บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๔๒/๔ - อวสานจิวยี่
10 ก.ค. 2561

 

เมื่อจิวยี่สิ้นใจ กองทัพเรือของจิวยี่ก็ถอยกลับกังตั๋ง ฝ่ายซุนกวนทราบข่าวว่าจิวยี่ตายก็ใจหาย ร้องไห้จนแทบจะสิ้นสติ จดหมายของจิวยี่ที่มาถึงซุนกวน เป็นจดหมายลาตาย แล้วขอฝากฝังให้แต่งตั้งโลซกเป็นแม่ทัพแทน โลซกก็ดีอย่าง ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจะมีสติปัญญา แต่ก็ไม่มีตัวตน รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักยืดหยุ่น แม้จะไม่ค่อยทันคน แต่โลซกก็มีอายุยืนยาว ช่วยเหลือราชการกังตั๋งมาตลอด ครั้นนั้น ซุนกวนก็แต่งตั้งโลซกเข้าดํารงตําแหน่งแทนจิวยี่ 
 
ในคืนที่จิวยี่ตาย ขงเบ้งนั่งดูดาว เห็นดาวตกดวงหนึ่ง เป็นดาวประจําตัวของจิวยี่ ขงเบ้งก็ทราบว่าจิวยี่ตายแล้ว เช้าขึ้นมา ขงเบ้งบอกความให้เล่าปี่ทราบ เล่าปี่ให้คนไปสืบดู ก็ทราบว่าจิวยี่ตายจริงๆ เล่าปี่ถามขงเบ้งว่า จะทําอย่างไรต่อไป ขงเบ้งตอบว่า ข้าพเจ้าจะไปเยี่ยมศพจิวยี่ ณ เมืองกังตั๋ง เพราะว่ายังต้องเป็นพันธมิตรกันอยู่ เล่าปี่เตือนว่า ข้าพเจ้าเกรงว่าพวกนายทหารของจิวยี่จะทําร้ายท่าน ขงเบ้งตอบว่า เมื่อจิวยี่ยังมีชีวิตอยู่ ข้าพเจ้ายังไม่กลัว จิวยี่ตายแล้วยังต้องกลัวอะไรอีก เล่าปี่ไม่วางใจ สั่งให้จูล่งอารักขาขงเบ้งไปด้วย 
 
ขงเบ้งแล่นเรือไปกลางทาง ทราบว่าซุนกวนให้ชะลอศพจิวยี่ไปฝังที่เมืองฉสองกุ๋น จึงแล่นเรือตามไปถึงเมืองนั้น โลซกทราบข่าวก็ออกมาต้อนรับเป็นอันดี ฝ่ายนายทหารจิวยี่เห็นขงเบ้งมา ก็คิดว่าจะมาเยาะเย้ย แสนจะแค้นใจ อยากจะฆ่าขงเบ้งเสียให้ได้  แต่เห็นจูล่งยืนคุ้มกันอยู่และขงเบ้งมาในฐานะฑูต ก็ไม่กล้าลงมือ ขงเบ้งจึงให้นายทหารที่ติดตามมา เข้าแถวต่อหน้าศพจิวยี่ เมื่อจุดธูปหอมทําความเคารพศพแล้ว ก็คุกเข่าลง อ่านคํารําพันถึงจิวยี่
 
โอ้ว่าอนิจจาท่านแม่ทัพ อนาถนักที่ท่านสิ้นชีพเมื่อยังไม่ถึงกาล ชีวิตมนุษย์นี้ สุดแต่ฟ้าจะบันดาลทั้งสิ้น ข้าพเจ้าสุดแสนจะโศกเศร้ารําลึกถึงท่าน ขอดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของท่าน จงได้รับกลิ่นธูปหอมที่ข้าพเจ้าน้อมนํามาจุดอุทิศให้ 
 
เมื่อรําพึงรําพันถึงจิวยี่ ขงเบ้งก็พรรณาต่อว่า ข้าพเจ้ามาเยี่ยมท่านนี้ รู้สึกว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าพเจ้ายังติดตาติดใจ ในความองอาจกล้าหาญและความสําเร็จต่างๆ ของท่าน ข้าพเจ้าอาลัยให้แก่ความตายที่ยังไม่ถึงกาลของท่าน ร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกจากขั้วหัวใจ ชีวิตของท่านนั้น มีแต่ความซื่อตรง เมตตา ปรานี มาตรว่าจะอยู่ในโลกนี้เพียง ๓๐ กว่าปี แต่เกียรติคุณของท่านจะดํารงอยู่ชั่วกาล ข้าพเจ้าอาลัยรักคุณธรรมความดีของท่าน ความทุกข์แสนสาหัสของข้าพเจ้าต่อท่าน ไม่มีวันสิ้นสุดลงไปได้ 
 
ความตายของท่านนั้น แม้ฟ้าก็ให้ทหารทุกคนโศกสลด นายของท่านน้ําตาไหล  มิตรสหายทุกคนน้ําตานองหน้า ข้าพเจ้าเป็นผู้มีสติปัญญาอันน้อย ท่านยังกรุณาให้มาช่วยอาณาจักรกังตั๋งขับไล่โจโฉ เพื่อคอยกู้บัลลังก์และอนุเคราะห์แก่แซ่เล่า ด้วยความหนักแน่น แข็งแกร่งดั่งศิลา และอัธยาศัยอันแสนประเสริฐของท่าน ท่านได้ช่วยปัดเป่าความคับขันทั้งมวลให้หมดสิ้นไป ท่านแม่ทัพที่เคารพ คนเป็นกับคนตายมีแยกห่างออกจากกันไป ไม่เคยอยู่ร่วมกันได้เลย หากมีญาณวิถีใดๆ ที่ท่านจะหยั่งรู้ได้ ท่านก็คงตระหนักในความทุกข์อันแสนสาหัสของข้าพเจ้า ว่ามีอยู่ปานใด ไม่มีสิ่งใดบนพิภพจะหยั่งความรู้สึกนี่ได้เลย ขอท่านได้โปรดกรุณารับเครื่องเช่นไหว้ที่ข้าพเจ้านำมานี้ด้วยเทอญ 
 
แล้วขงเบ้งก็โขกศีรษะลงกับพื้น น้ําตาไหล บรรดาญาติมิตรของจิวยี่ที่ยืนอยู่สองข้างศพ ตอนแรกก็แค้น พอเห็นกิริยาของขงเบ้ง เห็นความอ่อนน้อมถ่อมตน ก็พลอยสงสารขงเบ้งไปด้วย โลซกซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ก็นึกในใจว่า ขงเบ้งเคารพรักจิวยี่ ไม่มีอิจฉาพยาบาทเลย จิวยี่ซิใจแคบ คิดทําร้ายขงเบ้งจนตัวตาย ก็เป็นอันว่าตอนนั้น กังตั๋งไม่มีความรู้สึกที่แค้นขงเบ้ง ขงเบ้งสามารถสลายความแค้นไปชั่วพริบตา 
 
นี่คือความสามารถของขงเบ้ง คือผู้ที่มีดาวอาทิตย์เสีย ดาวจันทร์เสีย ดาวพฤหัสเป็นเลิศ โยกถึงดาวพุธ คือผู้ที่มีสติปัญญา และดาวพุธถึงดาวพฤหัสถึงดาวสาร์ คือมีความสามารถในเรื่องของการเจรจาสลายความแค้นทั้งหมด