เมื่อเราพบอะไรที่จำเจซ้ำซาก ชีวิตทุกอย่างจำเจจนบางครั้งอยากเดินออก แต่เราก็ไปไหนไม่ได้ เพราะสติมันเตือนว่าทำไม่ได้เพราะต้องเป็นที่พึ่งของคนหลายคน ทั้งมีความจำเป็นที่ทำให้ไปไหนไม่ได้ เรามาลองไล่ความคิดของตัวเองดูว่า สมมติว่าเราตายจากตรงนี้ล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น บางทีไล่ไปไล่มา ก็จะคิดได้ว่า เอาเถอะอยู่ที่เดิมดีกว่าเจ็บดีกว่าตาย ดีกว่าไม่อยู่ และวิธีผ่อนคลายที่ดีที่สุดคือ ดูหนัง แต่อย่าไปดูหนังผี หรือดูหนังปัญหาครอบครัวนะ จะยิ่งไปกันใหญ่ ไปดูการ์ตูน หนังตลก หรือไปดูหนังที่ดาราที่คุณชื่นชอบแสดงนำ หรือไปทำในสิ่งที่คุณชอบที่สุด แล้วค่อยกลับมาจำเจกลับชีวิตประจำวันใหม่ แต่เราก็จะรู้สึกดีขึ้นนะคะ .....ด้วยความห่วงใย จาก อ.แอน

ขับรถกันเป็นใช่ไหมคะ การบีบแตรรถยนต์สามารถบอกไปถึงอุปนิสัยและยังบอกอนาคตของคนคนนั้นอีกด้วย ใครก็ตามขับรถไม่ค่อยใช้แตรรถ ใจเย็นนุ่มนวล ไม่ค่อยชอบมีเรื่องกับใคร คบใครต้องระวังมักถูกหลอกง่าย บีบแตรเมื่อจำเป็นไม่ดังเกิน ครั้งเดียวพอ เป็นคนรู้จังหวะในการทำงานสุภาพ รับงานใหญ่ได้ รอบคอบและเป็นสามีที่ดีแม้จะเจ้าชู้ไปซักหน่อย บีบแตรถี่ๆเสียงดัง ใจร้อน มักมีเรื่องเกิดปัญหากับผู้อื่นบ่อยครั้ง คนชังมากกว่ารัก มักมีปัญหากับเพื่อน และผิดพลาดบ่อย ทำงานใหญ่ไม่ได้ บีบแตรไล่หลังคนจนคนตกใจ เห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงใจคนอื่น ทำงานประชาสัมพันธ์ไม่ได้ บีบแตรทุกครั้งที่ไม่ถูกใจเมื่อรถคันอื่นมาขวาง มาปาด อย่างนี้เป็นอันธพาลชอบหาเรื่อง ใช้เงินไม่เป็น หน้าใหญ่ มักทำงานไม่สำเร็จ เราเป็นคนแบบไหนคะ อย่าเอาแตรรถออกนะ นั่นสติไม่ดีค่ะ สำหรับอาจารย์ บ้านเมืองร่มเย็น ขับรถตามกฏจราจร จะเข้าบ้านก็ลงเปิดประตูเอง ยังไม่บีบแตรเลยค่ะ เกรงใจเขา เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้คิดให้ดีก่อนบีบแตร ....มีคนดูอยู่ อ.แอนไงคะ

การเป็นคนดี ต้องเป็นคนดีจริงทั้งต่อหน้าลับหลัง ทั้งเวลาไปวัดและไม่ได้ไปวัด การไปทำงานก็แสดงความเป็นคนดีได้เช่นกัน คนดีแท้ต้องดูตอนที่ปฏิบัติกับคนที่ต่ำกว่าตน เราดีกับกับคนที่เสมอกันเพราะเกรงใจ เราดีกับคนที่เหนือกว่าเพราะเรากลัว แต่กับผู้น้อยคือตัวตนของเรา คนที่รู้จักเกรงใจแม้แต่กับผู้น้อย คือ ผู้ดี ผู้ประเสริฐที่แท้จริง ข้อสำคัญ เมื่อเราจะโพสต์หลักธรรมข้อใดลงไป ต้องแน่ใจว่าเราปฏิบัติในข้อนั้นได้แล้ว ทั้งการนำคติมาเตือนใจได้ เราก็ต้องเข้าถึงและได้ปฏิบัติตามนั้นจนเห็นผลแล้ว คือรู้หลัก ปฏิบัติธรรม และเห็นผลด้วยตนเอง ไม่ใช่หาข้อคติมาสอนคนอื่น แต่ตัวเราเองยังปฏิบัติไม่ได้ อย่างนี้ก็ไม่ได้ทั้งบุญและผลแห่งธรรมทานใดๆเลย ...อ.แอน

