ฮวงจุ้ย
- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
ผลงานและบทความพิเศษของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
ฮวงจุ้ยสำนักงาน
ฮวงจุ้ยที่ทำงาน ตอนที่ ๑
4 ก.ย. 2560
4 ก.ย. 2560
บรรยากาศในที่ทำงานและเรื่องราวระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ใครที่ทำงานไม่ราบรื่นหรือว่าไม่มีความสุข ไอเดียไม่แล่น เราลองมาดูกันว่าจะมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง
จริงๆ แล้ว เวลาดูฮวงจุ้ยเราจะไม่เน้นเรื่องธุรกิจเท่าไหร่ แต่ว่าเราอยากรู้ว่าใครคือ ฮ่องเต้ ใครคือมังกร ใครคือประธาน ใครคือคนที่สำคัญที่สุด อันที่สองคือคนหารายได้หรือการตลาด อันที่สามคือคนเก็บเงินเก็บบัญชี อันที่สี่คือบริวารบุคคล เพราะว่ามันเกี่ยวกันหมด เวลาปรับทำเล ก็จะไปดูอาณาจักรของแต่ละคน แต่ถ้าสมมติว่าคนนี้เขาเป็นเองทั้งหมดเลย เป็นฮ่องเต้ ไปรบเอง หาบริวารเอง อย่างนี้ต้องแก้เยอะ ต้องไล่ตั้งแต่ที่บ้านเลย
บางท่านอาจจะมีตำแหน่งที่สำคัญในบริษัทหรือเป็นตัวหลัก แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เข้าออฟฟิต ใช้การสั่งงานทางโทรศัพท์หรือระบบ online แบบนี้ ทำเลที่บ้านต้องแข็ง ถ้าทำเลที่บ้านไม่แข็ง จะเป็นมังกรไร้หัว บริษัทเดินไม่ได้ แต่ถ้าทำเลที่บ้านแข็ง จะเหมือนใยแมงมุมคอยชักใย อันนี้ต้องเป็นทำเลที่บ้านเป็นหลักและสามารถทำได้โดยไม่ต้องไปดูทำเลที่ทำงาน
ผู้บริหารหลายๆ ท่านไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าสำนักงาน ที่นั่งที่นอนที่บ้านสำคัญที่สุด ว่ามีพลังขนาดไหน มันcompact เก็บปรานขนาดไหน แต่ว่าทำเลที่ทำงานก็มีผลอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะจะต้องเข้าไปตรวจงานที่ห้องทำงาน ดังนั้น บริเวณที่นั่งตรงนั้นต้องไม่เสียต้องไม่ตาย เช่น ต้องมีเครื่องเสียงหรือว่านาฬิกา คือนายสามารถเข้าไปทำงานได้ทุกเมื่อ ถ้าไม่มีก็มังกรไร้หัว
งานที่ไม่มีออฟฟิต หมายความว่า ตื่นเช้ามาเราต้องออกไปติดต่องานข้างนอก เช่นงานขายตรง หรือสามารถทำงานที่บ้านได้ เช่นงานขายของออนไลน์ อาชีพลักษณะนี้ ทำเลที่บ้านต้องแข็ง จุดที่นั่งที่นอนของเราต้องเข้มแข็ง คือ ก่อนออกจากบ้านอะไรส่งหลังเรา ถ้าโต๊ะอาหารส่งหลัง เราก็ต้องไปจบการขายของเราที่โต๊ะอาหารซะทุกทีไป ถ้าเราเป็นครีเอทีฟ เรานั่งทำงานบนโต๊ะทานข้าว เราจะประสบความสำเร็จได้ก็ที่โต๊ะทานข้าวอีกเหมือนกัน ถ้าเรานั่งตรงนี้เหมือนกับเป็นโต๊ะเอนประสงค์หรือจะเรียกโต๊ะประชุม เราก็ต้องไปจบที่โต๊ะประชุม หรือว่าถ้าเราชอบไปนั่งกินที่ร้านกาแฟก็ต้องไปจบที่ร้านกาแฟ
