คำคม..ข้อคิด

 

คำคม..ข้อคิด ๑๓
24 มี.ค. 2560

 

โพธิสัตว์, พาราณสี, พรหมทัต, ฮวงจุ้ย, โหราศาสตร์, อาจารย์แอน

 

ในนิทานชาดก กล่าวถึงนกยูงที่งดงาม ในเวลาเช้าจะท่องบ่นสาธยายมนต์ก่อนออกไปหาอาหาร เป็นมนต์ป้องกันการจับตัวของนายพราน วันหนึ่งได้ไปพบนกยูงที่แสนงดงาม มีจิตกระสันต์ลืมการท่องมนต์ วันนั้นจึงถูกนายพรานจับไปถวายพระเจ้าพรหมทัตแห่งพาราณสี นกยูงที่งดงามนั้นเศร้าใจ ไม่ยอมกินอาหาร เมื่อพระเจ้าพรหมทัตตรัสถาม จึงทูลถึงความขาดสติของตนด้วยความหลงไหลจนลืมท่องมนต์ทำให้มีภัยมาถึงตัว พระเจ้าพรหมทัตได้ฟังจึงขอให้นกยูงท่องมนต์นั้นทุกเช้า ต่อมาจึงได้ปล่อยนกยูงนั้นกลับสู่ป่าหิมพานต์ดังเดิม


บุคคลพึงไม่ลืมฝึกจิต สวดมนต์ทำสมาธิ เพื่อพ้นภัยในวัฏฎ ดังเช่น เรื่องราวของนกยูง โพธิสัตว์ ที่สมเด็จพระบรมศาสดาประทานโอวาทเหล่าพุทธบริษัทสี่อย่าได้หลงลืมสติจนภัยมาถึงตนในที่สุด ดังเช่น นกยูงนี้....

 

 

 

การทำงานอย่างตั้งใจแม้ว่าจะถือว่าต้องใช้สมาธิ การอ่านหนังสือก็ต้องมีสมาธิ การเรียนการศึกษาก็ต้องมีสมาธิฟังอาจารย์สอน การใช้ชีวิตประจำวันจะทำอะไรล้วนต้องใช้สมาธิ 


แต่สมาธิที่เรารู้จักและเป็นไปกับชีวิตประจำวันนั้น บางครั้งเราก็ไม่มีสติกำกับ ซ้ำยังปะปนด้วยคติทั้งสี่ คือ ตั้งใจด้วยความชอบ ตั้งใจเพราะกลัวคนว่า ตั้งใจเพราะถูกสบประมาท จิตมีความโกรธ ตั้งใจเพราะความอาฆาตซึ่งเป็นอกุศลจิต


ดังนั้นจึงไม่จัดว่าเป็นสมาธิที่เป็นกุศล หรือเป็นสมาธิที่จะเกิดปัญญาในทางธรรม เราจึงควรฝึกในการทำกิจทุกอย่างด้วยสมาธิที่มีสติในทุกอิริยาบท นั่งตรง ยืนตรง รู้เดิน รู้นอน รู้ว่าคิด รู้ว่าทำ และฝึกให้อยู่กับชีวิตประจำวันของเรา เริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้นะคะ จะเกิดประโยชน์ทั้งในหน้าที่การงานและการปฏิบัติ และจะรู้ว่าเราเป็นคนที่ฉับไวในการแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องค่ะ

 

 

 

วันพระวันนี้ สิ่งที่เราต้องปฏิบัติอย่างยิ่ง คือการพิจารณาออกจากตัวตนให้ได้ พูดและคิดทำเป็นเรื่องยาก ก่อนอื่น ตอบคำถามตัวเองให้ได้ชัดเจนว่า

เรา ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ให้จนถึงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้หรือไม่ เราเป็นผู้ไม่ติดค้างใคร นึกถึงความสุขของผู้อื่นก่อนเสมอ 


เราอย่าไปปะปนกัน ระหว่างการปฏิบัติในปัจจุบันกับผลกรรมในอดีต ด้วยการคิดว่า เราทำความดีขนาดนี้ ทำไมจึงลำบากและยากจน


เราลำบากเพราะวิบากกรรมทำให้คนอื่นลำบาก เรายากจนเพราะไม่เคยให้อะไรใครในอดีต


ดังนั้น เราจึงจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดีอีก ทำวันนี้ให้ดี ให้มากที่สุด ผลดีจะเข้ามามากๆเช่นกัน


