ประวัติและผลงานของอาจารย์แอน

 

บทความจากลูกศิษย์ (ตอน ๒) เนื่องในพิธีไหว้ครูโหราศาสตร์โหราศาสตร์ อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน) วันที่ ๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔
29 ส.ค. 2554

 

 

 

(ตอนที่ ๒)
 

กราบอาจารย์ษณอนงค์  คำแสนหวี ที่เคารพอย่างสูง
 

            จดหมายฉบับนี้  ศิษย์เขียนขึ้นมาด้วยประสงค์เรียนให้อาจารย์ทราบว่า ศิษย์ยังคงจะระลึกถึงอาจารย์ตลอดไป  แม้ว่าอาจารย์จะพูดขู่เราเสมอ ๆ ว่าให้เร่งรีบปฏิบัติ วันใดที่ไม่มีอาจารย์ เดี๋ยวจะไม่มีใครสอนพวกเราอย่างนี้  ศิษย์ก็ยังแอบคิดว่าแม้ว่าอาจารย์จะจากไปจริงๆ อย่างที่สอนให้เราต้องคอยมรณานุสติเสมอ ๆ  ถ้าถึงวันนั้น  ความอาลัยรัก  ความเสียดาย และความเศร้าเสียใจย่อมเกิดแก่บุคคลทุกคนที่ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์  หรือแม้ไม่ได้เป็นศิษย์โดยตรง เพียงมีโอกาสได้รู้จัก ย่อมอาลัยรัก และ ผูกพันในอาจารย์อย่างยิ่ง จนไม่สามารถปฏิบัติอะไรให้ได้เพิ่มเติมไปกว่าที่เป็นอยู่ที่มีอาจารย์คอยนำทาง
 

ปฏิปทา และ คุณความดีที่อาจารย์ได้กระทำ ตลอดระยะเวลาที่ศิษย์ได้เห็น จวบจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตั้งมั่นอยู่ในหลักคำสั่งสอนแห่งองค์สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทั้งการมุ่งมั่นปฏิบัติตนเอง ด้วยสัจจะที่แน่วแน่ และขันติธรรมอันมั่นคง  รวมถึงแนะนำสั่งสอนให้ศิษย์ให้ปฏิบัติตาม ยังมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้คนโดยทั่วไป แก่ครอบครัว สังคม อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย  ความเมตตาที่อาจารย์มีให้แก่บุคคลใกล้ชิด  บรรดาศิษย์ และแม้บุคคลโดยทั่วไปนั้น  มีมากล้น  จนหลาย ๆ ครั้ง ได้กลับกลายเป็นความเมตตาที่ได้ย้อนกลับมาทำร้ายจิตใจของอาจารย์เอง  จนได้รับความทุกข์ใจอย่างยิ่ง  แม้กระนั้นอาจารย์ยังได้กรุณานำเอาบทเรียนจากความทุกข์ของอาจารย์มาค้นหาวิธีการแก้ไข  ด้วยการบำเพ็ญอภัยทาน  ซึ่งยากที่บุคคลโดยทั่วไปจะกระทำได้สำเร็จ อีกทั้งยังนำมาแนะนำสั่งสอนศิษย์ให้รู้ถึงการเดินข้ามปัญหาอย่างคนเข้าใจธรรมดาของโลกธรรมแปด ฝึกหัดที่จะมีความอดทน ฝึกหัดวิธีการปล่อยวาง เพื่อการสู่ความดับไม่มีเชื้อ
 

