บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๙/๔ - โจโฉแตกทัพ
4 มิ.ย. 2561

 

กวนอูโผล่ออกมา บอกว่า ได้รับคําสั่งให้มาสกัดท่านอยู่ที่นี่ โจโฉก็อ้อนวอนว่า ตอนนี้แตกทัพหมด กําลังทุกข์ทรมานแสนสาหัส ให้นึกถึงความหลังที่เคยช่วยชีวิตท่านไว้ตอนเอาไปอยู่ด้วย โจโฉจะมีคุณสมบัติล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอด แต่ความที่มี ๑ ๔ ๖ อยู่ในดวง หลายคนมี ๑ ๔ ๖ อยู่ด้วยกัน กุมกันอยู่ในดวงก็จะเป็นดวงที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่ง เมื่อถึงคราวคับขันทีไร ก็ต้องมีคนมาช่วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะอยู่ในภพใดก็ตาม ๑ ๔ ๖ มีคุณสมบัติเข้าถึงใจคน ไม่ว่าจะอยู่ในราศีชั้นที่ ๑ อยู่ในราศีทวาร ราศีชั้นที่ ๒ ราศีชั้นที่ ๓ มีคุณสมบัติเหมือนกันหมด ถ้ามี ๑ ๔ ๖ กุมกันทั้งหมด ๓ ดวง เป็นดาวที่ให้เสน่ห์ มีความอ่อนน้อม ถ่อมตน ดูคนเป็น รู้จังหวะ โจโฉก็เช่นเดียวกัน เจอเรื่องคับขันตั้งหลายครั้ง เล่าปี่ลําบากที่สุด แต่โจโฉก็ขึ้นๆ ลงๆ มากที่สุด แตกทัพไปไม่รู้กี่ครั้ง แต่ไม่รู้จักเข็ด แต่ด้วยคุณสมบัติอันนี้ โจโฉกินขาดทุกครั้งไป
 
ครั้งนี้ โจโฉเคยแผ่พระคุณกับกวนอู กวนอูเป็นผู้ที่มีคุณธรรม พฤหัสของกวนอูค่อนข้างโดดเด่น แต่ใจร้อน มีธาตุไฟในตัวค่อนข้างเยอะ ตัวสูงใหญ่ ใบหน้าใหญ่กว้าง แก้มใหญ่ นี่คือลักษณะของดาว ๕ ส่วนใบหน้าที่แดง แสดงถึงความร้อนของธาตุไฟ ฉะนั้น ค่อนข้างมุทะลุดุดัน แต่ว่าบวกกับความเป็นดาว ๕ บวกกับโหงวเฮ้ง เป็นคนเที่ยงธรรมซื่อตรง ทําให้ตัดสินใจแบบเป็นไรเป็นกัน ธาตุไฟผสมกับคุณธรรม อันนี้ก็เป็นโหงวเฮ้งที่เข้ามาเกี่ยว ลักษณะเด่นของกวนอูคือ สูงใหญ่ หน้าแดง มีแก้มเต็มๆ แต่ว่าจะต้องมีจมูกรับกัน คือขุนเขาทั้ง ๕ เนินหน้าผาก เนินจมูก เนินคาง เนินแก้มทั้งสองข้าง เรียกว่าขุนเขาทั้ง ๕ รับกันทั้งหมด ก็จะส่งผลให้เป็นคนที่เที่ยงธรรมและซื่อสัตย์
 
โจโฉเองก็มองออกในข้อนี้ เอาข้อนี้ขึ้นมาพูดก่อนเลย ว่าให้คิดถึงเขาที่ได้รักษาคําพูดเป็นคําสัตย์ที่ดูแลกวนอู แม้ว่ากวนอูจะบอกว่า เคยฆ่าทหารเอกของอ้วนเสี้ยวให้กับโจโฉแล้ว แต่โจโฉก็ยังยกเอาเรื่องของบุญคุณมาพูดอีก ทําให้กวนอูพูดไม่ออก  คนที่มีลักษณะสูงใหญ่ ใบหน้าเต็ม รับกันหมด มักจะเป็นคนซื่อตรง ถ้าพูดอะไรที่ตรงใจแล้ว ก็มักจะจํานนด้วยเหตุนั้น โจโฉเองก็มองในข้อนี้ออก เป็นอันว่ากวนอูเปิดทางให้โจโฉหนีไป
 