ทำจิตให้ผ่องใสด้วยวิธิคิดอย่างนี้ เป็นการลดตัวตนเบื้องต้น แล้วสวดมนต์ทำสมาธิก่อนนอนนะคะ

 

 

 

อากาศร้อนจัด ฝนก็ตก รถก็ติด ชวนหงุดหงิด อารมณ์คนก็ร้อน เศรษฐกิจดูเหมือนจะดี แต่ต้องรอหน่อย 
 
ห้ามตัวเองอย่าคิดไกล แต่พอมองใกล้ตัว ก็ปวดหัวกับคนที่ความใส่ใจในงานมันน้อยลง สักแต่ว่าทำ สักแต่ว่าสั่ง ทำงานลวกๆ ตกรายละเอียด ไม่ตามงาน ประสิทธิภาพลดลง แถมใจน้อย พูดไม่ดี ผิดหู ก็ทะเลาะกัน ใจแคบ ไม่มองกว้าง
 
ปัญหานี้คงเกิดตั้งแต่ระดับประเทศ จนถึงใกล้ตัวเรา เป็นกระแสเดียวกัน
 
นอกเหนือจากการแก้ปัญหาตามหลักทฤษฏีของฝรั่งแล้ว ขอแนะวิธีแบบโบราณ คือ การจัดระเบียบภายใน ความสะอาด สร้างจุดเด่นของพื้นที่ ให้คนที่ทำงานรักองค์กรเหมือนบ้านตนเอง เพราะจะเป็นกระแสที่คนต้องรับตลอดระยะเวลาทำงาน ดังนั้น ควรดูแลให้สถานที่ของเราดูใหม่เสมอ
 
ถ้าเป็นบ้าน ทาสีใหม่ จัดวางต้นไม้ เปลี่ยนมุมการใช้งาน ด้วยการสลับที่ เปลี่ยนสีสรรของบ้านด้วย ผ้าม่าน พรมเช็ดเท้า
 
ที่ทำงาน จัดโต๊ะตามความสะดวกของงาน ให้มีระเบียบมากขึ้น โละของเก่า ซื้อของใหม่ ใส่ใจแม้กระทั่งเก้าอี้ของพนักงาน ให้อยู่สบาย
 
ทำอย่างนี้แล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ต้องปล่อยวาง ตัดทิ้งไปทั้งคนทั้งความรู้สึก กอดไว้กับตัวจนเครียดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
 
ปีใหม่ไทยคิดถึงคนในมากกว่าคนนอก ใส่ใจเขาด้วยการเริ่มที่ตัวเราให้เป็นแบบอย่าง สภาพแวดล้อมภายในภายนอกจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อพฤติกรรมของคนค่ะ
 
 
 
 
ฟ้าห้าสิบ คนห้าสิบ ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ มีขอทานนั่งอยู่สองคน ถัดไประยะหนึ่ง พระกำลังบิณฑบาตร มีชายสามคนเดินมา คนที่หนึ่งเดินเลยขอทานไปใส่บาตร คนที่สองให้ทั้งขอทานทั้งสองคน แล้วไปใส่บาตร คนที่สามบอกว่า อย่ามัวนั่งขอทานเลย โน่นแน่ะไปตัดหญ้าขนกิ่งใบไม้เถิด แล้วเดินไปใส่บาตร
 
ขอทานคนหนึ่งนั่งที่เดิม อีกคนเดินไปตัดหญ้าขนกิ่งไม้ไปขายโรงครัวทำอาหาร ได้งานทำ ในที่สุดเป็นคนมั่งมี
ฟ้าให้โอกาสในการทำบุญทำทานแก่ชายสามคน แต่ผลแห่งบุญทั้งสามไม่เท่ากัน นี่เรียกว่าฟ้าห้าสิบ คนห้าสิบ คนที่หนึ่ง ร่ำรวยแต่ขาดบริวาร คนที่สองทั้งร่ำรวยทั้งมีบริวารได้เป็นใหญ่เป็นโต คนที่สามให้ปัญญาแก่คน จึงได้อานิสงค์ของความมีปัญญาเป็นถึงปุโรหิต
 
ฟ้าให้โอกาสขอทานทั้งสอง ได้ยินคำชี้แนะพร้อมกัน แต่คนหนึ่งจน คนหนึ่งรวย นี่จึงเรียก ฟ้าห้าสิบ คนห้าสิบ
 
เมื่อเรื่องใดถึงมือ จงทำให้ดีที่สุดเพราะฟ้าให้โอกาสเราแล้ว ที่เหลือจะได้มากน้อยขนาดไหนอยู่ที่ตัวเราเองค่ะ