วิธีการแก้ปัญหาใด ๆ  อาจารย์ใช้วิธีการประดุจดังแม่พระ  คือไม่กล่าวโทษโจษจันผู้อื่น  แต่กลับมาพิจารณาเพ่งโทษโจษจันตนเอง  ทั้งนี้เพื่อให้สรรพปัญหาจบลงอย่างไม่มีเจ้ากรรมและนายเวร  อาจารย์เคยสอนว่า สิ่งใดก็ตามที่เราต้องทุกข์เพราะเหตุจากผู้ใดผู้หนึ่ง  ขอให้คิดว่าในเวลานั้นเราได้ชดใช้กรรมเก่าที่เคยล่วงละเมิดกันไว้  การไม่ตอบโต้  เป็นการชดใช้  หนึ่งภพหนึ่งชาติ  จนกว่าจะหมด  และ หากเราต้องการจะดับอย่างไม่มีเชื้อเกิด  เราก็ต้องถามตัวเองว่า เราจะสร้างกรรมเวรต่อกันไปอีก  หรือ เราจะจบลง ด้วยการยอมรับสภาพผลที่ได้รับอย่างเข้าใจ คือชดใช้ไป “หนึ่งเรื่องคือหนึ่งภพหนึ่งชาติ ” 
 

และด้วยศรัทธาที่ศิษย์มีต่ออาจารย์ เป็นศรัทธาที่เป็นอจลแล้ว คือเป็นศรัทธาที่แน่วแน่ต่อปฏิปทาของอาจารย์  และศรัทธาต่อคุณความดีที่ได้เห็น ได้รับ ได้สัมผัส จากผลงานต่าง ๆ ที่ปรากฏต่อสาธารณะ   ทำให้พวกเราเหล่าศิษย์ทั้งหลายควรน้อมจิตระลึกถึงคุณของอาจารย์  ตลอดจน คุณความดีของอาจารย์ที่มีต่อศิษย์ และครอบครัวของศิษย์   ไม่ว่าจะเป็นสรรพวิชา ทั้งทางโลก และทางธรรม พวกเราจะจดจำและนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อครอบครัว สังคม  ตามแบบอย่างที่อาจารย์ได้สอนสั่งไว้  ตลอดไป
 

หากศิษย์ และ ครอบครัว ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน ต่อท่านอาจารย์ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี  ทั้งที่เจตนา ไม่มีเจตนา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ศิษย์และครอบครัว ขอถือโอกาสนี้ ขอขมากรรมต่อท่านอาจารย์  และขอให้อาจารย์ได้โปรดอดโทษ ให้แก่ศิษย์และครอบครัว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด
 

ท้ายนี้ ศิษย์และครอบครัว ขออนุโมทนา กราบขอบพระคุณ ในคุณความดีทุกสิ่งทุกอย่างทั้งที่ได้กล่าวถึงในที่นี้ และไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้  ที่อาจารย์ได้มอบไว้แก่สรรพสิ่งในโลกใบนี้  ขอคุณความดีทั้งหลายทั้งปวงจงมารวมกันเป็นพลวปัจจัยส่งให้อาจารย์สู่แดนนิพพาน ตามที่ได้ปรารถนา เทอญฯ

                                                                                                                                                                               ด้วยความเคารพอย่างสูง                                                                    

                                                                                                                                               อุสา  ธีรนิพัทธ์ และ ครอบครัว

 

 

 

เรียนอาจารย์แอนที่เคารพ
 

            ดิฉันเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่เหมือนอีกหลาย ๆ คน รู้จักอาจารย์แอนทางวิทยุ ด้วยความบังเอิญที่หมุนคลื่นวิทยุจากรถยนต์ ประมาณปี ๒๕๔๗ เวลา ๒ ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงที่อาจารย์กำลังบรรยายธรรมเล่าเรื่องในพระพุทธศาสนา ขณะกำลังจะขับรถออกจากที่ทำงานที่จังหวัดชลบุรี กลับบ้าน เสียงอาจารย์ที่บรรยายธรรมะและถ่ายทอดธรรมะของพระพุทธเจ้า นั้นฟังง่ายและไม่น่าเบื่อ  ผลที่ได้ฟังธรรมวันนั้นทำให้ความรู้สึกหลายอย่างที่เคร่งเครียดจากงานประจำค่อยผ่อนคลายเปรียบเหมือนฟ้าประทานความสว่างในโลกธรรมมาให้  นับแต่นั้นเป็นต้นมาดิฉันได้ติดตามฟังธรรมะของอาจารย์ทุกวัน  และในวันหนึ่งทางรายการเชิญผู้ฟังเข้าร่วมฟังการทำนายโหราศาสตร์ที่โรงแรม แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ที่นั่งเต็ม เพราะมีลูกศิษย์เข้าฟังจำนวนมาก  และต่อมาดิฉันจึงได้ไปสมัครเรียนโหราศาสตร์ แบบติวเข้ม โดยมีครูพี่เลี้ยง และมีการออกนอกสถานที่เพื่อทำบุญที่วัดต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  และได้ติดตามอาจารย์อย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งนับจากวันนั้นถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา ๘ ปี 
 