เมื่อกวนอูคุมทหารกลับค่ายแฮเค้า ก็ตรงเข้าพบกับขงเบ้ง ขงเบ้งก็แกล้งทําเป็นดีใจออกมารับ แต่กวนอูอึกอัก ก็บอกว่ากลับมารับโทษตามบทพระอัยการศึก ขงเบ้งก็ถามว่า โจโฉไม่ได้ผ่านตามเส้นทางที่ข้าพเจ้าบอกหรือ กวนอูก็บอกว่า ผ่าน แต่ได้เปิดทางให้โจโฉหนีไปเรียบร้อยแล้ว ขงเบ้งก็ทําเป็นประหลาดใจ แล้วท่านจับเชลยได้หรือเปล่า กวนอูก็ตอบว่าเปล่าเลย นี่คือความสัตย์ซื่อ อย่างน้อยขงเบ้งก็มีความไว้ใจกวนอู สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า เพราะว่ามองโหงวเฮ้งของกวนอูออก เป็นอันว่าจะรับปากอย่างไร แต่ความซื่อสัตย์กตัญญูนํามาก่อน เป็นลักษณะเด่นยิ่งกว่าดวงชะตาอีก บางคนดาว ๕ เด่นเพียงอย่างเดียว แต่โหงวเฮ้งไม่รับ ก็จะลดหลั่นกันไป 
 
กวนอูตอบไปตามความจริง ไม่ได้โกหก ขงเบ้งก็ตอบว่า ถ้าเช่นนั้น ก็แปลว่าท่านยังนึกถึงบุญคุณของโจโฉอยู่ จึงยอมให้โจโฉหนีไป ท่านจําต้องรับโทษตามความผิด ขงเบ้งก็ให้เอาตัวกวนอูไปประหารชีวิต เล่าปี่ก็อ้อนวอนขงเบ้งว่า เราสามพี่น้องให้สัตย์สาบานกันเอาไว้ ว่าเราจะตายด้วยกัน แม้ว่ากวนอูกระทําผิดบทพระอัยการศึก ข้าพเจ้าก็ไม่อาจจะละคำสาบานได้ ขอให้ภาคทัณฑ์ไว้สักครั้งหนึ่ง ให้กวนอูทำการแก้ตัวใหม่ในภายหน้า อันนี้ก็เป็นหลักจิตวิทยา ขงเบ้งก็สั่งระงับโทษประหาร 
 
เมื่อเสร็จศึกโจโฉแล้ว จิวยี่ก็มาเยี่ยมคํานับเล่าปี่ที่ค่าย แล้วตกลงกันว่า จิวยี่จะเข้าตีเมืองลํากุ๋นก่อน ถ้าไม่ได้เล่าปี่จะเข้าตีเอง โจหยินรักษาเมืองลํากุ๋นอยู่ พอจิวยี่เข้าตี ก็เอาเกาทัณฑ์อาบยาพิษยิงถูกจิวยี่ที่ขาซ้าย ออกรบไม่ได้หลายวัน โจหยินก็ให้ทหารมาร้องด่าหน้าค่าย จิวยี่อารมณ์ร้อน ถูกด่าทนไม่ไหว เอาทหารออกไปรบ พิษเกาทัณฑ์ก็กําเริบ รากเลือดตกม้า ทหารฝ่ายจิวยี่เข้าป้องกันไว้ได้ ก็นํากลับเข้าค่าย  ช่วยกันแก้ไขจนฟื้น แต่จิวยี่ก็มีความฉลาด ก็แต่งอุบายแพร่ข่าวว่าตัวเองตายแล้ว  โจหยินคิดว่าเป็นความจริง ก็ยกทหารเข้าตีค่ายจิวในเวลากลางคืน ถูกทหารจิวยี่ตีแตก
 
