บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๒๓/๒ - ดาวพุธเสียในบางสถานการณ์จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
20 ก.พ. 2561

 

โจโฉก็ขอยืมพระแสงเกาทัณฑ์ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ปรากฏว่ายิงถูก ข้าราชบริพารไม่รู้ว่าใครยิง ก็ตามไป เห็นเป็นลูกเกาทัณฑ์ทอง ก็สำคัญว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้เป็นผู้ยิง ก็ตะโกนร้องว่า ว่านซุ่ย ว่านซุ่ย แปลว่า ขอให้ทรงพระเจริญหมื่นปี โจโฉรีบขับม้าไปข้างหน้า แล้วแกล้งร้องถามว่า เกาทัณฑ์ที่ข้ายิงไปถูกกวางหรือ บรรดาข้าราชบริพารก็ตกตะลึงทั้งหมด รวมทั้งกวนอู มีความเข้าใจว่า โจโฉหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็ชักม้าเข้ามาเงื้อง้าวจะฟันโจโฉ เล่าปี่รีบฉุดกวนอูถอยออกไป แล้วแกล้งคำนับชมเชยโจโฉว่า ฝีมือเกาทัณฑ์ของท่านสมุหนายก ยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน โจโฉก็ถ่อมตัวว่า นั่นเป็นเพราะพระบารมีปกเกล้าดอก แล้วก็สะพายพระแสงเกาทัณฑ์เฉวียงบ่า ควบม้าเข้าไปถวายบังคม แต่ก็ไม่ได้คืนพระแสงเกาทัณฑ์ให้กับพระเจ้าเหี้ยนเต้ อันนี้ถือว่าโจโฉทำหยาบช้ากับพระเจ้าเหี้ยนเต้ ซึ่งตอนนั้นทุกคนต่างก็ไม่พอใจ และพระเจ้าเหี้ยนเต้เองก็ไม่พอพระทัยในโจโฉมากขึ้น
 
อันนี้เป็นอิทธิพลของดาว ๔ เสียอีกเหมือนกัน คือลักษณะ ๔ เดินถอยหลัง เกิดการกระด้างกระเดื่องในกลุ่มที่เราปกครองอยู่ เกิดการใส่ร้ายป้ายสี เอาคนดีออกไป เอาคนร้ายเข้ามา หรือว่าชิงอำนาจกัน
 
พระเจ้าเหี้ยนเต้ เมื่อไม่พอพระทัย ก็ปรึกษาหารือกับ พระนางฮกเฮา มเหสี ว่าจะจัดการโจโฉได้อย่างไร พอดี ฮกอ้วน บิดาของพระนางฮกเฮามาเฝ้า ฮกอ้วนก็กราบทูลว่า ในพระราชสำนักของพระองค์ ล้วนแต่คนของโจโฉทั้งสิ้น นอกจากญาติทางพระมเหสีแล้ว ยากที่จะมีใครไว้วางใจได้ ข้าพเจ้าเองก็ไม่มีวาสนา เห็นแต่ขุนพลตังสิน พระญาติผู้ใหญ่เท่านั้นที่พอจะช่วยคิดอ่านได้ คืออิทธิพลของดาว ๔ หมายถึงความแตกแยกด้วย
 
ตอนนั้นเริ่มมีการแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายของพระเจ้าเหี้ยนเต้ กับฝ่ายของโจโฉ พระเจ้าเหี้ยนเต้นึกขึ้นได้ จึงตรัสถามว่า จะให้ตังสินเข้าเฝ้าได้หรือไม่ ฮกอ้วนก็กราบทูลว่า ถ้าจะให้มาเฝ้า จำเป็นต้องปกปิดเป็นความลับอย่างเข้มงวดที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเกิดอันตรายร้ายแรงทีเดียว ฮกอ้วนก็แนะนำว่า พระองค์ควรทรงอักษรแล้วซ่อนไว้ในตะเข็บเสื้อ แล้วให้หาตัวตั้งสินมาเข้าเฝ้าแล้วพระราชทานเสื้อนั้นไป เมื่อตั้งสินไปถึงบ้านแล้ว จึงให้เอาอักษรนั้นออกมาอ่าน แม้ปีศาจก็มิอาจรู้ความลับของเรา เป็นอันว่าตกลงตามนั้น
 