อาจารย์เป็นแบบอย่างในการแต่งกายงาม จำได้ว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เริ่มใส่ผ้าซิ่นไปวัด  เพราะกติกาของอาจารย์ต้องนุ่งผ้าซิ่นเท่านั้น   ตั้งแต่สาวจนมีลูก ดิฉันจำได้ว่านุ่งซิ่นครั้งแรกตอนแต่งงานและเก็บไว้เป็นที่ระลึกเลย การที่อาจารย์อบรมเขี่ยวเข็ญให้ลูกศิษย์เห็นความดีงามในการสวมใส่ผ้าซิ่นไปวัด นั้นไม่น่าจะเชื่อว่าจะเป็นตัวช่วยทำให้กริยาต่าง ๆ ของเราจากการเดินแบบเร็ว หรือ ทำอะไรเร็ว ก็ค่อยลดดีกรีลงไปเริ่มเดินช้า ๆ  มีการกระทำที่นุ่มนวลขึ้น ค่อย ๆ คิดหาเหตุผลมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว 
 

อาจารย์ แอน เป็นผู้นำแห่งการทำบุญให้ทานที่ถูกวิธี  การสร้างพระพุทธรูป  การปลดลดความตะหนี่ถี่เหนียวในการบริจาคทรัพย์ เพื่อเป็นทำบุญทำกุศล รวมทั้งการช่วยเหลือบำรุงญาติพี่น้อง เพื่อน ผู้ร่วมงาน เป็นการสร้างบารมีที่ทำให้มีคนรักเราเพิ่ม  มิใช่ว่าเดิมจะไม่เคยทำแต่ทำแบบไม่ไม่มีครูบาอาจารย์สั่งสอนและการทำแบบที่อาจารย์ทำเป็นตัวอย่างทำให้เราสละความตระหนี่ลงได้ เริ่มเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น  มีคำว่าอภัยทานมากขึ้นไม่ยึดตัวตน  ทำให้เราสามารถสงบและหาความสุขแม้จะอยู่ท่ามกลางความเลวร้ายต่าง ๆ  และย่นระยะความโกรธที่เคยติดอยู่นานนับวันเป็นไม่กี่นาที
 

อาจารย์แอนมีวิธีการถ่ายทอดความรู้ทั้งด้านโหราศาสตร์  ฮวงจุ้ย แม้แต่วิชาไพ่ทาโร่ต์ ก็ไม่เหมือนใคร เวลาเรียนกับอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้อย่างมากมายทุกเรื่อง ทั้งเรื่องโบราณ และในยุคสมัยใหม่  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ   มีความสามารถนำมาอธิบายและปรับใช้กลับเหตุการณ์ในปัจจุบันได้อย่างยอดเยี่ยม  อันวิชาความรู้ที่อาจารย์พากเพียรค้นคว้าเพื่อให้ลูกศิษย์ทุกคนสามารถเข้าใจได้นำไปใช้งานได้ เป็นการเรียนที่ฟังเท่าไรก็ไม่อิ่มเอม  การติดตามอาจารย์แอนไปทุกที่จะได้คติสอนใจในการนำมาแก้ความไม่รู้ ของตนเองทุกครั้ง นับว่า เป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ที่ได้เป็นศิษย์อาจารย์แอน
 