"ธรรมทาน" คือการนำพระธรรม คำสั่งสอนที่เราได้ปฏิบัติแล้ว เห็นผลแล้ว ไปเผยแพร่ แสดง มอบ แจก ให้กับผู้อื่น เพื่อนำไปปฏิบัติให้ได้ผลเช่นเดียวกับเรา เช่น หากเราพิมพ์หนังสือสวดมนต์แจก นั่นหมายความว่า เราเป็นคนที่สวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนเห็นผลแห่งสมาธิที่ได้จากการสวดมนต์นั้น เราจึงพิมพ์แจก อย่างนี้เรียกว่า "ธรรมทาน" จะมีอานิสงค์ให้ได้มาซึ่งปัญญา ดังที่ทรงตรัสไว้ว่า "การให้ธรรมทานนั้นชนะทานทั้งปวง" แต่ถ้าเราสักแต่ว่าให้ สักแต่ว่าสอน สักแต่ว่าพิมพ์แจก โดยไม่ได้ปฏิบัติ โดยไม่รู้คุณแห่งธรรมนั้น อานิสงค์ก็ไม่ได้ถึงปัญญาและไม่เรียกว่าธรรมทาน .. วันนี้เป็นวันพระ ขอให้ทำความดีถวาย พระ ค่ะ อนุโมทนา จาก อ.แอน

เมื่อเราจะจับงานใดก็ตาม งานใหม่งานเก่า งานของเรา งานของนาย ต้องทำให้ถึงที่สุด ทั้งต้องให้ดีและประสพความสำเร็จ ซื่อสัตย์ มีจรรยาบรรณ คำนึงถึงประโยชน์ผู้อื่นก่อนเสมอ คติดั้งเดิมที่มีมาต่างยึดถือหลักการทำงานให้ประสพผล ทั้งรักองค์กรดั่งบ้านตน พยายามรักษาให้ดำรงอยู่ คำว่าล้มละลายจึงไม่เคยเกิดในกิจการที่สืบทอดยึดหลักคำสอนคนโบราณเลย

เมื่อเราเหงาไม่รู้ทำอะไรดี เพราะขาดเพื่อน ขาดคนที่ได้ดังใจ มีหนังสือ มีหนัง มีเพื่อนในเฟสบุค ที่พิจารณาแล้วว่า "รู้กว้าง" และ"ได้ปัญญา" เราจะไม่รู้จักว่าเหงา เป็นอย่างไร และยิ่งเป็นผู้ยอมรับความเห็นของผู้อื่นด้วยแล้ว ก็จะเข้าถึงความหมายของ "ถอยหนึ่งก้าว จะเห็นโลกกว้างขึ้น" ขอบคุณเฟสบุคค่ะ ฺฺ อ. แอน

ดูการทำงานและอุปนิสัย ดูตอนขับรถ  ประเภทบีบแตรตลอดทาง เห็นแก่ตัว  ชอบเบียดแย่งตำแหน่ง คบไม่ได้  ขับรถมีจังหวะ คือผู้บริหาร  หลงทางบ่อย มักคาดการณ์ผิด  ใจลอย ตกรายละเอียด  ขับรถเร็ว ใจร้อนประเมินตัวสำคัญตนผิด  ขับรถถูกกฏจราจร ตรงไปตรงมา ไม่ชอบมีเรื่อง  ชอบผิดกฏจราจร ไม่สนใจเรื่องคนอื่น นึกถึงแต่ตนเอง นอนตื่นสาย มักทำอะไรช้า ผิดพลาดไม่ทันการ  ขับรถไม่เป็น ไม่สนใจโลกภายนอก และยังคงเปิดเมลไม่ได้เข้าเฟสบุคไม่เป็น .... อ. แอน

บางคนเสียดายสิ่งที่ผ่านมา บ้างก็เสียใจเพราะคิดว่าตัดสินใจผิด อยากย้อนเวลา เพราะเริ่มผิดหวังในปัจจุบัน จึงมีอาการซึมเซ็ง จนถึงกับอยากหาทางออกและเกิดทุกข์  มีสองทางที่จะตัดสินใจ คือ พยายามหาข้อดีปัจจุบัน หรือ พยายามย้อนกลับไปที่เดิม แล้วตั้งต้นใหม่เท่าที่จะทำได้ แต่ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด อย่าสองทาง ลังเล และสองใจ ความทุกข์จะไม่จบสิ้น แม้ว่าแต่ละทางที่เราเลือกจะต้องประสพความทุกข์ยากลำบาก เกิดเป็นคน ต้องเป็นคนจริงถึงคราวลำบากก็อย่ากลัว เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นจงรู้ว่ามาจากตัวเอง การแก้ไขต้องแก้ที่ตัวเองจึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ขอให้กำลังใจผู้ที่กำลังอยู่กับทางสองแพร่ง จาก อ.แอน

หมดไปอีกหนึ่งเดือน เคยคิดไหมว่า อยู่ไปเพื่อฆ่าเวลาไปวันๆ ถ้าคนคิดคือคนที่ทำงานตลอดเวลา ไม่ค่อยว่าง คือคนที่มีค่า คิดจะทำอะไรก็สำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม แต่ถ้าคนคิดไม่คิดทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย นี่แหละคืออยู่ไปวันๆเพื่อฆ่าเวลา โดยไม่มีคำว่าประสพผลสำเร็จเลย คิดใหม่ในมุมใหม่นะคะ ..... อ.แอน