ประวัติและผลงานของอาจารย์แอน

 

บทความจากลูกศิษย์ (ตอน ๓) เนื่องในพิธีไหว้ครูโหราศาสตร์โหราศาสตร์ อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน) วันที่ ๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔
29 ส.ค. 2554

 

 

 

ตอนที่ ๓

 

 

แด่อาจารย์ที่เคารพรักของพวกเรา

            บทเริ่ม

           ผม วัชระพงษ์ ครับ มาพบและรู้จักอาจารย์ด้วยความบังเอิญโดยแท้จริง ผมได้ฝังรายการวิทยุที่ท่านจัดขึ้นมีเนื้อหาที่แตกต่างจากรายการทั่วไปและมีบรรยายธรรม ด้วยฟังแล้วตรงใจมากในเวลานั้น และมีการเปิดสอนโหราศาสตร์, ฮวงจุ้ยสร้างเมือง เต็มเวลา ตอนเย็นเรียนธรรม เวลาเรียนในช่วงต่าง ๆ อาจารย์จริงจังมากและพาพวกเราออกนอกสถานที่เรียนทำเลในที่ต่าง ๆ ทั้งในเมืองและนอกเมืองได้ความรู้ความเข้าใจในสถานที่ ความเป็นมาประวัติศาสตร์ของที่นั้นพวกเราได้ติดตามอาจารย์ไปในสถานที่ต่าง ๆ มากมายและท่านนำพวกเราทั้งหลายถือ ศีล ๕ ทำทาน สอนธรรม สอนสมาธิ และอธิบายในข้อธรรมที่พวกเราเหมือนจะเข้าใจในข้อธรรมนั้น แต่กลับไม่เข้าใจเลยสักข้อหนึ่งก็หามีไม่ยังไม่สามารถปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร
 

            ปัจจุบัน
 

ตั้งแต่วันนั้น ผม ได้ติดตามอาจารย์มาเป็นเวลาหลายปีได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคลต่อตัวเองเสมอมาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งวิชาการที่อาจารย์สอน เรียนการใช้ชีวิตที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมโดยรวมไม่เอาลัดเอาเปรียบผู้อื่นทำให้ตัวเองมีค่าต่อสังคมแวดล้อม มีเพื่อนที่ดีมากมายที่มีคุณธรรมไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่เคยได้รับเลย แต่ก่อนมีเพื่อนมากมายเช่นกันแต่ทุกคนก็คอยมองหาผลประโยชน์แก่กันไม่มีคุณธรรมกันเลยได้ของสิ่งใดมามักจะหาประโยชน์ก่อนและแย่งชิงกันเสมอ    
 

ผมบอกได้ว่า อาจารย์ ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถมาก สมกันที่เราเรียกท่านว่า “ อาจารย์”  สิ่งหนึ่งที่ผมได้พบเห็นและอยู่ในเหตุการณ์มาแต่ต้นเรื่องเลย อาจารย์ท่านได้ประสบกับปัญหาทางครอบครัวของท่านคือ ท่านและบุตรสาวของตนเองออกจากบ้านที่อาศัยอยู่โดยไม่มีอะไรติดตัวออกมาแม้แต่เงินเล็กน้อยก็ตามที่ ทำให้ท่านและบุตรสาวมีความลำบากมาก ทั้งยังถูกรังควาญมุ่งร้ายให้ร้ายป้ายสี ทำลายชื่อเสียงของอาจารย์ ถึงขนาดส่งจดหมาย ทำลายชื่อเสียง แม้แต่ลูกสาวก็โดนทำร้ายจิตใจไม่ละไม่เว้น ตลอดมาจนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เลิกรา  อาจารย์ต้องเผชิญปัญหาคดีความ ซึ่งปัจจุบันต้องขอประกาศให้ทราบ ตามที่มีคนบอกว่าให้ตามว่าคดีไปถึงไหน ขอตอบตรงนี้ว่า อาจารย์ของเราขาวสะอาดหมดจด หมดคดี ทุกคนเข้าใจอาจารย์ แม้พวกเราเหล่าศิษย์ยังไม่มีใครสามารถรู้เรื่องราวที่ชัดเจนทั้งหมดเพราะอาจารย์ท่านไม่ยอมบอกใครเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้เวลาหนึ่ง จนศิษย์ใกล้ ชิดบางคนสงสัยอาจารย์ท่านจึงอธิบายให้ฝังความเป็นมาทั้งหลายทั้งปวงอย่างชนิดที่หลีกเลี่ยงการตำหนิผู้หนึ่งผู้ใด  เมื่อมีศิษย์บางท่านอัดเสียงทั้งหมดที่บรรยายความไม่ดีของอาจารย์   อาจารย์ก็ยังเสนอนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมศิษย์ ให้ศิษย์ทุกคนได้ฟังและตัดสินว่าอาจารย์สมควรเป็นอาจารย์ของพวกเราต่อหรือไม่ แต่ทุกคนก็มีความเห็นตรงกันทั้งหมดว่า อาจารย์กล้าที่จะเปิดเผยคำกล่าวร้าย กล่าวหาทั้งหมด กล้าให้ศิษย์ทุกคนได้ยินได้ฟังทั้งหมด แต่ ..ศิษย์ฟังแล้วก็ด่าคนที่เอ่ยวาจาอย่างนี้ออกมาได้ ทั้งคิด รวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมให้อาจารย์ แต่ อาจารย์ห้ามปรามและไม่ติดใจใดๆ แม้จะให้ร้ายอย่างรุนแรงใดๆก็ตาม  ทั้งโยนความผิดต่างๆให้อาจารย์ของเรา อาจารย์ก็ไม่เคยโต้ตอบ ยังก้มหน้าก้มตาทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อศิษย์ต่อไป แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นขบวนการหลอกลวง ทั้งที่อาจารย์ไม่เคยเรียกร้องอะไรกับสาธารณะชน มีแต่เราคณะศิษย์ที่ร่วมกิจการงานบุญของอาจารย์โดยสมัครใจ ไม่มีการเรี่ยไรใคร เราทำกันเองภายในหมู่ศิษย์เท่านั้น

