ชื่อเรื่องยังกับอยู่ในภาพยนตร์กำลังภายใน แต่ไม่ใช่ค่ะ เป็นลักษณะหนึ่งของทำเลที่ควรระวัง

ท่านที่เดินทางไปต่างจังหวัด หากไม่มัวแต่หลับไปตลอดทาง การเดินทางแบบนี้จะทำให้เราได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของสองข้างทาง  และในบางครั้ง ก็จะมีต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่ายืนต้นตายให้เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ

เวลาติดตามอาจารย์แอนไปต่างจังหวัด อาจารย์มักสอนเหล่าศิษย์เสมอค่ะว่า อย่าสักแต่เห็น แต่จงสังเกตธรรมชาติแล้วแปลออกมาด้วย

อาจารย์แอนบอกว่า ต้นไม้ที่ถูกฟ้าฝ่าเหล่านี้เป็นตัวแทนของธรรมชาติแบบหนึ่ง ที่ผู้รักในศาสตร์ของฮวงจุ้ย สามารถอ่านแล้วนำประยุกต์ใช้กับทำเลได้

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจธรรมชาติด้วยว่า หากในยามที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ฟ้าแลบฟ้าร้องแล้วสิ่งที่จะตามมาก็คือ ฟ้าผ่า แต่ ฟ้าย่อมไม่ได้ผ่าทุกที่  ดูจากต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่า เราจะสังเกตเห็นได้ว่า มักจะยืนต้นอยู่โดดเดี่ยว ไม่ใช่ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่กันเป็นกลุ่ม

สิ่งนี้บอกอะไรกับเรา

อาจารย์แอนขยายความว่า ธรรมชาติเหล่านี้สามารถนำมาอธิบายออกมาเป็นลักษณะของผู้คนได้ หากผู้ใดผู้หนึ่งทำอะไรที่ดูโดดเด่นมากไป เกินไปกว่าธรรมชาติหรือผู้คนที่อยู่แวดล้อม เมื่อมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เรื่องก็ย่อมจะลงไปที่คนๆ นั้นก่อนเป็นธรรมดา เฉกเช่นเดียวกับต้นไม้ที่ยืนต้นโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่ง เมื่อฝนตกฟ้าคะนอง ก็ย่อมถูกฟ้าผ่าก่อนต้นอื่น ๆ

หากมาเปรียบกับทำเล ใครก็ตาม ที่ปลูกสร้างบ้านโดดจากสิ่งแวดล้อมใกล้เคียง ไม่ว่าจะด้วยสีสัน หรือรูปทรง ยกตัวอย่างเชน ในแถบนั้นเขาทาสีบ้านเป็นสีอ่อน ๆ กัน แต่คุณกลับทาสีส้มแปร๊ด ลองสังเกตดูเถิด มักมีเรื่องโน้น เรื่องนี้วิ่งเข้ามาหาคุณอยู่เรื่อย ๆ นี่คือความหมายของ ทำเลฟ้าผ่า

ไม่ได้บอกว่า ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่นะคะ

เพียงแค่อยากให้สังเกตดู แล้วคุณจะสนุกกับอ่านแล้วก็แปลธรรมชาติค่ะ