ฮวงจุ้ย
- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
ผลงานและบทความพิเศษของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์
ประสบการณ์การเลือกซื้อบ้าน
13 เม.ย. 2561
13 เม.ย. 2561
ปัจจุบันคนเลือกซื้อบ้านค่อนข้างสบาย เพราะบริษัทบ้านจัดสรรจะเลือกทำเลที่เหมาะสม แล้วคนซื้อบ้านก็ไปเลือกทำเลที่เหมาะกับตัวเอง
การตรวจสอบทำเลของบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ควรที่จะขึ้นที่สูง เพราะสามารถเห็นสภาพแวดล้อม เห็นตึกเห็นถนนล้อมรอบ เห็นป้ายพุ่งเข้าชน เห็นหลังบ้านมีซอกมีซอยที่ทำให้เกิดลมชี่สังหารหรือไม่ และเมื่อลงรายละเอียด ดูบ้านจัดสรร ควรจะดูแปลนบ้าน เหมือนมองบ้านจากที่สูง ประการที่สอง ให้ดูสภาพแวดล้อม แม้วิทยาการสมัยใหม่ช่วยให้เราสามารถดูแผนที่ดาวเทียมได้ แต่การตรวจจากผังหรือแผนที่ดาวเทียมไม่เท่ากับการสัมผัสจริง เพราะเราจะสัมผัสลมที่ต้องผิวกาย แสงแดด กลิ่น ความรู้สึกสัมผัสแรกในการเข้าพื้นที่ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้วิชาโหราศาสตร์และฮวงจุ้ยยังเป็นวิชาจิตศาสตร์ คือยังต้องใช้ความรู้สึกสัมผัสแรกที่จะต้องฝึกให้ตรงไปตรงมา ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงมีหลายคนถามว่าทำไมปฎิบัติธรรมจึงไปปนกับโหราศาสตร์ฮวงจุ้ย คำตอบคือมันตรงที่จิตเราต้องนิ่ง
ผังโครงการหมู่บ้านจัดสรร เราต้องมองให้ออกว่าเป็นรูปอะไร เช่นเป็นรูปมังกร รูปสุนัข ฯลฯ ครั้งหนึ่งไปดูผังเป็นรูปนก แล้วอาจารย์ตรวจดูดวงจีนของผู้ที่จะเข้าไปซื้อ ปรากฏว่า ระกา ในดวงจับยี่เซียงแช อยู่ในตำแหน่งเจ๊าะหรือสูญสิ้น และตำแหน่งที่ซื้อก็เป็นตำแหน่งหัวใจของนกความหมายก็คือ เมื่อซื้อบ้านหลังนี้แล้ว เมื่อย้ายเข้าไปอยู่ หัวใจจะหยุดเต้น
มีอีกตัวอย่าง ลูกศิษย์ไปเลือกซื้อบ้าน ปรากฏว่าผังโครงการเป็นรูปหัวมังกร และเขามีอาชีพทางด้านอบรมสัมมนา อาจารย์ก็เลือกตำแหน่งที่เป็นปากมังกรซึ่งสอดคล้องกับอาชีพของเขา อีกท่านหนึ่งเป็นเซลล์วิ่งขายของ ไปเลือกหมู่บ้านที่ผังโครงการเป็นรูปม้า อาจารย์ก็ให้ไปเลือกบ้านตรงกับตำแหน่งขา ดังนั้นเวลาแต่ละคนเลือก ก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นตำแหน่งหัวมังกรเสมอ บางคนอาจจะอยู่ตำแหน่งหาง ขาหรือท้องก็ได้ แล้วแต่อาชีพ
บางครั้งบางโครงการ ผังดูยากว่าเป็นรูปอะไร เราอาจจะแยกดูเป็นเฟสๆก็ได้ ยกตัวอย่าง เช่นโครงการที่ได้ไปดูมา ผังโครงการค่อนข้างดูยาก แต่พอดูแยกทีละเฟส ปรากฏว่าเฟสที่หนึ่งถนนโอบ ก็จะเป็นเฟสที่ดี เฟสที่สองผ่านน้ำเข้าไปเป็นเวิ้งใหญ่ เหมือนถุงเงิน อยู่ในทิศที่เหมาะสม ซึ่งแน่นอน ต้องให้เลือกที่เฟสสองนี้
ถ้าหมู่บ้านลึกมาก ยิ่งไกลจากถนนใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ต้องมีน้ำ ถนนใหญ่เปรียบเสมือนแม่น้ำ ถนนสายย่อยลงไปเปรียบเสมือนคลอง เมื่อน้ำในเฟสลึกๆ ไม่มี ผู้อยู่อาศัยอาจจะประสบปัญหาทางด้านธุรกิจได้ ทางแก้ก็คือ ในบ้านต้องทำตำแหน่งน้ำครบทั้งสามทิศ ด้านตะวันออก ทำเป็นแอ่งน้ำมีการเลี้ยงปลาเพราะตรงกับหน้าบ้าน ทางตะวันตกทำเป็นน้ำล้น ด้านตะวันตกเฉียงใต้ทำเป็นน้ำตกไหลเข้าบ้าน อย่าทำให้เหมือนกัน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติที่มีน้ำล้อมรอบ บ้านจะดูสดชื่นแล้วปลูกไม้ดอกซึ่งมีความหมายว่า มีน้ำ มีไม้ดอกออกผล แต่ถ้าใช้วิธีนี้ ต้องตามไปดูที่ทำงานด้วย เปรียบเหมือนกับ ถ้าออกจากบ้านที่อุดมสมบูรณ์แล้ว เรากับควรจะไปอยู่ในที่ทำงานที่อุดมสมบูรณ์ด้วย จะได้สอดคล้องกัน หลายคนจึงไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ดูบ้านแล้ว ต้องไปดูที่ทำงาน หรือดูที่ทำงานแล้วต้องมาดูบ้านด้วย
อีกประเด็นหนึ่งสำหรับคนซื้อบ้านจัดสรรรคือ มักจะจอดรถที่โรงรถแล้วก็จะเข้าประตูเล็กที่โรงรถเลย ไม่ได้ใช้ประตูใหญ่ แต่หลักของฮวงจุ้ย ประตูหน้าบ้านถือเป็นประตูอาชีพและเป็นประตูรับทรัพย์ จึงต้องไปปรับแก้ตรงนี้ โดยการทำให้ประตูหน้าบ้านโดดเด่น ใครมาก็ต้องรู้ว่านี้คือประตูใหญ่
บางคนถือหลักฮวงจุ้ยว่า ถนนโอบบ้านเป็นเรื่องดี ก็เลยทำถนนโอบบ้านแล้วไปจอดรถหลังบ้าน แล้วเดินเข้าประตูเล็กตรงครัว ประตูใหญ่ปิดตลอด เหมือนกับว่ามังกรแอบเลื้อย ความโออาไม่มี เท่ากับว่าการจะได้ธุรกิจอะไรมา ต้องจ่ายใต้โต๊ะตลอด และประตูใหญ่อย่าไปทำหลายชั้น ทั้งประตูหน้า ประตูเหล็กดัด ประตูมุ้งลวด รวมทั้งม่านสุดท้ายก็ไม่ได้เปิด เท่ากับปิดตายประตูอาชีพและรับทรัพย์ ถ้าบ้านมีประตูทางเข้าทางเดียว ก็ต้องระวังอย่าให้ประตูตก โทรมหรือเก่า ต้องให้ดูดี เพราะนั่นคืออาชีพของเรา
