ตำแหน่งความร่ำรวยของแต่ละบ้าน มีอยู่เพียงตำแหน่งเดียว คือตำแหน่งครัวนั่นเอง บางครั้งเราเรียนวิชาฮวงจุ้ย เรียนทำเลนอกบ้าน ในบ้าน สภาพแวดล้อมสบูรณ์หมด ลืมอย่างเดียว คือลืมครัว แถมไม่ใส่ใจขนาดของหม้อข้าวด้วย

สังเกตได้ชัดจากบ้านโดยทั่วไป ประมาณ 70% ครัวจะเล็กมาก แถมอาจจะรกที่สุด ด้วยทุกอย่างไปอยู่ในครัว เวลาซื้อของกลับมาก็ตั้งบนโต๊ะอาหาร เพราะฉะนั้น ดูทำเลรอบๆ ตัวแล้ว สมควรอย่างยิ่งที่ ต้องไม่ลืมหันมาดูครัว

ครัวคือสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ของแต่ละครอบครัว และเวลาเราจัดบ้านไม่ได้นึกถึงครัว ทรัพย์สินเงินทองจึงรั่วไหลออกหมด มีเท่าไรเสมือนปราณรั่วทุกทิศทุกทาง แถมปล่อยให้น้ำฝนสาดใส่เตา น้ำกับไฟปะทะกัน เป็นเหตุให้ทะเลาะกันอีกภายในบ้าน

ยกตัวอย่างชาวจีน นับแต่โบราณมา ทุกบ้านจะมีครัว ผู้หญิงจะเข้าไปทำครัวเลี้ยงสามี พ่อแม่สามี ลูก บริวาร ถ้าฐานะดี ข้าวของ เครื่องใช้ อาหาร ก็จะดี สามารถแบ่งได้ว่า อาหารนี้ของพ่อแม่สามี ของสามี อันนี้ของคนงาน อันนี้ของฝ่ายใน ฝ่ายนอก แสดงว่าบ้านนี้มีอันจะกิน เป็นบ้านเศรษฐี สำหรับบ้านคนจน ก็ต้องกินถั่วต้มเหมือนกันหมด ทุกครัวเรือนจะใช้ห้องครัวไว้ปรุงอาหาร คุณภาพและปริมาณของอาหาร ก็จะสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรือง สุขภาพและสวัสดิการของครอบครัว

ด้วยเหตุนี้ ครอบครัวชาวจีนจึงมีความเชื่อที่จะไม่ปล่อยให้ถังข้าวสารว่างเปล่า ยุ้งฉางสมัยก่อนจะต้องเต็มไปด้วยข้าว เป็นสัญลักษณ์ว่าจะมีกินตลอดปี ชาวจีนถือว่าอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่ง ห้องครัวถึงมี เทพเจ้าแห่งเตา และการตั้งเตาจะต้องตั้งไปในทางทิศที่เป็นมงคลของผู้หญิง เพื่อที่จะได้รับธาตุดีๆ

เพราะฉะนั้น ห้องครัวจึงต้องกว้างขวาง สว่าง เพื่อดึงดูดชี่ที่ดีเข้าไปหมุนเวียนภายในครัว เพราะเป็นจุดที่เรียกว่า เป็นพลังงาน การหุงต้มอาหาร คือการที่เอาพลังงานทั้งหมดใส่เข้าไปในนั้น ไปกระจายเข้าสู่ท้องคน และกระจายไปสู่การทำงานต่อไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดึงดูดชี่ที่ดีเข้าสู่ครัว แม้ในปัจจุบัน ก็ยังยึดหลักว่า การเสียบปลั๊กเตา เตาอบ ยังยึดหลักว่าต้องหันไปสู่ทิศที่ดี เพื่อให้สุขภาพดี มีโชค มีความมั่งคั่ง