สิ่งที่ประทับใจที่สุดในชีวิตคือการติดตามอาจารย์ไปสังเวชนียสถาน ทั้งที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนาและปรินิพพาน  การเดินทางในครั้งนั้นมีความประทับใจอย่างสูงสุดทำให้สามารถเห็นธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนเหล่าเวไนยสัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย  เข้าใจแล้วว่าการติดสุขของเรามากเกินไปเป็นเหตุของคำว่าทุกข์ นั่นเอง ถ้าไม่ติดสุขก็ไม่มีทุกข์ เราสามารถหาความสุขได้ทุกที่แม้แต่ที่ที่เราเห็นว่าเป็นทุกข์ ซึ่งอาจารย์แอนได้เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตที่สงบ สันติ และมีความสุขอยู่ท่ามกลางมรสุมชีวิตที่เลวร้ายได้อย่างปลอดภัย หากศิษย์ที่ไม่ได้ติดตามอาจารย์แอนมาอย่างต่อเนื่องอาจจะไม่เข้าใจถึงข้อธรรมนี้
 

ในโอกาสวันไหว้ครูในปี ๒๕๕๔ นี้ ลูกศิษย์คนนี้ ขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงสุด  และขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกขอให้อาจารย์มีความสุขและสุขภาพแข็งแรง และขออนุญาตอาจารย์ขอติดตามเป็นลูกศิษย์ทั้งในภพนี้และในภพหน้า
 

                                                                                                                                                                       ด้วยความเคารพอย่างสูง

                                                                                                                                                                         วันทนา  สุกแสงดาว
 

 

แก้วสารพัดนึก
 

            มีศิษย์หลายท่านมาขอให้เขียนบทความเพื่ออาจารย์แอน  ผู้เขียนก็ตอบรับทันที  เพราะมีคำสอนของอาจารย์อยู่หลายข้อที่ผู้เขียนเห็นว่าควรบอกต่อ  ผู้อ่านอาจจะรู้อยู่แล้ว หรือรู้มากกว่า แต่ไม่เป็นไร รู้แล้วก็อ่านได้อีก  บทความนี้  มีเนื้อหาเหมาะกับผู้อ่านทุกวัยที่อ่านแล้วเข้าใจถูกต้อง
 

อาจารย์สอนว่า ธรรมะเป็นแก้วสารพัดนึก  ศิษย์อาจารย์แอนก็มีแก้วสารพัดนึกกันทุกคน  คือมีอาจารย์แอนของเรานี่แหละ  ก็เลยต้องยึดมั่น ถือมั่นกัน  บางคนก็ยึดไว้ขอ บางคนก็นับถือ เอาไว้บูชา  บางคนก็นับถือไปด้วย  ขอไปด้วย บูชาไปด้วย  แถมเวลามีข่าวอะไรมา ก็สงสัยไปด้วย  เข้าใจเอาเองว่า เวลาขอไม่สงสัย  เวลาสงสัยไม่ขอ

            ผู้เขียนเป็นศิษย์ที่จัดตัวเองอยู่ในรุ่น   ‘อาจารย์คะ  อาจารย์ขา’  คือมีอะไรก็ถามอาจารย์ไว้ก่อน  เรียกได้ว่ามีโปรแกรมอัตโนมัติบางทีไม่มั่นใจ  ยังถามอาจารย์อีกว่า  อาจารย์คะ  จะถามอาจารย์ดีไหมคะ ? …………………….. ทีนี้ อาจมีศิษย์รุ่นเดียวกันเยอะมากก็ได้  อาจารย์เลยพยายามสอนให้ศิษย์ทั้งหลายปฏิบัติธรรม  ซึ่งนำไปสู่การมีแก้วสารพัดนึกไว้ครอบครอง ตลอดเวลา แบบ private and confidential   ภาษาไทยแปลแบบฉบับผู้เขียนห้ามเลียนแบบ คือ ธรรม นั้น เป็นสันทิฏฐิโก เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง  และถ้าเคยปฏิบัติแล้วเลิกปฏิบัติ จะรู้เองว่าไม่เหมือนเดิม  ด้วยเหตุนี้จึงบอกว่าส่วนตัวและลับเฉพาะ
 