 

อาจารย์ เป็นผู้มีความความอดทนและไม่คิดจะทำร้ายต่อผู้ใดเลย “พฤติกรรมนี้อาจารย์ท่านแสดงให้ศิษย์ทุกคนดู”  ว่าคนที่ทำความดีจนถึงที่สุด แม้มีคนที่คิดร้ายจะแพ้ภัยที่ตัวเองก่อนเสมอ แม้ผมเป็นคนหนึ่งที่รับไม่ได้กับการกระทำที่ไม่เป็นธรรม อาจารย์ก็สอนว่า จงพิจารณาตนเองก่อนเสมอว่าเราผิดใหม่ ให้ดีอยู่ที่เราคนอื่นเป็นอย่างไรอย่าสนใจ คำกล่าวร้ายต่อบุคคลที่สามไม่เคยออกจากปากของอาจารย์แม้สักครั้งเดียว และคุณธรรมเช่นนี้พวกเราได้รับรู้และได้เห็นในสิ่งที่อาจารย์สั่งสอนและสามารถ ปฏิบัติเป็นตัวอย่างได้จริงๆ เป็นที่เคารพของศิษย์ทุกคนอย่างหมดใจ และผมขอบอกว่า ผมเป็นลูกผู้ชายตรงไปตรงมา  ยังนับถืออาจารย์ และบอกได้เต็มปากว่าอาจารย์ไม่เคยหลอกลวงใคร ไม่ปิดบังทั้งความดีความชั่ว   แม้ตนกระทำผิดก็รับผิด ดีกว่าคนบางคนที่ทำร้ายผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งไม่เลิกรา  คุณท้อป เป็นศิษย์คนหนึ่งส่งเสริมปณิธานของอาจารย์ทั้งดูแลอาจารย์ของพวกเราไม่ให้ใครเข้าไปหาเรื่องได้อีก พวกเราเหล่าศิษย์ขออนุโมทนาในกุศลที่ คุณท้อปได้กระทำในทุกเรื่องที่เป็น คดีความ ที่อยู่อาศัย รายการวิทยุ ทีวี และสื่อธรรมะต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยอาจารย์ท่านเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธองศ์ที่อาจารย์นำมาสั่งสอนพวกเราทั้งหลายและในวงกว้าง

           

เวลานี้ท่านได้รวบรวมศิษย์เด็ก (ลูกหลานของลูกศิษย์) มาทำการฝึกเรียนสมาธิ สติ กิจกรรมงานกุศล การแต่งตัว การวางตัวในสถานที่ต่าง ๆ การทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อที่จะเป็นคนดีและสั่งสอนเด็กรุ่นหลังได้ต่อไป ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็เรียนธรรมะ และปฏิบัติฆราวาสธรรม กันต่อไปให้มาก ความก้าวหน้าสิ่งใดยังไม่รู้กระจ่างชัดสามารถเรียนถามท่านได้ ทุกคำถามจะมีคำตอบที่ชัดเจนและข้อแก้ไขที่เราสามารถจะเดินต่อได้อย่างไม่ติดขัด ข้อธรรมที่ได้มาต้องฝึกฝนเป็นประจำจึงจะได้ผลตามที่ต้องการถ้าไม่ก็จะลืมเข้าไม่ถึงข้อธรรมนั้น ๆ อาจารย์ท่านจึงเรียกพวกเรามาประชุมฝึกฝนกันในวันที่นัดหมายจะได้เรียนรู้ข้อธรรมมาก ๆ และปฏิบัติเป็นวิสัยจึงสำเร็จจุดหมายปลายทาง