หม้อหุงข้าวมีความสำคัญต่ออาหารทุกมื้อ เพราะข้าวคืออาหารหลัก ชาวจีนจะไม่วางหม้อหุงข้าวประจันกับประตูครัว จะเรียกว่า หม้อแตก รวมทั้งต้องดูแลหม้อข้าวให้อยู่ในสภาพดี ระมัดระวังเรื่องความสะอาด ถ้าเสียอยู่เรื่อย จะส่งผลกระทบทางด้านโชคลาภ ขนาดของหม้อข้าวบอกถงรายได้ คนเยอะหม้อเล็กเกินไป ก็จะมีไม่พอกิน

นอกจากนี้ ยังดูถึงข้าวที่หุงว่าแฉะหรือแห้งเกินไป ซินแสฮวงจุ้ยจะถือว่า ข้าวที่ต้มหรือหุงขณะกำลังร้อนๆ หรือว่าได้กลิ่นอาหารในครัว แสดงถึงความสุขในครอบครัวนั้น ตัวหม้อข้าวเป็นตัวบ่งบอกถึงภาชนะอื่นด้วย ถ้าหม้อข้าวบุบ ไม่สะอาด ภาชนะอื่นไม่ต้องพูดถึง

ดังนั้น เวลาเข้าไปดูครัว เราไม่ได้ดูตำแหน่งเตาอย่างเดียว ต้องดูหม้อข้าวด้วย ส่วนโต๊ะอาหารที่อยู่ในห้อง ต้องไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ต้องสมดุลกับขนาดห้องและจำนวนคนที่อยู่ในบ้าน ในอดีต ซินแสจะแนะนำให้ติดกระจกเงาไว้ด้วย เพราะจะสะท้อนภาพอาหารขึ้นเป็นสองเท่า แต่ปัจจุบัน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง มีมากขึ้น แต่ก็ต้องเป็นองค์ประกอบที่ทำให้รู้สึกว่าอุดมสมบูรณ์

ตัวอย่างเช่น รูปภาพที่นำมาติด ก็จะไม่ติดภาพทุ่งนาแห้งแล้ง ภาพสัตว์ผอมโซ ต้องติดภาพที่แสดงถึงความมั่งคั่ง และให้ความรู้สึกที่ดีในขณะรับประทานอาหาร อาจจะติดรูปครอบครัว ดอกไม้ อาหาร รูปของความอุดมสมบูรณ์ เท่ากับเป็นการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง โต๊ะอาหารเป็นตัวเสริมเตาหรือห้องครัว

ชาวจีนไม่ชอบกินอาหารที่ปกปิดมิดชิดจนเกินไป เพราะถือว่าปิดโอกาสหาเงิน ดังนั้นห้องอาหารจะไม่ใช่อีกห้องหนึ่งที่แยกออกไปต่างหากและมิดชิดจนมองไม่เห็น แต่จะเป็นส่วนขยายของห้องนั่งเล่น หรืออยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับครัว คือถูกปิดกั้นในลักษณะเก็บกักพลังงาน แต่ไม่ใช่ปิดกั้นในลักษณะปิดกั้นโอกาสหาเงิน

รูปทรงที่ดีของโต๊ะอาหาร คือ โต๊ะกลม หมายถึงการรวมของครอบครัว รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ไม่ยาวมากเกินไป รูปแปดเหลี่ยม ยังได้อยู่ จะหมายถึงความหนักแน่น มั่นคง ปราณไม่รั่ว ขาโต๊ะอาหารอย่าโยก เชื่อกันว่า หากมีขาโต๊ะที่เรียวและผอมลงไป แสดงถึงความไม่หยั่งราก ทำอะไรไม่ยั่งยืน ทำกิจการใดก็เหมือนไม่ปักหลัก วิ่งไปวิ่งมา

การแกะสลักโต๊ะอาหารเป็นรูปมังกรคาบแก้ว จะเป็นสัญญลักษณ์ที่ทำให้ครอบครัวได้รับโชคลาภ แต่ต้องดูก่อนว่าเราทำงานอะไร บ้านเราขนาดใหญ่แค่ไหน ถ้าเป็นทาวน์เฮ้าส์เล็กๆ และได้โต๊ะมังกรคาบแก้วมา เราจะแบกแก้วไม่ไหว ถ้าเป็นครอบครัวเล็กๆ อาจมีรูปมงคล ฮก ลก ซิ่ว ก็เพียงพอแล้ว