ผู้เขียนก็ไปถามอาจารย์อีกว่า  อาจารย์ขา อาจารย์บอกว่าแก้วสารพัดนึกจะมีได้โดยการปฏิบัติธรรม  ปฏิบัติอย่างไรหรือคะอาจารย์ที่เป็นธรรม  และอย่างไรไม่เป็นธรรม  แล้วเราจะรู้ตัวเราได้อย่างไรว่า เราปฏิบัติถูกหรือผิด  แอบถอนหายใจในสมาธิเฮือกหนึ่งที่ศิษย์ไม่รีบร้อนในพัฒนาการทางปัญญา  อาจารย์ก็เมตตาอธิบาย  อธิบายเสร็จผู้เขียนก็ถามต่ออีกว่า  แล้วเราจะไปบอกต่อคนอื่นได้อย่างไรคะ อาจารย์เข้าสมาธิไปเช็คไอคิว อีคิวศิษย์อยู่หลายวัน ก่อนจะเขียนบทความเผยแพร่วันพระให้อ่านกันจะจะเป็นคำตอบ   

ยังค่ะ  ศิษย์ยังไม่กระจ่างค่ะ   เพราะว่าถ้าอาจารย์เป็นโปรแกรม  window 7  ศิษย์คงเป็นแค่โปรแกรมอะไรสักอย่างก่อน  Window XP  และเผลอๆ ไม่ถึง Window ด้วยซ้ำ คงแถว ๆ MS-DOS  อาจารย์บอกว่า  ขั้นสมาธิยังไม่พอค่ะ  เมื่อสมาธิดีพอจะเข้าใจที่อาจารย์อธิบายค่ะ  ศิษย์รู้ตัวทันทีว่า ที่ไม่เข้าใจ ไมใช่ที่อาจารย์อธิบายแล้ว แต่เป็นที่อาจารย์ยังไม่ได้อธิบายมากกว่า  เพราะว่ายังไม่มีภูมิธรรมพอจะเข้าใจ แต่มีพอจะรู้ว่ามีอะไรมากกว่านี้  อาจารย์ตอบได้ทุกคำถาม  อยากได้อะไรให้บอก  จะได้บอกข้อธรรมให้น้อมไปปฏิบัติ 

 

เฮ้อ  ….. อาจารย์ตอบได้ทุกคำถาม  แต่ศิษย์ได้แค่ถามได้ทุกคำถาม   …….ทำไงดี

 

วันนี้  อาจารย์อยู่ก็ดูแลเรา  สอนเรา  ให้อภัยเรา  เข้าใจเรา อดทนกับเรา  มีมานะกับเรา  เราเห็นอาจารย์เป็นแก้วสารพัดนึกของเรา มีอะไร ก็ อาจารย์  อาจารย์คะ อาจารย์ขา บ้านมีปัญหา ธุรกิจเชื่องช้า  ลูกค้าไม่มี  ลูกป่วย สามีหาย อาจารย์ช่วยได้  ตอบได้ทุกคำถาม  เราก็อยู่สบายมีปัญหาอะไร (อาจารย์ ) แก้ได้หมด  ทุกคำตอบคืออาจารย์

 

ทำไมอาจารย์ทำได้ทุกอย่าง  ตอบได้ทุกข้อ  ทำไมอะไร อะไร มาถึงมืออาจารย์แล้ว  ……เป็นคำตอบสุดท้าย
 