พอรุ่งเช้า จิวยี่นําทัพเคลื่อนเข้าตีเมืองลำกุ๋น เมื่อไปถึงกําแพงเมืองก็ตกตะลึง กําแพงเมืองปิดสนิท ธงทิวที่ติดอยู่รอบกําแพงก็เปลี่ยนเป็นธงของเล่าปี่เสียแล้ว จิวยี่ก็รู้ทันทีว่า เล่าปี่แอบส่งกองทัพเข้ายึดเมืองลํากุ๋นขณะที่โจหยินออกไปรบกับจิวยี่เมื่อคืนนี้ ก็แผนของขงเบ้งอีก 
 
ทันใดนั้น ก็มีเสียงร้องออกมาจากกําแพงเมืองว่า ท่านแม่ทัพขอประทานโทษด้วย ข้าพเจ้าได้รับคําสั่งมายึดเมืองนี้ ข้าพเจ้าคือจูล่ง จิวยี่ได้ฟังก็โกรธ ตัวเองถูกยิงตกม้า อุตส่าห์ทําอุบายเรียบร้อย ก็สั่งทหารทลายประตูเมือง ทหารของจูล่งก็ระดมยิงเกาทัณฑ์เป็นห่าฝน จิวยี่เห็นเหลือกําลัง ก็ถอยทัพกลับค่าย ปรึกษากับนายทหารทั้งหมดว่า บัดนี้ เล่าปี่ชิงเมืองลํากุ๋นไปได้แล้ว ต่อไปต้องไปเกงจิ๋วแน่นอน เมืองซงหยงด้วย ถ้าเราช้าจะเสียการ กลายว่าเราตีทัพโจโฉแตกกลับไป เพื่อยกอาณาจักรเกงจิ๋วให้แก่เล่าปี่ บรรดานายทหารบอกว่า ไม่ได้แล้ว ต้องปราบเล่าปี่ จิวยี่ก็สั่งกําเหลงยกทหารไปยึดเมืองเกงจิ๋วก่อน แล้วให้เล่งทองไปยึดเมืองซงหยง 
 
ไม่ทันที่ทัพกําเหลงกับเล่งทองจะเคลื่อนไป กองสอดแนมมารายงานจิวยี่ว่า เมื่อคืนนี้ ขงเบ้งให้ทหารหมู่หนึ่งปลอมเป็นทหารโจหยิน ถือตราและธงไปขอทหารเมืองเกงจิ๋ว ให้ยกไปช่วยโจหยินต่อสู้กับจิวยี่ คือทางหนึ่งให้จูล่งบุกเมืองลำกุ๋น เมื่อยึดตราได้แล้ว ก็เอาตราไปที่เกงจิ๋ว พอทัพเมืองเกงจิ๋วเคลื่อนออกไปแล้ว เตียวหุยก็ยกทัพเข้ายึดเมืองเกงจิ๋วไว้อย่างง่ายดาย คือล่อให้ทหารออกจากเมืองมาช่วยโจหยิน เตียวหุยก็เข้ายึดทางโน่น โจหยินออกจากเมือง จูล่งก็เข้ายึดเมือง มีทหารแค่ ๓๐๐๐  คนไม่ต้องเสียทหารสักคนเดีย เข้ายึดง่าย 
เมืองซงหยงก็เช่นเดียวกัน ขงเบ้งก็ให้ทหารปลอมเป็นทหารโจหยิน ไปขอกําลังเพื่อรบกับจิวยี่ แฮหัวตุ้นแม่ทัพที่เมืองนั้นก็รีบยกทหารออกไปช่วย กวนอูก็คุมกําลังเข้ายึดซงหยงโดยปราศจากการบไปอีก