โดยรวมแล้วดูลักษณะนิสัยของตัวเราว่าเราทำงานได้มีประสิทธิภาพที่ตรงไหน ทำเลที่บ้านส่งหลังเราไหม คุณนั่งที่ไหน อย่างทำประกันเรามักจะไปเยี่ยมยืนที่เตียงพยาบาล เราอยู่ที่บ้าน เราก็ต้องพยาบาลพ่อแม่ การทำประกันในด้านของสุขภาพของเรากลับจะดี มันส่งไปจากบ้าน เราต้องมาสำรวจตัวเองก่อนด้วยลักษณะนิสัยเราเป็นอย่างไร สมมติว่าเราเป็นคนเขียนตำรา ทำเลที่นั่งต้องปิดปรานเข้าสมอง และมีองค์ประกอบที่จะให้ความรู้ เช่น วิทยุ ทีวี เครื่องเสียง หนังสือ ห้องสมุด นี่นั้นคือคนที่ทำงานเกี่ยวกับหนังสือแต่ว่าอยู่กับบ้าน การจัดทำเลก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน
ผู้บริหารบางท่านอาจจะยังไม่มีที่นั่ง ยังไม่ได้เข้าไปบริหารเต็มตัว คือ ยังเป็นที่นั่งของคุณพ่อคุณแม่อยู่ คุณพ่อคุณแม่ก็มานั่งทุกวันแต่ตัวเองเป็นคนบริหารกิจการ แต่ว่าไม่มีที่นั่ง อันนี้จะมีผลมาก ยกตัวอย่าง ลูกชายจบจากต่างประเทศ พ่อแม่ปรารถนาให้สืบทอดกิจการ แต่คุณพ่อนั่งอยู่ทุกวันเลย แล้วใครจะกล้า คือลูกก็เป็นลูกตลอด กลายเป็นเด็กไป พอจะทำอะไรขึ้นมาก็ต้องชำเลืองมองพ่อ พ่อก็บอกว่าอย่างนี้ไม่ได้ ลูกก็ไม่กล้าทำ แต่ถ้าหากว่าพ่อไม่ได้ไปนั่งดู ให้ทำไปเลย ผิดถูกรู้ได้ด้วยตัวเอง อันนี้ลูกทำได้ แต่ก็ไม่สมควรที่จะไม่มีที่นั่ง คือตอนหลังอาจารย์ก็จัดให้คุณพ่ออกมา ลูกนั่งตรงที่คุณพ่อนั่งเลย ทีนี้คุณพ่อไม่มีที่นั่ง คุณพ่อก็จะเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง พอลูกได้นั่งตรงนั้นแล้ว ทุกคนก็รู้ว่านี่คือผู้สืบทอดแน่นอน การปกครองพนักงานก็ง่ายขึ้น
ถ้าเราอยากจะทำงานให้มีประสิทธิภาพต้องมีที่นั่งที่เป็นที่เป็นทาง ในทางฮวงจุ้ย ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องอยู่ทิศไหน มุมไหน แต่หลักสำคัญคือ หลังต้องอิงกำแพง นอกนั้นไม่ได้กำหนดตายตัว บางคนไม่จำเป็นต้องมีมังกรมีเสือเลย แต่อาจจะมีโต๊ะประชุม มีโต๊ะหนังสือ มีทีวี
การติดรูปภาพในห้องทำงานก็สำคัญ บางท่านเป็นคนจีน ติดรูป ๔ ฤดูกาลกลับกัน คือไม่มีความรู้ในการอ่าน ไม่ได้ศึกษาดอกไม้ประจำฤดู แล้วออฟฟิตที่นั่นก็วุ่นวายสับสนหมดเลย เพราะว่าเกี่ยวกับฮวงจุ้ยฤดูกาล บางคนชอบเหยี่ยว ตั้งอยู่ข้างหลังก็คอยจิกคอตลอดเวลา เราจะจัดห้อง ติดรูปภาพ ก็ต้องดูรูปที่เหมาะสม
มีผู้บริหารท่านหนึ่ง ที่บ้าน รูปทั้งหมดเป็นรูปการปฏิวัติฝรั่งเศส ก็เหมือนโดนเลื่อยขาเก้าอี้ทุกวัน มีการต่อต้านกันตลอด เขาก็ถามอาจารย์ว่า ทำไมบริวารถึงต้องแย่งชิงตำแหน่งกันตลอด อยากจะให้เปลี่ยนนิสัยเปลี่ยนพฤติกรรม อาจารย์ก็บอกว่า ให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนดีไหม เอารูปปฏิวัติฝรั่งเศสออกให้หมดเลย
และพอไปดูรูปที่ห้องทำงาน เขาติดรูปเสือตัวเบ่อเร่อหลังที่นั่ง เขาบอกว่ามีคนแนะนำให้ติดรูปเสือ เราจะได้มีอำนาจ อาจารย์ก็ถามว่า เราติดรูปเสือ เราควรจะยืนอยู่หน้าเสือ หรือว่ายืนอยู่หลังเสือ หรือว่ายืนอยู่ข้างๆ เพื่อลูบหัว หรือขี่หลัง ถ้าเราขี่หลังก็อาจจะเหนื่อย แต่ถ้าเรานั่งแล้วเราลูบหัวแสดงว่าเชื่องแล้ว แต่ถ้าเราอยู่หน้าเสือเหมือนเสือจะขย้ำเรา