เพราะอาจารย์มีธรรม  และธรรมที่อาจารย์มีก็มาจากการปฏิบัติ  ……… อาจารย์บอกว่า  การปฏิบัติธรรม  ไม่มีจริงหรือปลอม  ปฏิบัติคือปฏิบัติ  ไม่ปฏิบัติคือไม่ปฏิบัติ  ถ้าผลที่ออกมาไม่เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น อย่างนี้ไม่เรียกว่าปฏิบัติธรรม  จึงไม่มีคำว่าปฏิบัติปลอม 
 

เรากำลังอาศัยธรรมของอาจารย์ ในการดำรงอยู่  หรือว่าเราได้สร้าง และปฏิบัติธรรมตามคำสอนของอาจารย์  เพื่อค้นพบแก้วสารพัดนึกที่เป็นของเฉพาะตัว  และย่อมคงอยู่กับเราตราบใดที่เรามีธรรม  ผู้เขียนมั่นใจ  (แบบไม่ฟันธง)  ว่าศิษย์ทั้งหลายร่วมอาจารย์  กำลังปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ  และจะดูแลรักษาธรรมที่ปฏิบัติอยู่ก็ดี  ที่เรียนรู้จากอาจารย์ก็ดี  เพื่อให้ธรรมนั้นตั้งอยู่ได้นาน  อาจารย์บอกว่าธรรมเป็นเรื่องต้องปฏิบัติ  เหมือนเราทำความสะอาดบ้าน  ต้องทำทุกวัน  วันละกี่ครั้งล่ะ  ก็แล้วแต่บ้าน  อย่างห้องพระบ้านอาจารย์ทำวันละสองครั้ง เพราะมีฝุ่นมาก  ทีนี้เราได้คิดใช่แล้ว  บางห้องฝุ่นน้อยก็ทำครั้งเดียว  บางบ้านฝุ่นมากก็ทำนานหน่อย   อย่างเช่นที่เราไปทำความสะอาดวิหารที่วัดหลวงบางแพด้วยกัน  วิหารปิดไว้นาน เมื่อเปิดออกมาทำความสะอาด ก็มีฝุ่นมาก  ต้องใช้ทั้งคนและเวลามาก 
 

ฝุ่นในบ้าน  คงเหมือนกิเลสในจิตใจเรา  ต้องสำรวจใจทุกวัน  ชะล้างจิตใจทุกวัน  จะเอาอะไรไปล้างกิเลสในใจเรา  เอาอะไรไปล้างความกลัวในใจเรา  กลัวว่าไม่มีกิเลสแล้วจะอยู่อย่างไร  บ้านไม่มีฝุ่นไม่มีใช่ไหม  ล้างด้วยศรัทธา  ศีล สมาธิ  และสติ  ลองตั้งใจ
 

อาจารย์บอกว่า  ถ้าเราสั่งตัวเองไม่ได้ ก็สั่งใครไม่ได้หรอกค่ะ
 

ขอสั่งตัวเองให้เป็นศิษย์ที่ดี  มองอะไรด้วยเหตุและผล  มีธรรม ปฏิบัติธรรม  และอยู่ในธรรม
 


ธรรม  เป็นแก้วสารพัดนึก  อาจารย์ก็เป็นแก้วสารพัดนึกให้ศิษย์  ศิษย์มีธรรม ก็เหมือนมีอาจารย์อยู่กับศิษย์ไปตลอด



 

สันทิฎฐิโก       เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง

อกาลิโก           เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และเห็นผลได้ไม่จำกัดกาล

เอหิปัสสิโก     เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด

โอปะนะยิโก   เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว

ปัจจัตตัง  เวทิตัพโพ  วิญญูหิติ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้

 

            ขอกราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญอาจารย์  ในความเพียรพยายามขัดเกลาศิษย์ เผยแพร่ธรรม และทนุบำรุงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา.  สาธุ.. สาธุ.. สาธุ

 

                                     25 กรกฎาคม 2554

                                            เดือนรุ่ง

 

  

 

  

 

โปรดติดตามตอนต่อไป