- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
30 ส.ค. 2554
ศิษย์อีกคนหนึ่งที่รักอาจารย์
วัน..เวลา ผ่านไปอย่างสม่ำเสมอ ไม่เร็ว ไม่ช้า จะมีก็คงแต่ความรู้สึกของเราเท่านั้นที่คิดว่า เนิ่นนาน รวดเร็ว หรือมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป
ปี พ.ศ.๒๕๔๓ ผันผ่านมานานแล้ว สำหรับบางคนอาจดูว่านานนัก แต่สำหรับการได้มาเป็นศิษย์ของ อาจารย์แอน ไม่เลย มันไม่นานเลย แต่ถ้าจะให้เล่าหรือเขียนเป็นปูมบันทึกออกมา คงต้องใช้เวลาและหน้ากระดาษที่เรียงร้อยต่อกันไปถึงเวิ้งฟ้าเป็นแน่
ตลอดเวลาที่ ข้าฯ ได้รับโอกาสที่ดีมาก ๆ จากผู้ที่เป็นทั้งอาจารย์ เจ้านาย แม่ พี่สาว และในบางครั้งก็เหมือนเพื่อน สิบกว่าปีแล้วสินะ ที่ได้ทำงานช่วยเหลือในกิจการ กิจกรรมต่าง ๆ แม้เป็นเพียงศิษย์ที่เฝ้าดูแลอยู่ห่าง ๆ แต่ก็เห็นถึงปณิธานที่แน่วแน่ มุ่งมั่น และมั่นคง เพราะความคงเส้นคงวา จริยาที่เห็นมาแต่เริ่มรู้สึกจักจวบถึงวันนี้ ท่านยังคงเหมือนเดิม ถ้าจะเปลี่ยนไปบ้างก็ตรงที่ ความเมตตาที่มีให้แก่ทุกคน โดยไม่เลือกยากดีมีจน ต่างหาก ที่มากและเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ๆ ไม่เว้นแม้แต่ ผู้คิดร้าย ผู้ที่มุ่งให้ร้าย หวังทำลายท่าน
เชื่อหรือไม่ก็ตาม ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายกับ อาจารย์ ของพวกเรา อาจารย์ได้พลิกเหตุร้ายนั้นให้กลับกลายเป็นบทเรียนที่มีอยู่ในโลก และปรับให้เข้าในทางธรรม ให้ศิษย์ ได้เรียน ได้รู้ ได้ดูจิต ได้สติ ดูสิ..ช่างไม่คำนึงถึงตนเองว่า ต้องทุกข์ใจหรือไม่เพียงใด ที่ต้องนำเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นอุทาหรณ์สอนผู้อื่น เล่าครั้งหนึ่งก็เหมือนตอกย้ำในความรู้สึกลงไป แต่...อาจารย์ไม่ได้คิดเยี่ยงนั้น กลับมีแต่ให้อภัย ให้ความเมตตาต่อผู้ให้ร้าย แล้วยังหาอุบายสอนให้ศิษย์ทั้งหลาย คิดและทำ ให้ได้เช่นเดียวกับอาจารย์ มองโลกให้เป็นธรรม (เพราะศิษย์ทั้งหลายเป็นเดือดเป็นแค้นกันมาก ที่เห็นอาจารย์อันเป็นที่รักถูกคนชั่วรังแกครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะความชั่วของคน ๆ นั้นได้ซึมแทรกเข้าไปในไขกระดูกยากเยียวยา จึงเลวแล้วเลวอีก แต่อาจารย์ก็ให้อภัยตลอด ฮึ.. ) แปลกไหม ไม่เลยคะ นี่แหละ..คือ จริยา ที่ข้าฯ เห็นมาตลอดตั้งแต่ที่ได้มาเป็นศิษย์ของท่าน บุคคลภายนอกที่ไม่เคยสัมผัสความเป็น อาจารย์ มักมีคำพูด ที่นินทา ส่อเสียด ให้ร้าย ทำลายชื่อเสียง กล่าวถึงในทางที่ไม่ดี ข้าฯ ฟังแล้ว ก็ตอบเสมอว่า สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนั้น หากวันไหนข้าฯ เห็น ได้ยิน ได้พบเจอ จะกลับมาบอก นี่ก็ผ่านไป ๑๐ กว่าปีแล้ว ข้าฯ ยังไม่มีโอกาสได้บอกใครเลย เพราะยังไม่เจอในสิ่งที่เขานินทา ให้ร้ายกัน