      

     

ความคิดส่วนตัว ผม ถ้าพวกเราไม่มีอาจารย์  อาจารย์ไม่อดทนต่อความทุกข์ยากแสนสาหัส ไม่อดทนต่อคำนินทาว่าร้าย ยุติการกระทำอันเป็นประโยชน์ต่อศิษย์ทั้งหลายอย่างที่เป็นมา พวกเราคงต้องเสียใจที่ต้องสูญเสียบุคคลากรอันมีค่า ทั้งเป็นที่รักอย่างยิ่ง ”เป็นบุคคลสำคัญทางด้านความรู้และความสามารถในด้านต่าง ๆ”  ของศิษย์ แต่นี่ท่านอดทนกล้ำกลืนความทุกข์ทั้งปวงที่ประดังประเด ฝ่าคำนินทาว่าร้ายอย่างหยาบคาย  ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ต่อไป ท่านบอกว่า แม้เหลือศิษย์เพียงคนเดียวท่านก็จะสอน เวลานี้ ท่านได้สั่งสอน วิชาการทุกแขนง พุทธศาสตร์ ,จริยาธรรม ,สมาธิ ,โหราศาสตร์ ,ฮวงจุ้ย ,และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหาอาจารย์ท่านใดมาสอนสั่งอย่างนี้อีกหามีได้ยากยิ่งนัก และที่เสียใจมากที่สุดคือตนเองมาได้ พบกับผู้เป็นอาจารย์ในเวลาอันสั้นเสียเหลือเกิน  ผมมีปัญญาอันน้อยนิด มีโชคได้เรียนรู้วิชาจาก อาจารย์ที่ถ่ายทอดมาหลายวิชายังมิได้มีรู้ความแตกฉานของบทเรียนที่มาความเป็นมาอันยาวนานและลึกซึ้งยิ่งนัก  ใครหนอมาว่าอาจารย์ของเรา “จอมปลอม” ช่างโง่เง่าเสียจริง ใครจะมีความรู้ได้ลึกซึ่งในศาสตร์หลายแขนงได้เช่นนี้อีก ผลงานของอาจารย์เป็นที่ประจักษ์แก่ตาของศิษย์ตลอดเวลาอันยาวนาน ทั้งสู่สายตาคนภายนอก อาจารย์ทำงานหนักไม่เคยหยุด ผมยินดีกับความจอมปลอมอย่างบัณฑิตมากกว่า คนจริงที่เป็นพาลคอยแต่ด่า คอยแต่ส่งจดหมายให้คนโน้นคนนี้ ขอบอกว่าไม่ต้องส่งมาอีก เราเอามาอ่านกันหมดทั้งคณะศิษย์แล้ว ไม่มีอะไรใหม่

 

เมื่อไรก็ตามถ้าอาจารย์ จากไปแล้วดังคำว่า “ ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ” ทางหนึ่งศิษย์เองยินดีกับอาจารย์ที่จบสิ้นภารกิจที่ยาวนานในโลกนี้และเป็น สุขสงบ, สว่าง, สะอาด ในโลกหน้าอย่างที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่เนื้อแท้เราเองก็ต้องประสพกับความเสียใจอย่างสุดซึ้ง วันนี้อาจารย์สอนให้เราเร่งทำดี เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ สิ่งที่อาจารย์สอนไว้มีมากมายนัก เช่น สติ,สมาธิ,ทำบุญให้ถึงพร้อม,สะสมปัญญาธรรม,ไม่ทำบาปทั้งปวง, และเตรียมตัวที่จะจากไปจากโลกนี้เช่นกัน สิ่งที่ท่านเป็นห่วงศิษย์มากที่สุดคือพวกที่ยังไม่พร้อมที่ไปและไม่เข้าใจในคำแนะนำ ที่ปฏิบัติเพื่อเป็นหนทางที่จะไม่กลับมาเกิดอีกต่อไป ส่วนตัวผมเองเข้าใจบ้างถึงจะไม่มากแต่ก็ตั้งใจปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านมาตลอดและจะทำให้มากขึ้นอีกจนกว่าจะหมดภารกิจทางโลกและทางธรรมดังที่ท่านให้พรเสอมมา ผมตั้งใจไว้อย่างนั้นถ้าทำสำเร็จผมคงจะได้พบกับอาจารย์อีกครั้งในโลกหน้าเพื่อฝังคำสั่งสอนของท่านอีกจนกว่าจะสู่แดน “นิพพาน”

