ฮวงจุ้ยพื้นฐาน

 

เคล็ดการดูทำเลแบบโบราณ ตอนที่ ๑
24 เม.ย. 2560

 

ฮวงจุ้ยในสายตาบุคคลทั่วไป ยังคงเป็นศาสตร์ลี้ลับ บางคนยังบอกว่า งมงายไร้สาระ บางคนทำหน้าเหมือนเหลวไหลสิ้นดี ก็ต้องปล่อยเขาไปก่อน อย่าพยายามยัดเยียดศาสตร์โบราณนี้ ให้ผู้ไม่รู้คุณค่าเป็นอันขาด เปรียบเสมือนคนไม่ชอบรับประทานลูกชิ้นปลาโบราณ จะไปยัดเยียดชักชวนอย่างไรก็ไม่เอา ถือว่าไม่มีวาสนาได้รับประทานของอร่อย จริงไหม

 

ปัจจุบันได้มีการนำศาสตร์โบราณมาประยุกต์ใช้กับรูปแบบบ้านสมัยใหม่ เพราะถ้าขืนดื้อดึงดัน เอาแต่ศาสตร์โบราณแท้ๆ มาใช้ ศาสตร์ที่มีคุณค่าคงไร้ผู้คนสนใจ และต้องสาปสูญหายไปในที่สุด บางสิ่งบางอย่างที่ไม่เข้ายุคสมัย ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องงดใช้ไปโดยปริยาย

 

การตรวจดูสภาพแวดล้อม มีหลักง่ายๆ คือ ความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ก็คือเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูฝืนธรรมชาติ ทั้งนี้หมายถึงธรรมชาติของตัวเองด้วย แต่ปัจจุบัน มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึงด้วย เช่น เรื่องการสร้างบ้าน จะเอาแต่หลักฮวงจุ้ยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการสร้างบ้านสมัยใหม่มีความซับซ้อนมากขึ้น ต้องอาศัยการคำนวณอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย สถาปนิก วิศวกร มีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น จะยึดหลักฮวงจุ้ยชนิดข้ามาคนเดียวไม่ได้อีกต่อไป ทั้งนี้เพื่อความสุขและความสบายของผู้อยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงของเรา หรือการเอาชนะกันระหว่าง เราผู้มีความรู้ในศาสตร์นี้ กับผู้มีความรู้ในระบบโครงสร้างปัจจุบัน

 

คนจีนโบราณเวลาจะดูฮวงจุ้ย จะดูทั้งสองอย่าง คือ ดูฮวงจุ้ยของบ้าน กับดูฮวงจุ้ยของหลุมฝังศพ ซึ่งถ้าเป็นลักษณะของหลุมฝังศพ จะต้องอยู่ในที่ดินดี สภาพแวดล้อมดี พร้อมด้วยทำเลมังกร ทำเลหงส์ น้ำดี ดินอุดม เพื่อว่าจะได้คุ้มครอง ปกป้องลูกหลานต่อไปในวันข้างหน้า ในทางกลับกัน หากตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ดี ก็จะส่งเคราะห์กรรมให้กับลูกหลาน

 

ส่วนบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย คนจีนโบราณก็มีหลักเกณฑ์ที่ค่อนข้างเข้มงวด เพราะในสมัยโบราณ จะมีเรื่องประเพณี ความเชื่อถือ ตลอดจนความเชื่อในเรื่องเทวดา ภูตผีปีศาจ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งต่างกับประเพณีความเชื่อในยุคปัจจุบัน

 

อย่างไรก็ตาม ความยากในการตรวจดูทำเลไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ เพราะเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจมากกว่า แต่ความยากจะอยู่ที่การวิเคราะห์ หรือการอ่านทำเลให้ถูกต้อง และการเข้าถึงทำเลนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ภูมิปัญญา รวมถึงไหวพริบ ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ การฝึกฝน ตลอดจนพรสวรรค์ส่วนตัว

 

ประสบการณ์หรือการฝึกฝน เป็นเรื่องที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง หลายคนเกรงคำว่า “พรสวรรค์” มักพากันถามอาจารย์ว่า ต่างคนต่างมีพรสวรรค์หรือไม่

 

พรสวรรค์ เกิดจากความมี “ฉันทะ” อย่างลึกซึ้ง คือความชอบที่จะต้องประกอบไปด้วยความเพียร ความใส่ใจ ตลอดจนคิดค้นหาวิธีให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะรวมถึงความละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบ ในการสังเกตและสำรวจตรวจตรา และจะไปถึงคำว่า “ริเริ่มและสร้างสรรค์”

 

การดูฮวงจุ้ย ถือเป็นภูมิปัญญาของบรรพชนชาวจีน เกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมมานับพันๆ ปี แต่เราก็ไม่สามารถจะยึดเอาทฤษฎีของคนโบราณมาใส่ในยุคใหม่ โดยไม่มีการใคร่ครวญปรับประยุกต์เลย ซึ่งแน่นอน มันยอมเข้ากันไม่ได้ อย่างนี้เป็นความล้มเหลวของนักดูฮวงจุ้ย ที่ไม่รู้จักกาลเวลาที่จะใช้ศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพลักษณ์ของศาสตร์ที่มีค่านี้เสียไปอย่างน่าเสียดาย

 

เราคงเคยเห็นบ้านชาวจีนโบราณมาบ้างแล้ว จากภาพยนตร์บ้าง จากที่เคยไปเที่ยวมาบ้าง และบางคนมีบรรพบุรุษอยู่เมืองจีน ก็ได้มีโอกาสเห็นหรือสัมผัสมาแล้ว ฮวงจุ้ยก่อกำเนิดมาจากการพิจารณาบ้านโบราณเป็นหลัก เมื่อเราอยู่ประเทศไทย เราก็ต้องศึกษาลักษณะบ้านไทย รวมถึงตำราการสร้างบ้านไทยโบราณอีกเช่นกัน นี่ถือเป็นความรู้พอกพูนและเพิ่มเติม เป็นประสบการณ์ของตนเอง ที่จะตรวจเช็คทำเลได้กว้างขวางขึ้น

 

นอกจากนี้ สิ่งที่เราต้องคำนึงเพิ่มเติม คือ สุขอนามัย สิ่งแวดล้อม พูดเอาใจนักวิชาการสมัยใหม่ คือระบบนิเวศวิทยา

 

สุขอนามัย สิ่งแวดล้อม ที่เรารู้จักมากที่สุด คือ เรื่องแสง และการถ่ายเทอากาศ ตลอดจนความสะอาด เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลกับสุขภาพของคนเราที่สุด จึงเป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง นอกเหนือจากการอ่านทำเล เพราะทำเลที่เสีย จะส่งผลต่อสุขภาพ หน้าที่การงาน และการเงิน โดยลำดับ นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อความขัดแย้ง ติดขัด อุปสรรคอีกด้วย ที่เรียกว่า “สภาวะหยินเข้าบ้าน”

 

โดยปกติในบ้านๆ หนึ่ง จะมีเพียงห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องน้ำ ห้องครัว ซึ่งหากห้องใดห้องหนึ่งเป็นที่มืดอับชื้น ก็จะส่งผลต่อสุขภาพก่อนทันที ซึ่งแน่นอน ก็ต้องมีผลถึงหน้าที่การงานด้วย