ในทางกลับกัน ข้าฯ กลับเล่าในสิ่งที่ อาจารย์สั่งสอน อบรม บ่มเพาะนิสัย ให้เรารู้จักคิด รู้เลือกที่กระทำกรรมดี กรรมอันเป็นกุศล ปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทำสิ่งใดให้นึกถึงผู้อื่นก่อน สอนสั่งในการทำนุบำรุง สืบสานพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนที่พระพุทธองค์บรมศาสดาเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ ฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาติที่ควรรักษา (มีอะไรบ้างที่อาจารย์ให้นั้น ศิษย์ท่านอื่นๆ ได้บรรยายไว้แล้ว แต่ก็ไม่เท่าที่อาจารย์ได้ทำให้แก่ศิษย์เลย) สานต่อหลักวิชาของบูรพาจารย์ โดยเฉพาะ วิถีแห่งธรรมชาติ ธรรมชาติก่อเกิดสรรพสิ่ง มนุษย์เราก็เป็นส่วนหนึ่งธรรมชาติ หากไม่เรียนรู้และไม่เข้าใจ แล้วจะเข้าถึงธรรมได้อย่างไรกัน ที่เขียนมา ข้าฯ ก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าใครหรอก ยังคงอยากฟัง อาจารย์ พร่ำสอนไปอีกนาน ๆ
ข้าฯ เป็นคน พูดไม่เก่ง เขียนไม่เก่ง เรียนไม่เก่ง ถ้าเทียบเป็นเกรดคงติด F ทุกกระบวนวิชา แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าฯ คิดว่าไม่น้อยหน้าศิษย์ท่านอื่น คือ การได้ช่วยเหลือในปณิธานของอาจารย์ (แม้จะน้อยนิดก็ตาม) ด้วยจิตที่รักและปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข เป็นสิ่งที่อาจารย์ปลูกฝังให้ข้าฯ น้อมนำมาปฏิบัติ เป็นสัจจะที่มอบแด่ผู้เป็นอาจารย์ เสมอมา
ข้าฯ อยากบอกว่า “อาจารย์คะ รอยยิ้มของอาจารย์ ทำให้ศิษย์มีกำลังใจที่จะก้าวมุ่งไปข้างหน้า แต่หากเป็นคราบน้ำตา ศิษย์คงไม่เหลือเวลาจะที่หายใจ”
ในวาระนี้ ที่พวกเราได้จัดให้มีพิธีไหว้ครูโหราศาสตร์ ซึ่ง ๕ ปีจึงมีครั้งหนึ่งขึ้นนั้น เสมือนเป็นพิธีที่ให้เหล่าศิษย์ทั้งหลายได้มีโอกาสแสดง ความเคารพ ความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดี ซึ่งมีศัพทหรู ๆ ว่า “กตัญญูกตเวทิตา” ศิษย์ไม่มีสิ่งใดมอบเป็นของขวัญแทนใจ แทนความรู้สึก นอกจาก เรียงความที่วกไป วนมา ตามประสาจิตฟุ้ง ๆ ของศิษย์คนนี้ อยากบอกว่า ศิษย์ไม่ได้ละเลยในคำสอน เพียงแต่ศิษย์อยากถ่วงเวลาให้อาจารย์อยู่กับพวกเรานาน ๆ หากแต่มาคิดอีกที ศิษย์ช่างเห็นแก่ตัวนัก ที่คิดแต่จะรั้งอาจารย์ไว้ (เอ๊ะ..ตกลงจะเอาไงกันแน่นะเรา) สรุปเป็นว่า อาจารย์ถึงไหน ศิษย์จะตามให้ถึงที่นั่น นี่คือคำสัตย์ ด้วยสัจจะที่ได้ปวารณาตนช่วยเหลือในปณิธานทั้งหลายทั้งมวลของ อาจารย์แอน ผู้เป็นที่รักยิ่งของศิษย์คนนี้
อาจารย์ของนก
เมื่อแรกที่ได้ยินคำกล่าวที่ว่า ผู้ให้มักจะเป็นผู้ได้เสมอ ก็เกิดอาการงง ๆ เล็กน้อยว่า จริงหรือ แต่เมื่อได้มาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แอน ได้เห็นจริยา ได้รับรู้แนวความคิดของอาจารย์ ก็เลยตระหนัก การเป็นผู้เป็นให้นั้น หากเป็นการให้อย่างจริงใจ อย่างไม่หวังผลตอบแทน ก็จะ “ ได้ ”กลับมาจริง ๆ
ทำไมน่ะหรือคะ