ขอบคุณมากครับ อาจารย์ทุกท่านในอดีตตลอดถึงบูรพาอาจารย์, อาจารย์ษณอนงค์ คำแสนหวี ที่คอยดูแลและสั่งสอนให้ศิษย์มีความรู้ในวิชา ที่ใช้ต่อสู้กับอวิชชา กิเลสของตัวเองจนกว่าจะเรียนจบ ทาน, ศีล, บารมีธรรม ถึงพร้อมได้ดวงตาเห็นธรรมปรมัติ เขาถึงอริยะวิถี

 

                                                                        จาก ศิษย์ วัชระพงษ์  เวียงสุขไพบูลย์ 

 

 

 

กราบ อาจารย์  ที่เคารพ

 


ขออาจารย์ อนุเคราะห์ข้อเขียนนี้ เพื่อผมจะได้ปรับปรุงให้ละเอียดขึ้น  

วันนี้ผมจะเป็นยังไง ถ้า เมื่อวานไม่เดินตามอาจารย์ 

ผมรู้แต่พรุ่งนี้จะเป็นยังไงถ้าวันนี้ไม่ได้เดินตามอาจารย์   ผมไม่รู้

เคยได้ยินหมอพูดว่า..เด็กถ้าหูหนวกก็จะเป็นใบ้ไปพร้อมกัน

เพราะสมองไม่สามารถเรียงเสียงได้ จึงออกเสียงไม่ถูก

ที่ผมเขียนว่าวันนี้เป็นยังไง.. เพราะได้ติดตามอาจารย์ ได้เรียนวิชา

ที่อาจารย์สอนเป็นระยะเวลาที่มากพอสมควร ได้เรียน ได้รู้

ได้เห็น ได้ยิน ได้สัมผัส ได้คิด ได้มากมาย  พอที่จะพูดได้ว่า

ถ้าผมเป็นอาจารย์ของสมบูรณ์ ผมจะภูมิใจที่ได้สอน+สั่ง
 

ไม่เสียเปล่า ผมโง่เขลา แต่ก็สามารถนำสิ่งที่อาจารย์สอนไปปฏิบัติสามารถสงบใจให้โกรธน้อยลง เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และสามารถปลอยวางเรื่องทั้งหลายด้วยคำว่า “ช่างมัน” และให้อภัย เหมือนที่อาจารย์ได้เป็นตัวอย่างให้เราตลอดมา
 

ผมเคยถูกหลอกให้ซื้อผลไม้เป็นลังๆ ผลไม้นั้นเน่าเสียทั้งหมด ตอนแรกผมโกรธมากแต่ผมเป็นศิษย์อาจารย์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอาจารย์อาจารย์ยังทำใจได้  สอนให้เมตตา คิดถึงใจเขาใจเรา  ผมก็คิดบ้าง ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้เขาก็คงขาดทุน สวนส้มไม่ทำแบบนี้สวนก็คงขาดทุน ให้จบที่ผมดีกว่า  ไม่ต้องต่อกรรมไปอีก

การที่ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้มีประสงค์จะติติงท่านใดในเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่ที่ต้องกล่าวถึงเพราะผมต้องการแสดงให้เห็นว่า หลังจากได้รับการอบรมบ่มสอนจากอาจารย์แล้ว ผมมีวิธีคิดเพื่อให้การดำเนินชีวิตของผม มีความสุขขึ้น ไม่ต้องการให้กระทบกระทั่งกับผู้ใด แล้วผม..กับศิษย์ท่านอื่น ๆ ก็อยู่ร่วมเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน ด้วยความเข้าใจ ผมเข้าใจนะว่า ทุกคนต่างมีที่มาที่แตกต่างจึงทำให้ คำพูด ความคิด การกระทำ และวิถีที่ดำเนินนั้น ไม่เหมือนกัน ต่างคิด ต่างทำ ต่างใจ นี่แหละ...ที่ผมจะบอกว่า ผมได้ครูดี ที่สอนผมได้ และอดทนที่จะสอนสั่งผมในทุก ๆ เรื่องครับ
 

วันนี้แสงแห่งปัญญา  ได้สาดส่องมาถึงใจของผมแล้ว ขอบคุณ อาจารย์แอน ที่เมตตาแก่ศิษย์คนนี้ตลอดมา 

ข้อเขียนนี้ถ้าไม่เข้าท่า ผมต้องขอให้อาจารย์อนุเคราะห์ผมต่อไป เพื่อปัญญาจะได้เกิดแต่ถ้าใช้ได้ ผมยิ่งต้องขอให้อาจารย์อนุเคราะห์และส่งเสริมผมต่อไป เพื่อจะได้มีปัญญาที่เพิ่มขึ้น

 

สมบูรณ์  สุวรรณอุดมกิจ

 

โปรดติดตามตอนต่อไป