เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา

 

"มงคลสูตร" บทสวดมนต์แปลของวัดท่าซุง
10 เม.ย. 2559

 

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสแสดงมงคลอันสูงสุด ดังต่อไปนี้

 

อะเสวะนา จะ พาลานัง             ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา

ปูชา จะ ปูชะนียานัง                 เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การไม่คบคนพาล                     การคบแต่บัณฑิต

การบูชาบุคคนผู้ควรบูชา            ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด

 

ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ              ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา

อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ                เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การอยู่ในสถานที่อันสมควร        ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่กาลก่อน    การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม       ทั้ง ๓ ประการนี้ ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ             วินะโย จะ สุสิกขิโต

สุภาสิตา จะ ยา วาจา                เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฎิบัติธรรมมาก    ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา  ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนและปฎิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี  การกล่าววาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ  แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

มาตาปิตุอุปัฏฐานัง                   ปุตตะทารัสสะ สังคะโห

อะนากุลา จะ กัมมันตา              เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การอุปัฎฐากบำรุงบิดามารดาให้เป็นสุข     การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มีความสุข    การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง  ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด

 

ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ            ญาตะกานัญจะ สังคะโห

อะนะวัชชานิ กัมมานิ                  เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การให้ทาน การประพฤติธรรม    การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย    การทำงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกและทางธรรม   แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

อาระตี วิระตี ปาปา                    มัชชะปานา จะ สัญญะโม

อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ               เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย   การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา

ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย     ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด

 

คาระโว จะ นิวาโต จะ                สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา

กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง               เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ   ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง   ความสันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพึงหาได้โดยชอบธรรม    ความเป็นผู้มีกตัญญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน   การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษตามกาลเวลาอันสมควร   แม้ทั้ง ๕ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

ขันตี จะ โสวะจัสสะตา                สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง

กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา                เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

ความเป็นผู้มีขันติความอดทน   ความเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย    การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย   การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอันสมควร    แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ            อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง

นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ                  เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การมีความเพียรเพื่อเผากิเลส   การประพฤติพรหมจรรย์คือปฎิบัติตนให้เป็นผู้ประเสริฐ  การมีปัญญาเห็นอริยสัจทั้งหลาย   การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน   แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ                    จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ

อะโสกัง วิระชัง เขมัง                     เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

การทำจิตไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรมที่มากระทบ   การไม่ทำใจให้เศร้าโศก    การทำจิตให้ปราศจากธุลีคือกิเลสทั้งหลาย   การทำจิตให้ถึงพระนิพพาน   แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด

 

เอตาทิสานิ กัตวานะ                      สัพพัตถะมะปะราชิตา

สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ               ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ

 

อนึ่ง เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เมื่อได้กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว  ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง  และย่อมถึงความสวัสดีในที่ที่ทั้งปวง    ทั้งหมดนั้นเป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล ฯ