ก็เพราะว่า ตลอดระยะเวลายาวนานนับสิบปีที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แอนมานั้น สิ่งที่เห็นตลอดมาก็คือ ความคิดที่จะทำเพื่อคนอื่นได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง สมกับที่อาจารย์เคยกล่าวว่า เมื่อทำสิ่งใดลงไปแล้ว ก็สามารถพูดกับตนเองได้อย่างเต็มปากว่า เราทำเต็มที่ เต็มความสามารถของเรา ไม่มีอะไรติดค้างอยู่ในใจให้กังวลแล้ว
เป็นวิธีการสอนผ่านการกระทำให้เหล่าศิษย์ได้ทราบว่า หากจะทำอะไรจงทำให้ถึงที่สุดของความสามารถของเราในการที่จะทำให้ผู้อื่นได้ประโยชน์
อาจจะเป็นด้วยแนวคิดเช่นนี้ อาจารย์จึงสามารถที่จะพูดกับเหล่าศิษย์เสมอๆ ว่า เราจะไม่มีวันดีขึ้นหรือเลวลง ด้วยลมปากคนอื่น หากเราดีอยู่แล้ว แม้มีคนชมเราก็ดีอยู่อย่างนี้ล่ะ แต่หากมีคนตำหนิ เราก็ไม่ได้เลวลงด้วยคำติเตียนเหล่านั้นเลย
เห็นสาส์นที่อาจารย์แฝงมาหรือเปล่าคะ
เมื่อเราเพียรทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นอย่างเต็มความสามารถ แล้วจงมั่นใจในความดีนั้นของตน นั่นย่อมหมายถึง เป็นการกระทำโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เป็นการ “ให้”อย่างแท้จริง บริสุทธิ์ มุ่งมั่น จริงใจ
หากเราทำได้ สิ่งที่ได้ตามมา คือ นึกถึงตนเองน้อยลง กลับเป็นการคิดถึงผู้ก่อน เริ่มเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ด้วยแนวคิดเช่นนี้ มีหรือที่คนอื่นจะสัมผัสไม่ได้ มีหรือที่ผู้อื่น จะไม่ทำเช่นนั้นเป็นการตอบแทน เป็นการ “ได้”ด้วยการ “ให้”จริง ๆ แต่ทราบกันหรือเปล่าคะว่า การให้เช่นนี้อาจารย์ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง แน่นอน แทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว พร้อมเสมอในการให้คำแนะนำ ปรึกษา แต่อาจารย์ก็ยังมุ่งมั่นในการทำความดี ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ผ่านเข้ามา อาจารย์ศึกษาค้นคว้าอยู่ตลอดเวลา คิดอยู่เป็นเนืองนิจที่จะให้ประโยชน์กับผู้อื่นซึ่งไม่ใช่หมายถึงเฉพาะเหล่าศิษย์เท่านั้นนะคะ
เพราะตระหนักรู้ในสิ่งเหล่านี้ที่อาจารย์ทำมาเป็นนิจสินนั้น ประทับลงไปใน “ใจ”คำสอนที่ผ่านมาทางวาจาหรือการกระทำล้วนมีค่าเสมอ มีคุณค่าในทุกเรื่อง ยิ่งใช้ปัญญาพิจารณาก็ยิ่งสว่าง ยิ่งได้ปัญญา เหล่าศิษย์จึงเคารพรักใคร่อาจารย์ อยู่เคียงข้างอาจารย์ในทุกสถานการณ์ไม่เคยหนีหาย พร้อมจะสนับสนุนอาจารย์ในทุกด้าน อาจารย์ไปไหนเราไปด้วย อาจารย์ทำอะไรเราทำด้วยขอให้ออกปากมาเถิด ไม่เคยปฏิเสธกันเลย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเสี้ยวเดียวในความเป็น “ผู้ให้”เป็น “อาจารย์”อย่างแท้จริง เป็นผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้ยกย่อง ในชีวิตของคนๆหนึ่ง ได้เกิดมาพบกับผู้มีคุณสมบัติเช่นนี้ นับเป็นโชคอันมหาศาลจนประกาศได้เลยว่า “ภูมิใจที่ได้เป็นศิษย์ของอาจารย์ ”
ถึงเวลาแล้วใช่ไหมที่เราต้องมาแสดงความรัก และระลึกถึงคุณของอาจารย์ในวันไหว้ครู ที่จะถึงนี้ วันที่ ๔ กันยายน ศกนี้ มาช่วยกันบอกให้อาจารย์รู้ว่าเรารักอาจารย์ อาจารย์คงยินดีที่จะได้พบกับศิษย์ทุกคนทุกรุ่นครับ
ปิยพัฒน์ เต็มเจริญ
ตัวแทนคณะศิษย์
๓๐ สิงหา ๕๔