้กระทำผิดทุกคน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

 

ในตอนนั้น ก่อกำเนิดขุนพลคนสำคัญ ๓ คน สาบานเป็นพี่น้องกันในสวนท้อ คือ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย โปรดสังเกตุ ฤดูใบไม้ผลิ ดอกท้อถึงบาน เราจะสาบานรัก หรือ อะไรกับใครคิดหน่อยไหมว่า ควรเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะได้ยืนยาวนานสนิทแนบแน่น ตีไม่แตก แย่งไม่ได้ เหมือนสามพี่น้องนี่

 

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, เลนเต้, โจรโพกผ้าเหลือง