พอโจโฉเห็นตังสินเดินออกมา ก็ถามว่าท่านผู้เฒ่าไปไหนมา ตังสินก็อึดอัด ตอบว่า มีคำสั่งให้หาเพื่อพระราชทานเสื้อกับผ้าคาด ก็ตอบออกไปอย่างมีพิรุธ โจโฉถามต่อว่า ท่านได้ทำความชอบอะไรจึงได้รับพระราชทานของ ตังสินตอบว่า ทรงรำลึกถึงคราวที่ข้าพเจ้าพาเสด็จหนีลิฉุย กุยกี ครั้งโน้น 
โจโฉจึงให้ตังสินถอดเสื้อออกมาดู ตังสินตกใจ บิดพลิ้วไม่ยอมถอด โจโฉก็เรียกทหารเข้ามาเพื่อใช้กำลังบังคับ ตังสินจนใจ จำต้องถอดผ้าคาดยื่นให้โจโฉดูก่อน โจโฉตรวจดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ก็เอ่ยว่า ผ้าคาดนี้ก็สวยดีนะ ถอดเสื้อออกมาให้ข้าพเจ้าชมเสียหน่อย ตั้งสินตกใจแทบสิ้นสติ เกรงโจโฉจะค้นพบลายพระหัตถ์ แต่ก็ไม่อาจขัดโจโฉได้ จึงจำต้องถอดยื่นให้ โจโฉส่องเสื้อดูกับแสงอาทิตย์ แล้วตรวจตามเนื้อผ้าอย่างถี่ถ้วนก็ไม่พบพิรุธ โจโฉก็สวมเสื้อแล้วคาดผ้านั้น หันไปถามองครักษ์ว่าสวยไหม พวกทหารก็บอกว่าสวย โจโฉก็ถามตังสินว่า เสื้อนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้ไหม ตังสินก็ยิ่งตกใจ ก็บอกว่า เสื้อนี้เป็นของพระราชทาน ท่านพึงประสงค์ใคร่ได้ ข้าพเจ้าจะจัดหาตัวอื่นมาให้ โจโฉก็บอกว่า ไม่ได้เล่นลูกไม้กับเสื้อตัวนี้หรือ ข้าพเจ้าเชื่อเหลือเกินว่า ต้องมีเลสนัยอะไรสักอย่าง คือเก็บความลับไม่อยู่
 
แสดงว่าในดวงของตังสินนั้น ดาว ๔ ดับ คนที่เก็บความลับไม่อยู่ คือดาว ๑ กับดาว ๔ กุมกัน แล้วองศาดาว ๑ กับดาว ๔ นั้นห่างกันไม่ถึง ๓ องศา คือดาว ๔ ดับ จะเป็นผู้ที่ไม่สามารถเก็บความลับได้ หากพระเจ้าเหี้ยนเต้มีความรู้ในเรื่องดวงชะตาสักนิด ดูดวงตังสิน ดาว ๔ ดับคงเลิก
 
ตังสินก็ตอบว่า ข้าพเจ้านั้นหรือจะกล้าเล่นลูกไม้กับท่าน ถ้าหากท่านใคร่อยากได้เสื้อตัวนี้จริงๆ ข้าพเจ้าก็ยินดีมอบให้ โจโฉก็บอกว่า ข้าพเจ้าล้อท่านเล่นต่างหาก ของพระราชทานใครจะกล้า โจโฉก็ถอดเสื้อแล้วคืนให้ ตังสินรับของมาแล้วรีบกลับบ้าน
 
สามก๊ก, เหี้ยนเต้